บอกต่อ 5 สูตรหมักผม “ขจัดรังแค” จากธรรมชาติที่สามารถทำได้เอง

WM

จบปัญหาเรื่องรังแค ด้วยสูตรหมักผมจากธรรมชาติ สะบัดผมอย่างมั่นใจ 

ถือได้ว่าเป็นอีกเรื่องที่สำคัญเอามากๆ ของผู้หญิงเรา นั่นก็คือเรื่องของความสวยความงาม เพราะสำหรับผู้หญิงเราอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะคะ เพราะแต่ละคนต้องเจอกับสารพัดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความงามกันแบบไม่ซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องรูปร่าง ปัญหาเรื่องผิวพรรณ หรือปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม แล้วถ้าพูดถึงปัญหาเส้นผมยอดฮิตที่ทำให้สุขภาพผมย่ำแย่ แถมยังรู้สึกรำคาญใจแบบสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง รังแค นี่แหละค่ะ เพราะรังแคที่มีลักษณะเป็นผงสีขาวๆ มันสังเกตเห็นได้ง่าย แค่เอามือสางผมเบาๆ ก็มีเศษรังแคเล็กๆ ร่วงหล่นเต็มไหล่จนมองเห็นได้ชัดเจนมากๆ

โดยเฉพาะปัญหาหนังศรีษะก็เรียกได้ว่าเป็นปัญหาแสนรุงรังกับชีวิตสาวๆเลยก็ก็ว่าได้ใช่มั้ยล่ะคะ อย่างปัญหาผมร่วงที่เชื่อว่าต้องมีกันทุกบ้าน หลายๆครั้งก็อยากจะเพิ่มสีสันให้ตัวเอง อยากจะย้อมผมบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ต้องมาติดปัญหาผมร่วงนี่แหล่ะค่ะ ลำพังขนาดผมปกติยังร่วงขนาดนี้ถ้าทำสีด้วยจะขนาดไหน และปัญหาสุดรุงรังรองลงมาจากปัญหาผมร่วงแล้วยังไงก็ไม่พ้นเรื่องรังแคนี่แหล่ะค่ะ เปลี่ยนแชมพูก็แล้ว ครีมนวดก็แล้ว อันไหนใครว่าดีก็ตำมาหมดแล้ว แต่ปัญหาก็ไม่ได้จะหมดไปซะนี่ เรียกได้ว่าทำเอาหมดความมั่นใจกันไปตามๆกัน ถ้าไม่อยากขาดความมั่นใจเพราะปัญหารังแค่อีกต่อไป วันนี้เรามี 5 สูตรหมักผม “ขจัดรังแค” จากธรรมชาติ ที่สามารถ DIY ด้วยตัวเองที่บ้านได้ง่ายมากๆ มาให้ได้ลองทำตามกัน ซึ่งแต่ละสูตรจะช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะให้สะอาด ลดการเกิดรังแค แถมยังทำให้สุขภาพเส้นผมดีขึ้นด้วยนะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@saracervera

1. สูตรโยเกิร์ต + น้ำผึ้ง + เลมอน

มาเริ่มต้นปฏิบัติการขจัดรังแคที่คอยตามรังควานด้วยสูตรหมักผมสูตรแรกที่เราหยิบมาบอกต่อกัน อย่าง สูตรโยเกิร์ต + น้ำผึ้ง + เลมอน ก่อนเลยค่ะ ขอบอกเลยว่าส่วนผสม 3 ชนิดนี้ที่หาได้ง่ายๆ จากในห้องครัว มีคุณสมบัติช่วยจัดการกับรังแคแตกต่างกันไป โดย “เลมอน” มีกรดซิตริกที่ช่วยปรับสมดุล pH ของเส้นผมได้ ส่วน “โยเกิร์ต” เน้นเรื่องการช่วยฟื้นบำรุงผมเสียจากการถูกทำร้าย และเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม และ “น้ำผึ้ง” ช่วยต้านการอักเสบบนหนังศีรษะและลดการเกิดรังแค สูตรหมักผมสูตรนี้จึงเหมาะสำหรับทั้งคนที่มีปัญหาเส้นผมแห้งเสีย และคนที่มีปัญหารังแคเลยนั่นเอง

HOW TO

วิธีการทำสูตรหมักผมนี้ก็ให้ ผสมโยเกิร์ต ½ ถ้วย, น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นชโลมส่วนผสมลงบนเส้นผมโดยเริ่มจากโคนผมมายังปลายผม หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วสระผมให้สะอาด สูตรนี้แนะนำให้ทำเป็นประจำ 1 – 2 ครั้ง/สัปดาห์ได้เลย

2. สูตรไข่ไก่ + โยเกิร์ต

เราเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่ชอบกินโยเกิร์ตเหมือนกันแน่ๆ เพราะโยเกิร์ตที่แช่เย็นฉ่ำๆ กินแล้วรู้สึกสดชื่น และเป็นเมนูที่กินได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วน นอกจากนี้ยังนำมาทำสูตรหมักผม สูตรไข่ไก่ + โยเกิร์ต เพื่อต่อสู้กับปัญหารังแคบนหนังศีรษะได้อีกต่างหาก เพราะทั้ง “ ไข่ไก่ ” และ “ โยเกิร์ต ” จะรวมพลังกันช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ พอหนังศีรษะไม่แห้งเสีย ไม่ลอก ก็จะช่วยลดการเกิดรังแคได้

HOW TO

สูตรนี้ให้นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย และไข่ไก่ 1 ฟอง มาตีใส่ถ้วยจนส่วนผสมเข้ากัน ( สามารถใส่น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ เข้าช่วยเพิ่มพลังการบำรุงเส้นผมได้นะ! ) แล้วค่อยๆ ชโลมส่วนผสมโดยเริ่มจากโคนผมไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงปลายผม หมักผมทิ้งไว้ประมาณ​ 20 นาที เสร็จแล้วก็สระผมด้วยแชมพูแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น สูตรนี้แนะนำให้ใช้หมักผมแค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/emirkrasnic-4132021/

3. สูตรไข่ขาว + น้ำมันมะกอก

ตามมาดูสูตรหมักผมแก้ปัญหารังแคสูตรต่อไปอย่าง สูตรไข่ขาว + น้ำมันมะกอก ที่ยังคงใช้ไข่ไก่เป็นส่วนผสมอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพลังการบำรุงผมจากน้ำมันมะกอกนั่นเองค่ะ ซึ่งสูตรนี้เลือกใช้ “ ไข่ขาว ” ที่อุดมด้วยกรดไขมันและวิตามินอี ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผมนุ่มลื่นเป็นประกาย พร้อมป้องกันการเกิดรังแค ส่วน “ น้ำมันมะกอก ” ก็เน้นช่วยบำรุงให้ผมนุ่มชุ่มชื้นเช่นกัน แล้วยังช่วยให้หนังศีรษะสุขภาพดีด้วยนะ

HOW TO

วิธีทำสูตรนี้ก็ง่ายมากๆ เลยนะ เพียงนำไข่ไก่ 2 ฟอง และน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ มาตีให้เข้ากันในถ้วยขนาดพอดี จากนั้นก็ชโลมส่วนผสมให้ทั่วศีรษะ​โดยเริ่มจากโคนผมไปยังปลายผม หมักผมทิ้งไว้ประมาณ​ 1 ชั่วโมง แล้วค่อยสระผมให้สะอาดและล้างออกด้วยน้ำเย็น สาวซิสสามารถหมักผมด้วยสูตรนี้เป็นประจำ 1 – 2 ครั้ง / สัปดาห์ เพื่อฟื้นคืนความแข็งแรงให้เส้นผม และขจัดรังแคออกไปจากหนังศีรษะได้เลย

4. สูตรว่านหางจระเข้

ถ้าใครชอบมองหาสูตรบำรุงความงามที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน ก็คงจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วนะว่าว่านหางจระเข้ ถือเป็นสมุนไพรที่ช่วยปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวฉ่ำน้ำ ที่สำคัญยังสามารถนำมาใช้หมักผมด้วย สูตรว่านหางจระเข้ ได้อีกต่างหาก เพราะ “ ว่านหางจระเข้ ” จะช่วยลดการอักเสบของผิวหนังบนหนังศีรษะ และมีคุณสมบัติต้านเชื้อราจึงช่วยลดการเกิดรังแคได้

HOW TO

สูตรหมักผมด้วยว่านหางจระเข้สูตรนี้ใช้ส่วนผสมทั้งหมด 2 อย่างด้วยกัน นั่นก็คือเจลว่านหางจระเข้ 4 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส 2 – 3 หยด โดยนำส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้มาผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็เริ่มชโลมส่วนผสมบริเวณโคนผมไปยังปลายผม แล้วอย่าลืมนวดบริเวณหนังศีรษะแบบเน้นๆ ด้วยนะ เสร็จแล้วก็หมักผมทิ้งไว้ประมาณ​ 30 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น แค่หมักผมด้วยสูตรนี้เป็นประจำ 2-3 ครั้ง /สัปดาห์ ก็เตรียมบอกลารังแคตัวร้ายไม่ให้มากวนใจอีกต่อไปแล้ว

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stevepb-282134/

5. สูตรโยเกิร์ต + ทีทรีออยล์ + น้ำมันมะกอก

หากสาวๆ ลองเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วเจอกับโยเกิร์ตที่ซื้อมาตุนไว้ และคิดว่าคงกินไม่ทันวันหมดอายุแน่ๆ ก็ให้นำมาทำ สูตรโยเกิร์ต + ทีทรีออยล์ + น้ำมันมะกอก เพื่อใช้หมักผมขจัดรังแคและบำรุงให้เส้นผมนุ่มลื่นได้เลยค่ะ โดย “ ทีทรีออยล์ ” เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยเด็ดที่มีประสิทธิภาพในการรักษารังแค พร้อมกับช่วยบรรเทาอาการคันและรอยแดงบนหนังศีรษะ ส่วน “ โยเกิร์ต ” และ “ น้ำมันมะกอก ” เน้นช่วยเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม พอส่วนผสมเหล่านี้มารวมตัวกันจึงช่วยแก้ปัญหารังแคได้อย่างตรงจุด

HOW TO

ถึงแม้ว่าสูตรหมักผมสูตรนี้จะใช้ส่วนผสมหลายอย่าง แต่ไม่ได้มีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากเลยสักนิดเดียว แค่ต้องเตรียมส่วนผสมไว้ 2 ส่วนด้วยกัน โดยส่วนแรกให้ผสมทีทรีออยล์ 4-5 หยด, โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน แล้วนำมาชโลมให้ทั่วศีรษะโดยเริ่มจากโคนผมไปยังปลายผม พร้อมนวดหนังศีรษะเบาๆ 5-10 นาที จากนั้นก็หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง

ระหว่างรอก็ให้เตรียมส่วนผสมส่วนที่สองด้วยการผสมทีทรีออยล์ 8-10 หยด เข้ากับน้ำเปล่า 1 ถ้วย เพื่อนำมาใช้ล้างเส้นผมให้สะอาดหลังจากที่ครบกำหนดเวลาแล้ว สูตรนี้แนะนำให้ใช้หมักผมแค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้วนะ จะได้ไม่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะมันเยิ้มง่ายจนเกินไป

สำหรับสูตรวิธีการเหล่านี้นั้นเป็นวิธีจากธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าปลอดภัยแบบ 100% เลยล่ะค่ะ สาวๆ ไม่ต้องไปสรรหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ นาๆ มาเสี่ยงทายกันอีกต่อไปแล้ว และที่สำคัญวิธีเหล่านี้นั้นก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้เองที่บ้านเลยล่ะค่ะ สำหรับใครที่มีปัญหานี้อยู่แล้วล่ะก็ อย่างไรก็อย่าปล่อยปะละเลยปัญหานี้นะคะ DooDiDo แนะนำว่าควรจะที่รีบหาวิธีแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานปัญหาก็จะยิ่งลุกลาม บานปลายไปกันใหญ่ กลัวว่าสุดท้ายแล้วเราก็ต้องไปปรึกษาแพทย์กันน่ะสิคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com