มาดูความน่ารักของสุนัขมอลทีส (Maltese)” สุนัขสายพันธ์เล็ก

WM

ประวัติสายพันธุ์และลักษณะสายพันธุ์แของ “มอลทีส (Maltese)”

สวัสดีค่ะ เพื่อนรักสัตว์เลี้ยงที่น่ารักทุกคน วันนี้เราก็กลับมาเจอกันเหมือนเช่นเคยแล้วจากครั้งก่อนที่เราได้พาเพื่อนไปดูมอลทีส มีความอ่อนโยน รักใคร่ ฉลาด ตอบสนองและไว้วางใจได้ เขาเป็นสุนัขครอบครัวที่ดี มีชีวิตชีวา ขี้เล่น แข็งแรงและสนุกกับการเรียนรู้ต่างๆจากเจ้าของ และพวกเขามักจะกระตือรือล้นและรับมือกับเด็กที่ดื้อได้ ถึงรูปร่างจะเล็กแต่เขาไม่ค่อยกลัวอะไร บอกเลยว่าอย่าพลาดกับบทความนี้นะ แน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่เรากลับมาเจอกันในวันสบายๆ ชิลๆ แบบนี้ก็มีสาระความรู้ เกร็ดดีเกี่ยวกับ สัตว์เลี้ยงมาให้เพื่อนได้รู้ เพื่อนสัตว์เลี้ยงที่รัก จะได้อยู่กับเราไปอีกนานๆ  วันนี้เรามี เรื่อง มารู้จัก มอลทีส (Maltese)” สุนัขสายพันธ์เล็ก สุด CUTE  หากเพื่อนพร้อมกันแล้วเราไปอ่านสาระความรู้ดีๆ ในบทความนี้กันเลยค่า

สุนัขพันธุ์ มอลทีส จัดเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก อยู่ในกลุ่มสุนัขพันธุ์ทอย มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Central Mediterranean Area) โดยชื่อพันธุ์ของสุนัขมีความเชื่อว่าเป็นสุนัขที่มาจากเกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของประเทศมอลต้า (Malta) นอกจากนั้นบางครั้งก็ถูกกล่าวว่ามาจากเกาะเอเดรียติก (Adriatic island) ของประเทศโครเอเชีย (Mljet) หรือมาจากเขตชุมชนซิซิเลีย (Sicilian) ในเมืองเมลิต้า (Melita)

สุนัขพันธุ์ มอลทีส ได้รับการยอมรับจากองค์กร The Fédération cynologique internationale (FCI) เฉพาะในประเทศอิตาลี (Italy) ในปี ค.ศ.1954 หลังจากนั้นได้ถูกนำมาเลี้ยงในเมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในต่อมาองค์กร FCI จึงได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นพันธุ์สุนัขที่ได้รับการยอมรับทั่วไป วันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ.1989 และได้ถูกนำข้อมูลสุนัขพันธุ์มอลทีสมาแปลภาษาจากภาษาอิตาลีเป็นภาษาอังกฤษ วันที่ 6 เมษายน ค.ศ.1998 สมาคม The American Kennel Club (AKC) ได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์สุนัขมอลทีส ในปี ค.ศ. 1888 และมีการปรับปรุงข้อมูลพันธุ์สุนัขล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ.1964

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@dole777

ลักษณะทางกายภาพ

หัวกะโหลกค่อนข้างกลม จมูกยาวปานกลางและมีสีดำที่ปลายจมูก ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นสีชมพู หรือสีน้ำตาลอ่อนได้ เมื่อสุนัขไม่โดนแดด มักเรียกว่า Winter nose และเมื่อเวลาผ่านไปจะกลับมาเป็นสีดำเหมือนเดิม หากสุนัขโดนแดด รูปร่างยาวสมส่วนกับส่วนสูง เรียว หูมีขนปกคลุมยาว มีดวงตาและขอบตาสีดำสนิท หรือเรียกว่า Halo เป็นลักษณะเด่นของมอลทีส

จัดเป็นสุนัขขนยาว นุ่มคล้ายเส้นไหม ซึ่งเจ้าของสุนัขมักจะตัดขนให้สั้นเป็นทรง puppy cut ให้เหลือความยาวแค่ 1-2 นิ้วเท่านั้น ให้ง่ายต่อกันทำความสะอาดขน หรือควรแปรงขนสัตว์ทุกวัน เพื่อป้องกันขนสัตว์พันกัน สีขนบริเวนหูเป็นสีขาวบริสุทธิ์ (Pure white), สีครีม (Cream), สีเหลืองเลม่อน (Light lemon), หรือสีงา (Pale ivory) โดยไม่มีนิยมสีใดสีหนึ่งเป็นหลัก แต่บางครั้งอาจพบสีส้มซีด (Pale orange) เป็นสีที่เกิดจากความผิดปกติของสายพันธุ์

สุนัขมอลทีสโตเต็มวัย จะมีน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 5-12 ปอนด์ หรือ 2.3-5.4 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักมาตรฐานของสายพันธุ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมต่างๆของสัตว์ โดยสมาคม The American Kennel Club (AKC) กล่าวถึงน้ำหนักสัตว์ควรจะน้อยกว่า 7 ปอนด์ หรือน้อยกว่า 3.2 กิโลกรัม ให้อยู่ประมาณ 4-6 ปอนด์ หรือ 1.8-2.7 กิโลกรัม

อายุขัย

สุนัขพันธุ์มอลทีส โดยทั่วไปมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 12-15 ปี

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@tdespins

ลักษณะนิสัย

สุนัขพันธุ์มอลทีส เป็นสุนัขที่ชอบให้กอดหรืออุ้มอยู่เสมอ ต้องการความรักและการใส่ใจจากเจ้าของ มีนิสัยร่าเริง แจ่มใส ขี้เล่น แข็งแรง ชอบเห่าเมื่อไม่พอใจ มักจะกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง โดยไม่ต้องมีพื้นที่มากในการเลี้ยง สามารถรับมือกับเด็กที่ดื้อได้ เพื่อไว้ลดพฤติกรรมของเด็ก ซึ่งเหมาะกับผู้พักอาศัยอพาร์ทเม้นท์ หรือทาวน์เฮาส์ที่ต้องการเลี้ยงสุนัข รวมถึงคนทั่วไปสามารถซื้อมอลทีสได้ ในบางครั้งอาจแสดงพฤติกรรมวิตกกังวล เจ้าของควรจะรู้ในพฤติกรรมของสุนัข และไม่ควรทิ้งให้อยู่ตามลำพังเป็นระยะเวลานานๆ

ในประเทศออสเตรเลีย (ไม่รวมรัฐ Tasmania) ออกกฎส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ (RSPCA) เนื่องจากเจ้าของมักจะทิ้งสุนัขพันธุ์มอลทีส เพราะชอบเห่าตลอดเวลา จึงเป็นพันธุ์ที่มีการถูกทิ้งมากที่สุด

การเข้ากับเด็ก

สุนัขพันธุ์มอลทีส ไม่นิยมถูกนำมาเล่นกับเด็กเล็ก เนื่องจากเป็นสุนัขพันธุ์เล็กอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บจากเด็ก หรือหากสุนัขรู้สึกไม่ดีอาจแสดงพฤติกรรมดุร้ายกับเด็กได้ หากจำเป็นต้องให้เด็กอยู่ร่วมกับสุนัข ควรหาอุปกรณ์ป้องกันสวมให้กับเด็กและสุนัข รวมถึงควรสอนให้เด็กรู้จักวิธีการเข้าหาสุนัข และสอนสุนัขเคารพและเชื่อฟังเด็ก

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/ritae-19628/

การดูแล

การออกกำลังกาย

สุนัขพันธุ์มอลทีส ควรออกกำลังกายด้วยการเดินประมาณ 40 นาทีต่อวัน แบ่งเป็น 2 รอบ โดยส่วนใหญ่จะเกิดความเข้าใจผิดสำหรับสุนัขพันธุ์ทอย คือไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายมาก แต่ในความเป็นจริงควรให้ออกกำลังกายเป็นประจำ เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีพลังงานมาก และเพื่อสุขภาพของสุนัขที่แข็งแรง

ในช่วงที่ยังเป็นลูกสุนัขจะมีความกระตือรือร้นในการออกกำลังกายเป็นพิเศษ สามารถเล่นกับสุนัขด้วยการให้คาบของมาคืน (Play fetch) หรือให้วิ่งรอบสนามหญ้า เป็นต้น

หากสุนัขพันธุ์มอลทีสไม่ได้ออกกำลังกาย จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมา หรือวิตกกังวล (Anxiety) เช่น การทำลายข้าวของภายในบ้าน รวมถึงทำให้สุขภาพของสุนัขแย่ลงได้

เป็นสุนัขที่ไวต่อสภาพอากาศ ควรระวังเรื่องอากาศร้อนเกินไป หรือเย็นเกินไป จะทำให้สุนัขเดินช้าลง หรือไม่ยอมเดิน จากภาวะอุณหภูมิภายในตัวสัตว์สูงขึ้น (Overheat) หรือมีไข้ เป็นต้น

อาหาร

สุนัขพันธุ์มอลทีส ควรให้ปริมาณอาหารประมาณครึ่งถ้วย แบ่งเป็น 2 มื้อเท่าๆกันต่อวัน เพื่อป้องกันสุนัขน้ำหนักเกินมาตรฐาน และอ้วนเกินไป นอกจากนั้นปริมาณอาหารจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อายุ, กระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism), น้ำหนักตัว, และกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน สามารถปรับปริมาณอาหารให้สมดุลได้

เจ้าของสุนัขควรรู้ถึงนิสัยของสุนัข คือมีนิสัยเลือกกินอาหาร ในการให้อาหารครั้งแรกควรให้สุนัขได้เลือกหลายยี่ห้อ เพื่อให้สุนัขเลือกอาหารที่ชอบ และให้อาหารที่สุนัขเลือกนั้นเป็นประจำ

เป็นอย่างไรบ้างคะ ก็จบลงไปแล้วน้า กับเรื่องราวที่คนเลี้ยงน้องหมา กับเรื่องราวสาระความรู้ สัตว์เลี้ยงอย่างกับ “มารู้จัก มอลทีส (Maltese)” สุนัขสายพันธ์เล็กสุด CUTE ” DooDiDo หวังว่าเพื่อนที่เลี้ยงน้องหมาจะไปเกร็ดความรู้ไม่มากก็น้อยนะคะ นอกจากนี้มอลทีส เหมาะที่จะเลี้ยงในบ้านและเจริญเติบโตได้ดีแม้จะอยู่ในอพาร์ทเมนหรือที่ที่มีขอบเขตขนาดเล็ก สายพันธุ์นี้อาจเป็นเรื่องยากที่จะฝึกและพวกเขามีแนวโน้มที่จะเรื่องมากในกิน เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้เลี้ยงที่เป็นโรคภูมิแพ้เพราะอัตราการผลัดขนน้อย

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.baanlaesuan.com