มารู้จักเจ้าตูบสุนัขแสนฉลาดสายพันธุ์“บาเซนจิ (Basenji)”

WM

ลักษณะสายพันธุ์ขนาดเล็กและนิสัย “บาเซนจิ (Basenji)”

สวัสดีค่ะ เพื่อนรักสัตว์เลี้ยงที่น่ารักทุกคน วันนี้เราก็กลับมาเจอกันเหมือนเช่นเคยแล้วจากครั้งก่อนที่เราได้พาเพื่อนไปดูบาเซนจิเป็นสุนัขฉลาด ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเห่าแต่ก็สามารถใช้เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี บาเซ็นจิมีสัญชาติญาณ ความเป็นนักล่าสูงอันเป็นลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ และรักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับขู่เข็ญ น่ารักแบบสุดๆ บอกเลยว่าอย่าพลาดกับบทความนี้นะ แน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่เรากลับมาเจอกันในวันสบายๆ ชิลๆ แบบนี้ก็มีสาระความรู้ เกร็ดดีเกี่ยวกับ สัตว์เลี้ยงมาให้เพื่อนได้รู้ เพื่อนสัตว์เลี้ยงที่รัก จะได้อยู่กับเราไปอีกนานๆ วันนี้เรามีเรื่องมารู้จักเจ้าตูบแสนฉลาดสายพันธุ์“บาเซนจิ (Basenji)” หากเพื่อนพร้อมกันแล้วเราไปอ่านสาระความรู้ดีๆ ในบทความนี้กันเลยค่า

สุนัขพันธุ์ บาเซนจิ (Basenji) ได้รับชื่อเล่นว่า สุนัขที่ไม่ค่อยเห่า (the barkless dog) เนื่องจากโดยธรรมชาติของ บาเซนจิ เป็นสุนัขที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยส่งเสียง และถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดจนถึงปัจจุบัน โดยมีความเกี่ยวข้องทั้งในประเทศแอฟริกาและอียิปต์ ซึ่งสุนัขพันธุ์บาเซนจิตัวแรกที่ถูกนำไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรก ในฐานะของขวัญจากสมเด็จฟาร์โรแห่งแม่น้ำไนล์ในปี 1940

บาเซนจิ นิยมใช้ในการฝึกทักษะในการล่าสุนัขสามารถใช้ทักษะสัญชาตญาณในการตามล่าหาชนเผ่าและพลเมืองยุคแรกๆ เนื่องจากความถนัดในด้านการล่าทำให้สุนัขพันธุ์นี้ จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขล่าเนื้อ และในปัจจุบันสุนัขพันธุ์นี้เป็นที่จดจำ เนื่องจากมีลักษณะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากพันธุ์อื่น คือ หน้าผากเหี่ยวย่น, หางม้วนงอ, และมีดวงตาคล้ายกับเมล็ดแอลม่อน นอกจากนี้สุนัขบาเซนจิยังเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรและฉลาดอีกด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@mariuscern

ลักษณะทางกายภาพ

สุนัข บาเซนจิ จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขขนาดเล็ก แต่มีความสง่างาม มีขนสั้น, หูตั้ง, หางม้วนงอขนาดเล็ก และมีคอที่สวยงาม บางคนมองว่าลักษณะของสุนัขบาเซนจิคล้ายกับกวางขนาดเล็ก นอกจากนี้ สุนัขพันธุ์นี้ยังมีบริเวณหน้าผากที่เหี่ยวย่นโดยเฉพาะในตอนเด็กและ ตอนที่แก่มาก ๆ และมีรูปทรงตาคล้ายกับเมล็ดแอลม่อน ทำให้สุนัขมีลักษณะดูเคร่งครึม

น้ำหนักเฉลี่ยของสุนัขบาเซนจิ ประมาณ 11 กิโลกรัม และสูงประมาณ 40.6 เซนติเมตร โดยปกติลำตัวจะมีรูปทรงเป็นเหลี่ยม ทำให้ความยามของลำตัวสัมพันธ์กับความสูง สุนัขบาเซนจิเป็นสุนัขที่เก่าแก่และมีความสามารถที่แตกต่างกับขนาดตัว พวกมันมีความสง่างาม มีท่าทางการเดินและวิ่งคล้ายกับม้าที่กำลังวิ่งเรียบ โดยมีหางที่ม้วนงอคอยเหยียดตึง เพื่อสร้างความสมดุลเวลาวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่

สีของสุนัขบาเซนจิมีทั้งหมด 4 แบบ คือ สีแดง, สีดำ, สามสี (สีดำร่วมกับสีแทน) และสี brindle (มีปื้นสีดำกระจายทั่วพื้นสีแดง) และทุกสีล้วนมีสีขาวร่วมด้วย จากการระบุในสมาคม  FCI, KC, AKC, และ UKC ทำให้มีความหลากหลายของสีมากขึ้น เช่น สี trindle คือ สีสามสีร่วมกับปื้นสีดำทั่วตัว เป็นต้น และมีอีกหลายสีที่พบในประเทศคองโก้ เช่น สี liver,  สีแดงเงา และ capped tricolors (creeping tan)

อายุขัย

อายุขัยเฉลี่ยของบาเซนจิอยู่ในช่วง 10-20 ปี ซึ่งจัดเป็นอายุขัยเฉลี่ยส่วนใหญ่ของสุนัขขนาดกลาง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@edvinasbruzas

ลักษณะนิสัย

สุนัขพันธุ์บาเซนจิเป็นสุนัขที่มีความรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของ และต้องการความสนใจและเห็นอกเห็นใจจากเจ้าของ นอกจากนี้สุนัขบาเซนจิยังมีพฤติกรรมที่เฉพาะเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งทำให้บางครั้งขาดการเชื่อฟังจากเจ้าของ และยังมีพฤติกรรมนักล่าหลงเหลืออยู่ พวกมันมีแนวโน้มจะไล่ล่ากระรอกหรือกระต่ายได้ในทุกครั้งที่พาออกไปเดินเล่น ทำให้บาเซนจิมีลักษณะและพฤติกรรมที่คล้ายกับสุนัขล่าเนื้อ

เมื่อสุนัขบาเซนจิอยู่กับแมว พวกมันสามารถปรับตัวให้อยู่กับแมวได้ หากได้รับการฝึกให้อยู่ด้วยกันตังแต่อายุยังน้อย ระวังว่าสุนัขบาเซนจิอาจไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าและไม่ควรเข้าใกล้สุนัขทางด้านหลังอย่างกระทันหัน

การเข้ากับเด็ก

สุนัขพันธุ์บาเซนจิมีความขี้เล่นในตัวอยู่แล้ว ทำให้สามารถเข้ากับเด็กได้ดี และเพื่อเพิ่มความมั่นใจควรเลี้ยงสุนัขให้โตมาพร้อม ๆ กับเด็ก เพื่อเพิ่มทักษะการเข้าสังคมและสามารถเข้ากับคนแปลกหน้าได้ง่ายขึ้น เพื่อให้สุนัขพัฒนาพฟติกรรมการเข้ากับคนได้ดียิ่งขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@jorgezapatag

การดูแล

การออกกำลังกาย

สุนัขพันธุ์บาเซนจิเป็นสุนัขที่ต้องการกิจกรรมสูง และต้องการการออกกำลังกาย 1-2 ชั่วโมงต่อวัน และทุกครั้งที่พาออกไปเดินเล่นควรใส่สายจูงให้สุนัขตลอดเวลา และเนื่องจากพฤติกรรมนักล่าและไม่ฟังใคร ทำให้พวกมันวิ่งไปไกลและวิ่งไล่สัตว์ขนาดเล็กที่เห็นหากไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

อาหาร

สุนัขบาเซนจิ ควรได้รับอาหารคุณภาพสูงเฉลี่ย 1 ถ้วยต่อวัน โดยแบ่งให้เป็น 2 มื้อต่อวัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของธัญพืช เช่น ถั่วเหลือง, ข้าวโพด, และเมล็ดธัญพืชอื่น ๆ เนื่องจากจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายและทำให้ย่อยได้ยากมากขึ้น ส่วนปริมาณอาหารที่ให้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงอายุ อัตราการเผาผลาญ ขนาดของสุนัข และกิจกรรมที่สุนัขทำ นอกจากนี้คุณภาพของอาหารก็เป็นส่วนที่สำคัญ ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ การเจริญเติบโต ความแข็งแรง และเพื่อให้สุนัขได้รับสารอาหารที่ดีที่สุด

เป็นอย่างไรบ้างคะ ก็จบลงไปแล้วน้า กับเรื่องราวที่คนเลี้ยงน้องหมา กับเรื่องราวสาระความรู้ สัตว์เลี้ยงอย่างกับ “มารู้จักเจ้าตูบแสนฉลาด สายพันธุ์“บาเซนจิ (Basenji)” DooDiDo หวังว่าเพื่อนที่เลี้ยงน้องหมาจะไปเกร็ดความรู้ไม่มากก็น้อยนะคะ นอกจากนี้บาเซ็นจิเป็นสุนัขสายพันธุ์อัฟริกา ที่หลายๆ ชนเผ่าเลือกที่จะใช้เป็นสุนัขล่าเนื้อ และถ้าหากว่าใครก็ตามที่ไม่มี บาเซ็นจิเป็นสุนัขคู่กายก็จะไม่ได้รับยกย่องว่าเป็นนักล่าสัตว์เลยทืเดียว ทั้งนี้บาเซ็นจิมีต้นกำเกิดตั้งแต่สมัยยุค ฟาโรห์ เชื่อกันว่าสายพันธุ์ของบาเซ็นจินี้มีมานานกว่าปิรามิดเสียอีก

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.baanlaesuan.com