ประวัติวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day นักบวชในนิกายโรมันคาทอลิก

เรื่องลึกลับ

วันวาเลนไทน์ ถูกกำเนิดขึ้นมาในกรุงโรม หรือในอาณาจักรโรมัน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 3

ในช่วงยุคของจักรพรรดิคลอดิอุส ที่สอง (Claudius II) ซึ่งเดิมทีจักรพรรดิคลอดิอุสมีนิสัยชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น เขานั้นมักบังคับให้ชาวโรมันทุกคนต้องสักการะพระเจ้าทั้ง 12 องค์ หากใครคิดต่อต้านจะได้รับทำโทษ นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องกับพวกคริสเตียนอีกด้วย ทั้งนี้ มีนักบุญผู้หนึ่งที่ชื่อว่า วาเลนตินุส (Valentinus)

เขานั้นเกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระคริสเป็นอย่างมาก ถึงขนาดให้คำไว้ว่า ความตายหรือสิ่งใดไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาได้ ด้วยการต่อต้านครั้งนี้ จึงทำให้เขานั้นต้องถูกขังคุกโดยก่อนที่เขาจะสิ้นชีวิต ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายก็ได้เกิดสิ่งแปลกประหลาดขึ้นกับเขา โดยขณะที่กำลังถูกคุมขังอยู่นั้น ผู้คุมขังก็ได้ร้องขอให้วาเลนตินุสช่วยสอนจูเลียผู้เป็นลูกสาวที่ตาบอดตั้งแต่เกิด แม้ว่าจูเลียนั้นจะเป็นหญิงงามแต่ก็อาภัพมองไม่เห็น วาเลนตินุสจึงได้สอนประวัติศาสตร์ สอนการคิดคำนวณ และเล่าเรื่องพระเจ้าให้เธอฟัง

WM
ภาพจาก www.google.com

ด้วยความฉลาดของจูเลีย เธอนั้นจึงสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ได้อย่างถ่องแท้ และเธอก็รู้สึกเชื่อใจในตัวของวาเลนตินุส และมีความสุขอย่างมากเมื่ออยู่กับเขาซึ่งวันหนึ่ง จูเลียได้เอ่ยถามวาเลนตินุสว่า“หากเรานั้นอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะทรงได้ยินเราบ้างไหม” วาเลนตินุสจึงตอบไปว่า “พระองค์เจ้าได้ยินเราทุกคนแน่นอน”

จูเลียจึงได้กล่าวต่อว่า “ท่านทราบหรือไม่ ในทุกๆ เช้า ทุกๆ เย็น ข้าทูลอธิษฐานขออะไร ข้าต้องการอยากจะมองเห็นโลกใบนี้ และเห็นทุกๆอย่างที่ท่านเล่าให้ฟัง” วาเลนตินุสจึงได้ตอบกลับไปว่า “พระเจ้าย่อมมอบแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน แต่ต้องมีความเชื่อมั่นในพระองค์ก็เท่านั้นเอง”

ด้วยศรัทธาในพระเจ้า จูเลียจึงคุกเข่าลงและจับมืออธิษฐานร่วมกับวาเลนตินัส และในขณะนั้น สิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น มีแสงสว่างเข้ามาในเรือนจำ และเมื่อจูเลียลืมตาขึ้นช้าๆ เธอก็มองเห็น! พวกเขาขอบคุณพวกเขาสำหรับการอัศจรรย์ที่พระเจ้าประทานให้ และสิ่งนี้ถูกกล่าวถึงทั่วราชอาณาจักร

Valentinus
ภาพจาก www.google.com

คืนก่อนที่วาเลนตินัสจะเสียชีวิตจากการตัดศีรษะ เขาส่งจดหมายฉบับสุดท้ายให้จูเลีย วาเลนตินัสเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 270 และร่างของวาเลนตินัสถูกเก็บไว้ในโบสถ์ DooDiDo แพรกเซเดสในเมืองหลวง โรมใกล้หลุมศพจูเลียได้ปลูกหน้าวัว หรืออัลมอนด์สีชมพู เพื่อนำเสนอเฉพาะวาเลนไทน์อันเป็นที่รัก จนถึงทุกวันนี้ ต้นปาล์มสีชมพูได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักนิรันดร์และมิตรภาพที่ยั่งยืน

แหล่งที่มา : tamnanthephceakrik