มารู้จัก “กุ้งเครฟิช” กันหน่อย ก่อนตัดสินใจนำมาเลี้ยง!!

WM

กุ้งเครฟิชเป็นกุ้งที่มีสีสันสวยงาม สามารถเลี้ยงไว้สร้างรายได้ได้ดี

ถ้าจะพูดถึงกุ้งเครฟิช เป็นกุ้งน้ำจืดที่มีลำตัวใหญ่ เปลือกหนาก้ามใหญ่และดูแข็งแรง มีสีสันสวยงามและหลากสี จึงไม่แปลกใจที่คนจะให้ความสนใจนิยมนำมาเลี้ยงไว้ดูเล่น สำหรับบางรายอาจสร้างรายได้อย่างงามอีกด้วย วันนี้เราจะพาคุรมารู้จักกับกุ้งเครฟิชให้มากขึ้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจนำน้องมาเลี้ยงค่ะ

ช่วงนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่คนเลี้ยงกุ้งเครฟิช ตัวเล็กๆ สีแดง สีน้ำเงิน หรือถ้าแอดว๊านซ์กว่านั้นก็มี 7 สี ในตัวเดียว เฮ้ยยย… บ้าไปแล้ว กลายเป็นกระแสเครฟิชฟีเวอร์ระบาดไปทั่ว และมีคนเริ่มสนใจอยากจะเลี้ยงกุ้งพันธุ์นี้กันยกใหญ่ แต่ก่อนที่ใครจะตัดสินใจเลี้ยงมัน เราว่าไปทำความรู้จักกับเจ้ากุ้งเครฟิชกันหน่อยไหมค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: www.facebook.com/จำหน่ายกุ้งเครฟิชราคาส่ง-114632395815195

กุ้งเครฟิชมาจากไหน
ถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเซียตะวันออก และออสเตรเลีย ปัจจุบันมีการค้นพบมากกว่า 500 ชนิด มากกว่าครึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ โดยธรรมชาติกุ้งเครฟิชจะอาศัยอยู่ตามโขดหิน หรือใต้ขอนไม้ รวมทั้งลำธาร หนองน้ำ และทะเลสาบ

กุ้งเครฟิช
กุ้งเครฟิช หรือ ล็อบสเตอร์น้ำจืด ( Fresh–water lobster ) บางครั้งก็เรียก กุ้งก้ามแดง มีลักษณะเปลือกหนาเป็นชุดเกราะคลุมส่วนหัว-อก และลำตัว ส่วนขามี 2 ประเภท คือ ขาเดิน และขาว่ายน้ำ สำหรับขาเดินจะมี 5 คู่ คู่แรกสุดเป็นก้ามที่ใหญ่ แข็งแรง เพื่อไว้ต่อสู้ป้องกันตัว ส่วนขาว่ายน้ำจะเป็นแผ่น มีลักษณะแบน

การเลี้ยงกุ้งเครฟิช
เราเลี้ยงกุ้งเครฟิชในภาชนะใดก็ได้ ที่สามารถเปลี่ยนน้ำง่าย อุณหภูมิน้ำควรอยู่ประมาณ 23 -28 องศาเซลเซียส หากเลี้ยงหลายตัวต้องมีพื้นที่กว้างขวาง เพราะตัวโตจะมีขนาด 3-4 นิ้ว อาจต้องใช้พื้นที่อย่างน้อย 1 ฟุต ควรเลือกเลี้ยงกุ้งขนาดเดียวกัน ไม่เช่นนั้นกุ้งตัวเล็กอาจถูกรังแก และมีโอกาสที่จะตกเป็นอาหารของกุ้งตัวโตได้ นอกจากนี้ควรมีขอนไม้ กระถางดินเผา กระถางต้นไม้แตก ทำเป็นโพรงเพื่อให้กุ้งพักอาศัย เพราะธรรมชาติของกุ้งทุกชนิดชอบออกหากินในเวลากลางคืน ส่วนกลางวันจะนอน หรือหลบซ่อนตัว

WM
ขอบคุณภาพจาก: www.facebook.com/จำหน่ายกุ้งเครฟิชราคาส่ง-114632395815195

กุ้งเครฟิชมีก้ามเป็นอาวุธไว้ต่อสู้ป้องกันตัวเอง ตัวผู้จะมีขนาดของก้ามที่ใหญ่โตเพื่อเอาไว้อวดตัวเมีย แถมสีสันก็ยังสวยงามกว่าตัวเมียอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญกุ้งเครฟิชจะอ่อนแอที่สุดตอนลอกคราบ จึงไม่ควรเลี้ยงปนกันหลายตัวในที่แคบ เพราะกุ้งตัวที่ลอกคราบอาจทำร้ายกันได้เสมอ ผู้เลี้ยงควรเปลี่ยนถ่ายน้ำสัปดาห์ละครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเลี้ยง และการให้อาหารที่สร้างความสกปรกให้กับน้ำ อย่าลืมปิดฝาครอบกันกุ้งปีนหนีออกมาเที่ยวเล่นด้วยนะ ถ้าเกิดลืมคุณอาจเสียกุ้งแสนรักไปก็ได้

อาหาร
กุ้งเครฟิชจัดว่าเป็นสัตว์กินซากสามารถกินได้ทุกอย่าง ผู้เลี้ยงหลายคนนิยมให้ข้าวโพด ฟักทอง แอบเปิ้ล มันฝรั่ง ฯลฯ แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศแนะนำให้เลี้ยงด้วย ใบโอ๊ค หรือ ใบหูกวาง เพราะเชื่อว่าสามารถป้องกัน และรักษาโรคตามธรรมชาติที่เกิดกับกุ้งได้ นอกจากธัญญาหารข้างต้นแล้ว อาจให้สิ่งมีชีวิตเป็นอาหารเสริมได้ เช่น หนอนแดง ไส้เดือนแดง ไรแดง เป็นต้น แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาดกันสักนิดด้วยนะคะ สำหรับการให้อาหารไม่ต้องถี่มาก ครั้งละน้อยพอกินหมด จะได้ไม่เหลือเศษอาหาร ตัวการที่ทำให้น้ำเน่าเสีย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/angiejohnston-1023000/

การเลี้ยงรวมกับปลาสวยงาม
ถึงแม้ว่ากุ้งเครฟิชในธรรมชาตินั้นจะเก็บเศษซากพืชซากสัตว์กินเป็นอาหารหลัก แต่ในที่เลี้ยงที่มีอาหารจำกัด มันก็จะจับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ กินเป็นอาหารได้ โดยเฉพาะกุ้งขนาด 1.5 – 2.5 นิ้ว ที่มักจะชอบไล่จับปลากินเป็นอาหาร ส่วนกุ้งที่มีขนาดใหญ่ขึ้นก็จะลดนิสัยนี้ลง แต่หากต้องการเลี้ยงปลากับกุ้งด้วยกันให้ยึดหลักดังนี้
1. ขนาดตู้ ต้องกว้างอย่างน้อย 24 นิ้ว น้ำลึกประมาณ 1 ฟุตเป็นอย่างน้อย
2. ปลาที่ว่ายน้ำช้า ปลาที่มีครีบยาวๆ ปลาที่มีนิสัยนอนพื้นตู้ ไม่ควรนำมาเลี้ยงเด็ดขาด ควรเลือกปลาชนิดที่มีขนาดเล็กที่ว่ายน้ำเร็ว หรือหากินกลางน้ำ
3. ปลาซัคเกอร์ น้ำผึ้ง ปลาจิ้งจก เป็นปลาเทศบาลที่สามารถเลี้ยงได้

สวยงามน่าเลี้ยงมากๆ เลยค่ะกับนอ้งกุ้งเครฟิชหลากสี จากข้อมูลที่ DooDiDo นำเสนอเกี่ยวกับกุ้งเครฟิช จะเห็นได้ว่าการเลี้ยงกุ้งเครฟิชไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ เพียงแค่ผู้เลี้ยงต้องใส่ใจในเรื่องของที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่น้องอยู่ให้ดี กาดคุณเลี้ยงได้ดี เชื่อว่าในอนาคตน้องกุ้งเครฟิชจะสร้างรายได้อย่างงามให้คุณได้เลยนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.petcitiz.info, www.thaikasetsart.com