มาดูความน่ารักของ!! เจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ ที่ทำให้ทุกคนต้องหลงรัก

สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ไว้คือ “เจ้าฮัสกี้ไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว” มันเป็นสุนัขที่ขี้เหงา

ถึงแม้ว่าเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ จะเป็นสุนัขที่ใจดี เข้ากับเด็กได้ง่าย แต่ในการให้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ เล่นกับเด็ก ก็ไม่ควรปล่อยให้เล่นกันตามลำพัง เนื่องจากทั้งสุนัขและเด็กมักไม่รู้จักออมแรงในการเล่น จนอาจเกิดพลาดพลั้ง ทำให้บาดเจ็บได้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky) อีกหนึ่งสายพันธุ์สุนัขยอดฮิตที่มีผู้เลี้ยงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จากสุนัขลากเลื่อนบนหิมะอันหนาวเหน็บ ได้กลายมาเป็นเพื่อนซี้คู่ใจของใครหลายคน นอกจากความน่ารักและฉลาดเฉลียว ที่ทำให้ต้องหลงเสน่ห์แล้ว นิสัยขี้เล่น ซุกซน ของพวกมัน ยังกุมหัวใจเหล่า Pet Lover ไปได้เป็นอย่างยิ่งยวด

เจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ เรียกกันสั้นๆ ว่า ‘ไซบีเรียน’ หรือ ‘ฮัสกี้’ ด้วยพละกำลังของพวกมันที่มีมากล้น บวกกับความปราดเปรียว มันจึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในกลุ่มสุนัขใช้งาน ถึงแม้จะมีรูปลักษณ์หน้าตาค่อนข้างดุ คล้ายคลึงกับหมาป่า แต่จริงๆ แล้วสุนัขพันธุ์นี้เป็นมิตร เข้ากับคนง่าย และค่อนไปทางไฮเปอร์ซะด้วยซ้ำ ในการแข่งขันกีฬาของเมืองหนาวอย่าง ‘กีฬาลากเลื่อน’ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ถือว่าเป็นตัวเกร็งในการแข่งขันเลยทีเดียว และพวกมันก็ได้สร้างชื่อเสียงเอาไว้ไม่น้อยหน้าสุนัขพันธุ์ใด ฝีเท้าที่รวดเร็ว ผสานความแข็งแกร่ง อึด ถึก และทน ทำให้พวกมันคว้าเหรียญทองจากสนามแข่งมาได้อย่างโชกโชน

ย้อนกลับไปเมื่อ 3,000 ปีก่อน ชาวชุกชี (Chukchi หรือ Chukchee) หนึ่งในชาติพันธุ์แร่ร่อนของไซบีเรีย (Siberia) ต้องการขยายพื้นที่ในการล่าสัตว์ พวกเขาจึงคิดค้นวิธีที่จะผสมพันธุ์สุนัข เพื่อให้เหมาะแก่การลากเลื่อนบนพื้นหิมะ โดยคุณสมบัติของสุนัขที่จะผสมพันธุ์นั้น ต้องมีความแข็งแรงและสามารถทนต่ออากาศที่หนาวเย็นได้ ว่ากันว่าเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขลากเลื่อนที่ใกล้เคียงพันธุ์สุนัขที่ชาวชุกชีคิดค้นมากที่สุด

บนที่ราบสูงทางตอนเหนือของทวีปเอเชีย ค่อนไปทางฝั่งตะวันออกของไซบีเรีย หนึ่งในเขตสหพันธ์ของประเทศรัสเซีย ที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นถึง -54 องศาเซลเซียส มีเพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่ยังอาศัยอยู่ที่นี่ และพวกเขาก็นิยมเลี้ยงสุนัขเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง

ไซบีเรียน ฮัสกี้ หนึ่งในสุนัขลากเลื่อนระยะทางไกลบนหิมะ เกิดจากการเพาะพันธุ์สุนัขในวงศ์สปิตซ์ (Spitz) ที่มีลักษณะขนยาวหนา หูตั้งตรง และมีนิสัยร่าเริง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไซบีเรียนถูกนำเข้ามาในรัฐอลาสก้า (Alaska) ของสหรัฐฯ ไม่นานนักก็แพร่พันธุ์ไปสู่แคนาดาและนานาประเทศอย่างรวดเร็ว
บทบาทสุนัขฮีโร่ท่ามกลางความหนาวเย็น
นอกจากในสมัยก่อนที่สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการสำรวจดินแดนแล้ว ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า ในปี ค.ศ. 1925 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคคอตีบระบาดในประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าไซบีเรียนได้กลายเป็นสุนัขฮีโร่ที่ช่วยผู้คนให้พ้นจากโรคร้าย เรื่องราวของไซบีเรียน ฮัสกี้ ถูกตีพิมพ์และโด่งดังไปทั่วโลก

ไซบีเรียน ฮัสกี้ ลูกหลานของหมาป่า
มีหลากหลายงานวิจัยที่ยืนยันว่าสุนัขพันธุ์ชิบะ (Chiba) เชาเชา (Chow Chow) และไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky) มี DND ใกล้เคียงกับหมาป่ามากที่สุด จึงไม่แปลกถ้ารูปลักษณ์หน้าตาของสุนัขทั้งสามพันธุ์นี้จะเหมือนกับหมาป่า แต่ลักษณะเด่นของเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็ทำให้ใครหลายคนจดจำมันได้เป็นอย่างดี ด้วยดวงตากลมรี รูปทรงเม็ดอัลมอนด์หลากสีสัน ไม่ว่าจะฟ้า เขียว น้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน หรือเหลือง ขนของไซบีเรียนจะมีความยาวปานกลาง มีความหนาสองชั้นปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย โดยขนชั้นนอกจะหนากว่าขนชั้นใน มีตั้งแต่ขนสีดำ เทา ทองแดง จนไปถึงสีขาวล้วน ลักษณะหูตั้งชี้ตั้งเป็นทรงสามเหลี่ยม และมีหางเป็นพวง เหมือนกับหมาป่าบรรพบุรุษของพวกมัน ไซบีเรียนจะโตเต็มที่เมื่ออายุ 12 เดือน และเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่ออายุ 7 ปี

นิสัยความดื้อที่ยังไงก็ตกหลุมรัก
ฮัสกี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความตื่นตัว กระตือรือร้น และพละกำลังอันเหลือล้น แม้จะดื้อและติงต๊องไปบ้าง แต่มันก็ซื่อสัตย์และรักเจ้าของยิ่งกว่าใคร เวลาเจอเจ้าของมันจะกระโดดกอด หรือวิ่งเข้ามาหาเพื่อแสดงความรักทันที ถึงอย่างนั้นมันก็จัดว่าเป็นสุนัขที่มีสมาธิค่อนข้างสั้น เพราะฮัสกี้ไม่สามารถทำอะไรเป็นเวลานานๆ ได้ บางทีในช่วงที่อากาศร้อนๆ มันจะวิ่งไปขุดดินเพื่อสร้างพื้นที่เย็นๆ ไว้เอนตัวลงนอนอย่างสบาย สำหรับคนที่จะเลี้ยงเจ้าฮัสกี้ สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ไว้คือ “เจ้าฮัสกี้ไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว” มันเป็นสุนัขที่ขี้เหงาและขาดความอบอุ่น ยิ่งถ้าถูกเจ้าของทิ้งไว้ให้อยู่บ้านคนเดียวละก็ มันอาจจะใช้เวลาว่างทำงานอดิเรก เช่น แทะ เล็ม และกัดข้าวของเครื่องใช้ เพื่อระบายความเหงาและพลังงานที่มีเต็มเปี่ยม ไซบีเรียนจะแตกต่างกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ เพราะปกติแล้วมันจะชอบหอนมากกว่าชอบเห่า ถึงแม้มันจะขี้เล่นและซุกซน แต่พวกมันก็ไม่ได้เป็นสุนัขที่ก้าวร้าวเลยแม้แต่น้อย เพราะมันมีนิสัยขี้อ้อน เข้ากับเด็กๆ และสุนัขพันธุ์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี

สุนัขผู้ไร้ซึ่งสัญชาตญาณในการระวังภัย
ความเฉลียวฉลาดและไหวพริบอันเป็นเลิศของไซบีเรียน ฮัสกี้ ถูกสร้างมาเพื่อเอื้อประโยชน์ ให้กับการเล่นซนของพวกมันก็จริง แต่ถ้าคุณคิดจะเลี้ยงเจ้าฮัสกี้เพื่อเฝ้าบ้านและที่พักอาศัย คุณคิดผิดแล้ว มีข้อมูลยืนยันจาก Siberian Husky Club of Great Britain ว่าเจ้าไซบีเรียนเป็นสุนัขที่ไร้ซึ่งสัญชาตญาณในการระวังภัย มันจะพร้อมต้อนรับผู้บุกรุกทุกคนด้วยมิตรไมตรี เช่นเดียวกับที่มันมอบให้เด็กๆ และเพื่อนสุนัขของมันทุกตัว
ฝึกและเลี้ยงไซบีเรียน ฮัสกี้ อย่างไรดี?
หลายคนบอกว่าเจ้าสุนัขขี้เล่นตัวนี้ฝึกยากมาก เพราะความรักในอิสระเสรีของพวกมันที่มีก่ายกอง ฮัสกี้จะยอมทำสิ่งต่างๆ ต่อเมื่อพอใจ ถ้าอยากจะฝึกไซบีเรียน ฮัสกี้ แบบจริงจังต้องฝึกด้วยความสุภาพ มั่นคง หนักแน่น และฝึกอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่พวกมันยังเป็นลูกสุนัข ด้วยความรวดเร็วและพละกำลังหลายร้อยแรงม้า ผู้เลี้ยงจึงต้องมีเวลาพามันไปออกกำลังกายด้วย อย่างต่ำวันละ 15-20 นาที เพื่อให้ฮัสกี้ได้เผาผลาญพลังงานและไม่ซุกซนจนเกินไป

ปัญหากินยาก ที่เด็กๆ หลายคนเป็นกัน เจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ เองก็เอาใจยากอยู่พอสมควรเลย เรียกได้ว่ากว่าจะกินอาหารแต่ละมื้อ ถ้าไม่ถูกปากและไม่ใช่เมนูปลา พวกมันก็ไม่ยอมกินอย่างแน่นอน ทริคง่ายๆ ก็คือต้องพาพวกมันไปออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้มันสุขภาพดีและลดความซุกซนแล้ว การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มความอยากอาหารให้กับเจ้าฮัสกี้ได้อีก

ไซบีเรียนเป็นสุนัขที่รักสะอาดและไม่มีกลิ่นตัว การดูแลรักษาความสะอาดให้พวกมัน จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร เพียงแค่อาบน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และใช้ไดร์เป่าขนทั้งสองชั้นให้แห้งสนิท อาจมีช่วงฤดูพลัดขนของไซบีเรียน ปีละ 1-2 ครั้ง ที่ผู้เลี้ยงจะต้องใช้หวีแปรงขนไม่ให้พันกัน
ก่อนจะเริ่มต้นเลี้ยงสุนัขสักตัว ต้องศึกษาธรรมชาติและอุปนิสัยส่วนตัวของพวกมันซะก่อน เพราะถึงจะเป็นสุนัขเหมือนกัน แต่ละพันธุ์ก็มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

การให้ ‘ใจ’ กับพวกมัน สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้นอกจากความน่ารัก ขี้เล่น ซึ่งช่วยคลายเหงาให้คุณได้แล้ว คุณยังได้รับ ‘ความซื่อสัตย์’ จากสัตว์เลี้ยงที่ว่ากันว่าซื่อสัตย์ที่สุดชนิดหนึ่งเลย และอีกค่าใช้จ่ายที่สำคัญ และ DooDiDo คิดว่าไม่ควรมองข้าม คือ การใช้อาหารเกรดพรีเมี่ยม และ ให้อาหารเสริมเป็นบ้างครั้ง การพาไปออกกำลังการ การพาไปเที่ยวนอกบ้าน เพื่อให้ใกล้ชิดธรรมชาติ และ การตรวจสุขภาพประจำปีละ 2 ครั้ง ซึ่งก็ควรเตรียมค่าวัคซีน ค่ายาป้องกันเห็บหมัด ค่ายาทั่วไป ค่าอาบน้ำ อุปกรณ์ที่ใช้จูงซึ่งไม่ใช่สายรัดอก เพราะปัจจุบันเราไม่ได้ให้ไซบีเรียนลากเลื่อนแล้ว รวมไปถึงการฝึก เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพของสายพันธุ์เป็นไปในทางที่ถูกต้อง

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.tipsdd.com