วิธีดูแล 5 จุดอับ ช่วยระงับกลิ่นตัวให้กับน้องหมาได้ดี

อุ้งเท้าของน้องสุนัขมีขน เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและเกิดความอับชื้นได้ง่าย

เริ่มเข้าสู่หน้าฝนกันแล้ว คนเลี้ยงสุนัขจะรู้ดีว่าเมื่อเกิดการอับชื้นสุนัขของคุณจะเริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา ทำให้กลิ่นของน้องหมาเหม็นติดตัว ติดเสื้อผ้าหรือติดตามโซฟาของเจ้าของได้ค่ะ หลายบ้านกังวลเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นตัวของน้องหมาอย่างมาก รวมถึงปัญหาผิวหนังที่เกิดจากความอับชื้น บอกได้เลยค่ะว่า การจัดการเรื่องกลิ่นตัวของน้องหมาไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เรามีวิธีจัดการมาฝากค่ะ

ถึงจะดูแลน้องหมาได้ดีมากแค่ไหน แต่เรื่องกลิ่นตัวก็มักจะหลงเหลือมาคอยกวนใจอยู่ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกลิ่นสาบบนตัว กลิ่นที่ติดตามเสื้อผ้า หรือ กลิ่นที่ติดตามเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในบ้าน วันนี้จึงมีเทคนิคในการดูแลเรื่องความสะอาดตามจุดอับต่าง ๆ บนร่างกาย เพื่อช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือ ลดกลิ่นตัวสุนัข ตามมาดูกันค่ะ

1.ช่องปากและฟัน
ถือเป็นอวัยวะส่วนสำคัญที่มักก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ โดยเฉพาะในสุนัขที่มักจะมีปัญหาสุขภาพเรื่องช่องปาก อย่าง หมาสายพันธุ์เล็กและหมาพันธุ์หน้าสั้น มักจะมีการสะสมของเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของหินปูนค่อนข้างมาก ทำให้อาจเกิดโรคช่องปากและฟัน เนื้อเยื่อปริทันต์อักเสบ ซึ่งจะทำให้ลมหายใจของสุนัขมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อีกยังสามารถนำไปสู่การติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงชีวิตและสร้างความเจ็บปวดแก่สุนัขได้ นอกจากนี้สุนัขยังมีพฤติกรรมในการเลียทำความสะอาดทั่วลำตัวที่มักทำให้เกิดกลิ่นเหม็นติดไปทั่ว เจ้าของจึงควรหมั่นแปรงฟันให้สุนัขเป็นประจำ หรือ อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ด้วยแปรงสีฟันและยาสีฟันสำหรับสุนัข รวมถึงอาจให้ของขบเคี้ยวสำหรับช่วยรักษาความสะอาดในช่องปากร่วมด้วยค่ะ

2.หู
ภายในหูของสุนัขจะมีลักษณะเป็นรูปตัว “L” จึงมักมีการสะสมของขี้หูหรือเศษเนื้อเยื่อต่างๆ อยู่ด้านใน รวมถึงขนบริเวณหูสุนัขมักจะเป็นแหล่งสะสมเห็บหมัดและเชื้อโรคได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนยาว มีใบหูยาว และ มีนิสัยชอบเล่นน้ำหากไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ดีก็จะเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ เจ้าของจึงควรหมั่นทำความสะอาดโดยการตัดขนบริเวณช่องหูให้สั้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก แล้วหยอดน้ำยาสำหรับทำความสะอาดหูสุนัขที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ บีบนวดบริเวณโคนหูประมาณ 20-30 วินาที แล้วใช้สำสีก้านเช็ดน้ำยาที่ไหลออกมาให้สะอาด เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

3.อุ้งเท้า
สำหรับอุ้งเท้าของน้องหมาเป็นอวัยวะที่ต้องสัมผัสกับพื้นดินโดยตรง เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค แบททีเรีย และ ความอับชื้น ซึ่งส่งผลให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ คราบเหลือง สังกะตัง และ การเดินที่ไม่สะดวก โดยเฉพาะในน้องหมาที่มีขนยาวปานกลาง – ยาวมาก มักจะเลียฝ่าเท้าเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เจ้าของจึงควรหมั่นทำความสะอาด เล็มขนบริเวณอุ้งเท้าและตัดเล็บให้สั้นอยู่เป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นและการเดินได้แล้ว ยังช่วยเรื่องการระบายความร้อนและการลดอุณหภูมิในร่างกายน้องหมาได้อีกด้วย

4.รอบก้น
ในน้องหมาที่มีขนยาวบางครั้งอาจจะมีอึติด ทำให้น้องหมารู้สึกรำคาญ แล้วพยายามไถก้นไปตามพื้น เกิดเป็นปัญหาและการสะสมของเชื้อโรคตามมา เจ้าของจึงอาจช่วยเล็มขนบริเวณรอบก้นให้สั้น เพื่อลดโอกาสที่จะมีอึหรือคราบสกปรกมาสะสม นอกจากนี้บริเวณรอบก้นยังมีต่อมก้นหรือต่อมเหม็นข้างทวารหนักของน้องหมา (Anal Sacs) ที่ใช้ในการผลิตกลิ่นเฉพาะ เพื่อการสื่อสารและการต่อสู้ ซึ่งจะมีอยู่ในสุนัขทุกสายพันธุ์ ในบางครั้งถ้าหากสุนัขมีอาการท้องผูก อุจจาระแข็ง ปากท่อต่อมเหม็นเล็ก หรือ ต่อมเหม็นทำงานเกินขนาด ก็จะทำให้เกิดภาวะอุดตันของต่อมเหม็นและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ตามมาได้ เจ้าของจึงอาจทำความสะอาดและช่วยกำจัดสิ่งอุดตันให้ออกจากต่อมเหม็นได้โดยการบีบของเหลวออกมาจากต่อมก้นให้หมดหรือปรึกษาสัตวแพทย์ค่ะ

5.ผิวหนังและรอยย่น
สุนัขพันธุ์ที่มีขนยาวหรือมีรอยย่นมาก อย่าง ปั๊ก อิงลิชบูลด็อก ไชนีสชาเป่ย มักจะมีผิวหนังเป็นแหล่งหมักหมมของสิ่งสกปรก เกิดการเสียดสีกันของผิวหนัง และ มีปัญหาเรื่องความอับชื้น ทำให้ยีสต์และแบคทีเรียต่างๆ สามารถเจริญเติบโตได้ง่าย จึงมักมีกลิ่นแรงและเสี่ยงเป็นโรคผิวหนัง ถ้าหากไม่ได้รับการดูแลทำความสะอาดอาบน้ำ แปรงขน อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งโดยปกติแล้ว สุนัขจะอาบน้ำประมาณ 1-2 ครั้ง ต่อเดือน ด้วยแชมพูสำหรับสุนัข ยกเว้นว่าน้องหมาจะแอบไปเล่นซุกซนทำให้สกปรกจนทนไม่ได้ เพราะ การอาบน้ำบ่อยเกินไป จะทำให้น้องหมาสูญเสียน้ำมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทำให้ขนไม่เงางาม แต่หลังจากที่อาบน้ำน้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวหรือใช้ไดร์เป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง

ทั้ง 5 จุดอับที่ DooDiDo นำมาบอกกล่าวในวันนี้ เป็นจุดที่เจ้าของสุนัขต้องดูแลให้กับน้องหมาเป็นพิเศษนะคะ เพื่อช่วยลดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ให้กับน้องค่ะ แถมยังไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นเหล่านี้จะติดเสื้อผ้าและของใช้ในบ้านของคุณอีกด้วยค่ะ หากไม่ได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจากเจ้าของ อาจเป็นสาเหตุของการอักเสบ เกิดกลิ่นเหม็น และเป็นโรคผิวหนังได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.baanlaesuan.com