มาทำความรู้จัก 4 สัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ ช่วยคลายเหงาได้

WM

หากใครที่กำลังคิดจะหาสัตว์เลี้ยงสักชนิดนึงมาไว้เป็นเพื่อนยามเหงา ตัวเล็ก เลี้ยงไม่ยาก วันนี้เราจะพาสัตว์ทำความรู้จักกับเลี้ยงสุดฮิต ในปี 2023 ที่เหมาะการการเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อแก้เหงาให้กับเราได้เป็นอย่างดี สัตว์เลี้ยงเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุด ที่รักและเข้าใจเจ้าของ นอกจากการช่วยบำบัดจิตใจของเราไม่ให้เหงาและรู้สึกโดดเดี่ยวแล้ว ยังช่วยให้เรารู้จักเป็นผู้ให้และเป็นผู้ดูแล ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ สนใจสิ่งรอบข้างมากกว่าตัวเองมากขึ้น การเลือกสัตว์เลี้ยงควรเลือกสัตว์ที่เหมาะสมกับตัวเอง พื้นที่อยู่อาศัย และความรับผิดชอบ และที่มองข้ามไม่ได้ หากใครที่กำลังอยู่ในช่วงเหงาไม่รู้จะทำอะไร มีไม่แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต รู้สึกเบื่อการช่วงชีวิตในตอนนี้ การบำบัดด้วยสัตว์เลี้ยงจะช่วยทำให้คุณมีสิ่งที่เราต้องโฟกัสทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ อย่ารอช้าเราไปดู สัตว์เลี้ยงคลายเหงาดีกว่าค่า

หากพูดถึงสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ ให้คลายเหงาก็คงจะนึกถึงน้องแมวกับน้องสุนัขก่อนใช่ไหมค่ะ แต่รู้หรือไม่? ว่ายังมีเพื่อนตัวเล็กๆ อีกมากมายที่มีความน่ารักและมีความกะทัดรัด พกไปเที่ยวได้สบายๆ แถมยังไม่ส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน หรือเวลาเรานอนอีกด้วย จะมีตัวอะไรบ้างไปดูพร้อมๆ กันเลย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@sunira

1. หนูแฮมสเตอร์ (Hamster)

เป็นสัตว์ฟันแทะที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกชนิดหนึ่ง มีรูปร่างอ้วนกลม ขนาดเล็กหน้าตาน่ารัก พกพาไปไหนได้สะดวก อีกทั้งยังมีหลากหลายสายพันธุ์มากๆ โดยเจ้าของสามารถเลือกสายพันธุ์ได้ตามชอบ มีตั้งแต่สายพันธุ์ที่ตัวเล็กๆ ไปจนตัวเท่าฝ่ามือเลยค่ะ

 -ลักษณะนิสัย : เป็นมิตร แต่บางพันธุ์ก็อาจจะดุนิดหน่อย แฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่เล่นตลอดเวลา และจะมาหาทุกครั้งที่เรียกชื่อ ยิ่งตอนที่มีขนมมาให้ด้วย ก็จะรีบวิ่งมาหาทันทีเลยค่ะ

-การให้อาหาร : อาหารสัตว์เล็กสำเร็จรูปหลักๆ จะเป็นธัญพืชหลากหลายชนิด แนะนำซื้อ 2 ยี่ห้อมาผสมๆ กัน เพื่อให้หนูแฮมสเตอร์ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนค่ะ

-วิธีการเลี้ยง : ควรจะตั้งกรงไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ร้อน และไม่โดนแสงแดดส่องโดยตรง และในกรงควรมีวงล้อ หรือท่อเอาไว้ให้น้องแฮมสเตอร์ได้ออกกำลังกาย หรือนอนหลับได้ สามารถเทอาหารใส่ไว้ให้ในกรง และกระบอกใส่น้ำเล็กๆ เอาไว้ได้เลยค่ะ

-อายุโดยเฉลี่ย : ประมาณ 2-3 ปี ค่ะ

ข้อควรระวัง : อาหารที่ไม่ควรให้ เช่น เปลือก และเมล็ดแอปเปิ้ล เมล็ดองุ่น กระเทียม หัวหอม มะเขือยาว ช็อกโกแลต ถั่วอัลมอนด์ ถั่วลิสง ซึ่งอาจจะทำอันตรายต่อหนูแฮมสเตอร์ได้ค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/kuritafsheen77

 2. ชูการ์ ไกลเดอร์ ลูซิติก (Leucistic sugar glider)

“กระรอกบินออสเตรเลีย” หรือที่เรียกกันว่า “จิงโจ้บิน” คือสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับเลี้ยงดูลูกอ่อน จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ หมีโคอะล่า และจิงโจ้ จัดได้ว่าเป็นสัตว์ตัวเล็กที่มีหลากหลายสายพันธุ์มากๆ และยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงที่นิยมเลี้ยงกันด้วยค่ะ

-ลักษณะนิสัย : ชูการ์เป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่เป็นฝูง และเลี้ยงลูกด้วยนม แถมยังมีนิสัยขี้เล่น ซุกซน แสนรู้ ชอบกัดแทะ ชอบปีนป่าย ขี้อ้อน ขี้ตกใจ และที่สำคัญที่สุดที่ทุกตัวต้องเป็นคือ “ขี้เซา” มากๆ ซึ่งชูการ์ ไกรเดอร์จะหากินตอนกลางคืน และตอนกลางวันจะชอบนอนค่ะ

-การให้อาหาร : สามารถกินได้ทั้งผักผลไม้ และแมลง โดยให้อาหาร 2 ครั้ง /วัน ก็เพียงพอแล้วค่ะ

-วิธีการเลี้ยง : ควรจัดเตรียมพื้นที่ในการเลี้ยงให้สะอาด อากาศถ่ายเท ควรมีกรงใหญ่มากพอประมาณ และมีพื้นที่สำหรับปีนป่าย นอกจากนี้ควรมีถุงนอนหรือผ้าจัดไว้ให้ด้วย เพราะชูการ์ ไกลเดอร์ชอบนอนซุกตามถุงผ้า หรือโพรง เพราะน้องค่อนข้างขี้หนาวค่ะ

-อายุโดยเฉลี่ย : ประมาณ 10-15 ปี ค่ะ

-ข้อควรระวัง : ไม่ควรให้เป็นของทอดทุกประเภทค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/jcomp

3. กระต่าย มินิ ลอป (Mini Lop Rabbit)

ลักษณะเด่นของกระต่ายสายพันธุ์นี้ อยู่ที่รูปร่างหน้าจะแตกต่างจากกระต่ายทั่วๆ ไป เริ่มจากหูที่ตกลงมาอยู่ข้างแก้ม ลักษณะ โครงสร้าง ทั้งลำตัว หัวค่อยข้างสั้น และมีลักษณะลำตัวค่อนข้างอ้วนกลม ขนจะยาว นุ่มนิ่ม ซึ่งสามารถนำมาฝึกเพื่อให้เข้าใจคำสั่งบางคำสั่งได้ และชอบการอยู่เป็นครอบครัวค่ะ

-ลักษณะนิสัย : กระต่ายพันธุ์นี้มีนิสัยขี้เล่น และเป็นกันเอง ซึ่ง “กระต่าย มินิ ลอป” เป็นพันธุ์ที่ฉลาด และเชื่อง (เมื่อเทียบกับกระต่ายด้วยกัน) และน้องจะแสดงความไม่พอใจแบบน่ารักๆ ด้วยกระทืบเท้าหลัง หากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการค่ะ

-การให้อาหาร : อาหารหลักเป็นหญ้าสด เสริมด้วยอาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ดที่เหมาะสม โดยให้อาหาร 1-2 ครั้ง/วัน และส่วนใหญ่นิยมให้อาหารในช่วงเย็นค่ะ

-วิธีการเลี้ยง : ควรใช้กรงที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวของน้องกระต่ายอย่างน้อย 4 เท่า เพื่อให้พื้นที่น้องได้กระโดดไปมาได้ ไม่อึดอัด พื้นควรเป็นพื้นไม้มีฟาง หรือหญ้าแห้งรองไว้สำหรับให้น้องกระต่ายนอนได้ค่ะ

-อายุโดยเฉลี่ย : ประมาณ 8-10 ปี ค่ะ

-ข้อควรระวัง : ไม่ควรให้ผัก และผลไม้สดเพราะผักผลไม้บางชนิดมีแก๊ส ซี่งอาจจะทำอันตรายต่อกระต่ายได้ค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@sierranarvaeth

4. เม่นแคระ (Hedgehog)

เม่นแคระเป็นสัตว์หากินเวลากลางคืน หน้าตาดูน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ค่อยชอบอยู่นิ่ง ตอนกลางวันอาจจะเห็นนอนขดเป็นก้อนกลมๆ อยู่นิ่งๆ แต่เมื่อไหร่ที่พระอาทิตย์ตกดิน น้องเม่นตัวกลมจะออกมาวิ่งเล่นให้วุ่น ที่สำคัญน้องเม่นแคระไม่สลัดขน จึงปลอดภัยต่อคนเลี้ยงค่ะ

-ลักษณะนิสัย : เม่นแคระเป็นสัตว์สันโดษ ขี้ระแวง หากินตัวเดียวในตอนกลางคืน กลางวันนอน มีนิสัยชอบอยู่ตัวเดียว หวงอาณาเขต บริเวณหากินของตัวเอง ดังนั้นไม่แนะนำให้เลี้ยงเม่นแคระมากกว่า 1 ตัวในพื้นที่เลี้ยงเดียวกัน เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เม่นแคระต่อสู้ กัดกัน เพื่อแย่งชิงอาณาเขตบริเวณในการหาอาหารได้ค่ะ

-การให้อาหาร : โดยส่วนใหญ่เม่นแคระจะกินอาหารแมว และพวกหนอนนก ไข่ต้ม และผักชิ้นเล็กๆ สำหรับปริมาณถ้าเป็นอาหารแมวควรให้ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวันก็พอค่ะ

-วิธีการเลี้ยง : กรงของเม่นแคระควรจะกว้างพอสมควร ขนาดของกรงควรอยู่ที่ 18 x24 นิ้วขึ้นไป รองกรงด้วยขี้เลื่อย และควรจะมีของเล่น อย่างเช่น วงล้อ ให้น้องเม่นแคระได้วิ่งเล่นด้วย สำหรับการทำความสะอาดให้เปลี่ยนขี้เลื่อย 2-3 วันต่อครั้ง

-อายุโดยเฉลี่ย : ประมาณ 3-5 ปี ค่ะ

-ข้อควรระวัง : อาหารที่ไม่ควรให้ เช่น ถั่วต่างๆ ผลไม้อบแห้ง เนื้อสัตว์ดิบ องุ่น ลูกเกด หัวหอม ขนมปัง อะโวคาโด และผลิตภัณฑ์นมต่างๆ ซี่งอาจจะทำอันตรายต่อน้องเม่นแคระได้ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับสาระความรู้ดีที่เรา DooDiDo ได้นำมาฝากให้กับสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักกับเรื่องสัตว์เลี้ยงสุดฮิต ในปี 2023 หากได้มีน้องๆ มาเป็นคู่หูรับรองว่าจะไม่มีวันไหนเหงาอีกต่อไปเลยครับ เพราะด้วยลักษณะนิสัย และหน้าตาที่น่ารักของน้องๆ ทำให้เราตกเป็นทาสแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แต่อย่างไรก็ตามควรศึกษาชนิด และสายพันธุ์ของน้องๆ ให้ดีก่อนที่จะนำมาเลี้ยง ที่สำคัญควรเตรียมพื้นที่ให้พร้อม เพื่อให้น้องๆ อยู่อย่างสบาย และมีความสุขที่ได้อยู่กับเรานะค่ะ

แหล่งที่มา : https://home.frasersproperty.co.th