“ฟิลเลอร์” สิ่งที่ผู้หญิงต้องรู้ก่อนทำ เพื่อความปลอดภัยหน้าไม่พัง

WM

ริ้วรอย ทั้งบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม มุมปาก รอบดวงตา เติมเต็มได้ด้วยการ “ฉีดฟิลเลอร์”

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะเพื่อนไปรู้จักกับสาระความเรื่องความงาม ครั้งก่อนเราได้พาเพื่อนไปรู้จัก กับกราฉีดโบท็อก ที่แก้ปัญหาสำหรับสาวๆที่มีปัญหาโครงหน้าใหญ่ให้ดูเรียวเล็ก ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยบนใบหน้า แม้จะเป็นริ้วรอยเล็กหรือริ้วรอบใหญ่ก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่กวนใจผู้หญิงทุกคน ปัญหาผิวจะเกิดขึ้นบนชั้นผิวหนังแท้ เพราะคอลเจลและอิลาสติน ที่อยู่ใต้ผิวหนังแท้ที่ทำให้ผิวหนังมีความเรียบตึง กระชับ และยืดหยุ่น เกิดการเสื่อมสลายไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น วันนี้เราจะเพื่อนไปรู้จักกับนวัตกรรมอย่าง ฟิลเลอร์ ที่ช่วยสำหรับฉีดเพิ่มเติมเต็มชั้นผิวหนัง หรือชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกตามบริเวณต่างๆ เพื่อเติมเต็มในส่วนที่เป็นริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้า ช่วยทำให้ใบหน้าเต่งตึง มีน้ำมีนวล ริ้วรอยร่องลึกที่เคยมีจะดูตื้นขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเติมใยคอลลาเจนที่หายไป ให้กลับมาดูอิ่มเอิบ ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย วันนี้เราจะเพื่อนๆไปรู้จักกับ ฟิลเลอร์ สิ่งที่ผู้หญิงต้องรู้ก่อนทำ เพื่อความปลอยภัยหน้าไม่พัง

พออายุมากขึ้น…ปัญหาก็เริ่มตามมาติดๆ อย่างเรื่องของริ้วรอย ทั้งบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม มุมปาก รอบดวงตา ล้วนสร้างความกังวลจนหลายคนไม่กล้ายิ้มกว้าง เพราะกลัวว่าอารยธรรมตีนกาจะโผล่มาให้เห็น การเติมเต็มผิวให้กลับมาดูอวบอิ่มจึงเป็นอีกทางลัดในการเรียกคืนความมั่นใจ แต่ด้วยอันตรายที่แฝงอยู่เราจึงต้องรู้ให้ลึก ก่อนตัดสินใจ “ฉีดฟิลเลอร์”

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/l9VjM-Pp7-M

รู้แบบเข้าใจเรื่อง “ฟิลเลอร์”

ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มที่ใช้สำหรับฉีดเพิ่มเติมเต็มชั้นผิวหนัง หรือชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกตามบริเวณต่างๆ เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องลึกมุมปาก หรือใช้ในการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม ให้ดูอวบอิ่ม ตลอดจนใช้ฟื้นฟูผิวพรรณให้กลับมากระชับเปล่งปลั่งอีกครั้ง

ชนิดของฟิลเลอร์ มีกี่แบบ?

  • ชนิดที่ 1 แบบชั่วคราว คือมีอายุการใช้งานประมาณ 4-6 เดือน มีความปลอดภัยสูง และสามารถสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติ
  • ชนิดที่ 2 แบบกึ่งถาวร คือมีอายุการใช้งานนานประมาณ 2 ปี มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง
  • ชนิดที่3 แบบถาวร คือหลังฉีดไปแล้วจะอยู่ในผิวตลอดไม่สลายตามธรรมชาติ มักเป็นสารเติมเต็มจำพวกซิลิโคน หรือพาราฟิน
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/2rrsfMN4hn8

เหตุผลนี้นี่ล่ะ…ที่ทำให้ “การฉีดฟิลเลอร์” อันตราย

ด้วยราคาที่ถูกกว่าเป็นเท่าตัว ทำให้หลายๆ คนเลือกเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์กับหมอเถื่อน ซึ่งโดยมากมักจะเป็นสารฟิลเลอร์ปลอม หรือสารฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง และสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่า  คือการฉีดฟิลเลอร์กับคนที่ไม่ใช่หมอผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ตำแหน่งในการฉีดผิดพลาด โดยมักฉีดเข้าไปในหลอดเลือดส่งผลให้หลอดเลือดเกิดอุดตัน เกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น เนื้อเยื่อตาย หรือตาบอด

3 ข้อหลักๆ เช็คหน่อย…ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

สารที่ใช้ฉีด ถือว่าเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องมั่นใจ โดยฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่ใช่ฟิลเลอร์ราคาถูก หรือหมดอายุแล้ว

แพทย์ที่ฉีด เพราะนอกจากคุณภาพของสารฟิลเลอร์แล้ว ตำแหน่งในการฉีดก็นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อการเกิดผลข้างเคียง ดังนั้น หากไม่ใช่แพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีความรู้ทางกายวิภาคอย่างแท้จริง อาจเสี่ยงต่อความผิดพลาด..ซึ่งร้ายแรงถึงชีวิต

สถานที่ฉีด คืออีกปัจจัยสำคัญในการพิจารณา ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และมีเครื่องมือช่วยชีวิตกรณีฉุกเฉิน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/3ncMShQ9LSA

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดูแลตัวเองยังไง

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มแอสไพริน หรือยาแก้ปวดข้อบางชนิด เป็นเวลา 2 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
  • หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน หรือทำเลเซอร์ ทรีทเม้นท์ที่มีความร้อน เช่น การทำ IPL การทำ AHA  ลอกหน้า รวมทั้งงดใช้ไดร์เป่าผม อบไอน้ำ เพราะความร้อนจะส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

เป็นอย่างไรกันบ้าง ก็ลงไปกับสาระความรู้ ฟิลเลอร์ สิ่งที่ผู้หญิงต้องรู้ก่อนทำที่ DooDiDo นำมาฝากในวันนี้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ความร้อนจะทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ ส่งผลต่องการเซตตัวของฟิลเลอร์ เพื่อความปลอยภัยหน้าไม่พัง การฉีดฟิลเลอร์นับเป็นทางเลือกที่หลายๆ คนเลือกใช้ เพื่อปกปิดริ้วรอย ร่องลึกหรือผิวหนังที่หย่อนคล้อย เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ผลลัพธ์ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้หลายๆ คนยังใช้การฉีดฟิลเลอร์ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์บนใบหน้าให้ดูหวานขึ้น โดดเด่น มีเสน่ห์มากขึ้นอีกด้วยนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.paolohospital.com