มาดู!! 8 วิธีที่ใช้ในการตรวจสุขภาพของสัตว์เลี้ยงตัวโปรดเป็นประจำ

WM

เราต้องหมั่นตรวจเช็คสัญญาณอันตรายจากสัตว์เลี้ยง เพราะอาจเป็นอาการเริ่มต้นของการป่วยได้

ใครที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนคลายเหงา คุณต้องคาดหวังว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจะต้องมีสุขภาพที่ดี เพื่อที่จะได้อยู่เป็นเพื่อนกับคุณได้ไปนาน ๆ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้พวกเขาอยู่กับคุณไปตลอดนั่นก็คือการดูแลสุขภาพของสัตว์ที่เรากำลังเลี้ยงค่ะ ซึ่งนอกจากการดูแลในเรื่องต่าง ๆ แล้ว การหมั่นตรวจเช็คสุขภาพของสัตว์เลี้ยงก็มีส่วนสำคัญอย่างมากเลยค่ะ

คนเลี้ยงสัตว์หลายคนคงจินตนาการไม่ได้ว่า ถ้าหากวันหนึ่งต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ แสนน่ารักแบบนี้อีกต่อไปได้เลย ดังนั้น การทำให้เหล่าสัตว์เลี้ยงมีชีวิตอยู่ยาวนานและแข็งแรง พวกเราต้องหมั่นตรวจเช็คสัญญาณอันตรายจากสัตว์เลี้ยง เพราะอาจเป็นอาการเริ่มต้นของการป่วยได้ หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มเช็คสุขภาพของสัตว์เลี้ยงของคุณได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาบอกค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/saulhm-31267/

1.วัดอุณหภูมิสัตว์เลี้ยง
โดยการใช้เทอร์โมมิเตอร์พิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยง วิธีการคือสอดปลายเทอร์โมมิเตอร์สำหรับสัตว์เพื่อวัดอุณหภูมิโดยอย่าสอดให้ลึกมาก เพราะอาจทำให้สัตว์เลี้ยงได้รับบาดเจ็บได้ ตามผลตรวจทั่วไป แมวจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 37.7°C – 39.1°C ส่วนสุนัขอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 38°C โดยหากเพิ่มหรือลด 1-2 องศาก็ไม่ถือว่าเป็นอันตราย

2.การวัดอัตราการเต้นหัวใจของสัตว์เลี้ยง

  • ขั้นตอนการวัดอัตราการเต้นหัวใจของแมว วางมือลงบนบริเวณอกของแมวด้านหลังศอกของแมว นับอัตราการเต้นนาน 15 วินาที จากนั้นนำเอาผลอัตราการนับที่ได้คูณด้วย 4 อัตราการเต้นของหัวใจแมวอยู่ที่ 140-220 ครั้ง/นาที
  • ขั้นตอนการวัดอัตราการเต้นหัวใจของสุนัข วางฝ่ามือของคุณบนบริเวณใต้รักแร้ของสุนัข อัตราการเต้นของหัวใจสุนัขอยู่ที่ 70-120 ครั้ง/นาที ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของสุนัขด้วย

3.ตรวจหาความผิดปกติของดวงตา
ปัญหาที่ปรากฏในดวงตาเป็นปัญหาหลักที่เหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องพาพวกเขาไปหาสัตวแพทย์ การติดเชื้อที่ดวงตาเป็นเรื่องลำบากและสาหัสอย่างมาก เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงตาบอดได้เลย เพราะฉะนั้นจึงต้องหมั่นสังเกตสภาพดวงตาของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำว่ามีความผิดปกติหรือไม่

4.สำรวจใบหูว่ามีเห็บหมัดหรือรอยแผล
หรือการสำรวจว่าภายในมีการติดเชื้อหรือไม่ โดยผู้เลี้ยงไม่ต้องตื่นตระหนกที่จะเปิดใบหูของสัตว์เลี้ยงดู เพราะอาจต้องพาสัตว์เลี้ยง ไปโรงพยาบาลหรือคลินิกรักษาโดยเร็วถ้ามีปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

  • ภายในหูส่งกลิ่นเหม็น
  • มีก้อนหรือตุ่มโผล่อยู่
  • ผิวหนังหูอักเสบ
  • บางส่วนภายในได้รับบาดเจ็บ
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/mattycoulton-15501404/

5.รักษาความสะอาดของอุ้งเท้าและเล็บอยู่เสมอ
เพราะสัตว์เลี้ยงใช้อุ้งเท้าและเล็บของเขาอยู่ทุกวัน และอาจได้รับการติดเชื้อมาจากการเล่นกับสัตว์อื่นหรือได้รับบาดแผล โดยหากพบว่ามีเลือดไหลออกมา ต้องรักษาโดยทันที ห้ามปล่อยให้แผลสมานเองเด็ดขาด เพราะสัตว์เลี้ยงของเราอาจต้องทนอยู่กับความทรมานได้

6.สำรวจสุขภาพปาก
ลองดูที่ฟันของสัตว์เลี้ยงดูบ้างว่ามีปัญหาบ้างไหม เช่น มีกลิ่นปาก ฟันหลุดหรือหัก เคี้ยวอาหารแปลกไปจากปกติ กินอาหารน้อยลงหรือแทบไม่กิน มีเลือดออก และมีแผลรอบบริเวณปาก

7.ควบคุมอาหารและพฤติกรรม
ดูแลการบริโภคอาหารและควบคุมวดพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสุนัขที่มีน้ำหนักเกิดมาตรฐานเสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่ายและทำให้อายุขัยสั้นกว่าอายุขัยเฉลี่ย สำรวจและให้ความสนใจเมื่อสัตว์เลี้ยงแสดงท่าทีเศร้าสร้อย ขี้เกียจเกินกว่าปกติ หรือน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stano_design-8270693/

8.สำรวจขนและผิวหนัง
ตรวจสอบสภาพผิวหนังของสัตว์เลี้ยงว่ามีพวกเห็บ หมัด หรือบาดแผลบ้างหรือไม่ ถ้ามีต้องกำจัดทิ้งเพราะเป็นพาหะของโรคในสัตว์เลี้ยงต่างๆ

ทั้งหมดนี้คือวิธีที่จะช่วยให้คุณได้ตรวจเช็คสุขภาพของสัตว์เลี้ยงสุดที่รักของคุณค่ะ DooDiDo แนะนำว่าคุณจะต้องทำการตรวจเช็คสุขภาพของน้องเป็นประจำนะคะ เพราะถ้าหากเจอความผิดปกติของน้องอย่างเร็ว ก็จะสามารถทำการรักษาน้องได้ทันเวลาค่ะ  หากอยากให้น้องอยู่กับคุณไปนาน ๆ การใส่ใจสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรละเลยนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : http://realmetro.com