คุณแม่ต้องเฝ้าระวัง!! 3 โรคระบาดที่เจอบ่อยในโรงเรียนอนุบาล

WM

เคล็ดลับวิธีการป้องกันไม่ให้ลูกเจอกับปัญหาโรคระบาด

เมื่อลูกน้อยวัยอนุบาลเริ่มเปิดเทอม ปัญหาอย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่มักเจอกันอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือคือการเจ็บป่วยของลูก โดยเฉพาะในเด็กวัยอนุบาลที่ภูมิคุ้มกันยังไม่ค่อยดีมากนัก เมื่อมีเด็กคนใดคนนึงในห้องเรียนป่วย เด็กคนอื่นๆ จึงพากันติดได้อย่างง่ายดาย วันนี้เราจึงนำ 3 โรคที่เด็กๆ มักติดมาจากเพื่อนในโรงเรียนอนุบาล รวมไปถึงวิธีการดูแลเมื่อลูกไม่สบายและวิธีป้องกันมากฝากค่ะ

เชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา โดยเฉพาะในเด็กย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้สูงมาก เพราะระบบภูมิต้านทานในร่างกายยังไม่แข็งแรงและสมบูรณ์ อาจนำมาซึ่งการติดเชื้อและเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย สังเกตได้จากโรงพยาบาลหลายแห่งจะมีเด็กเข้ารักษาโรคจำนวนมาก เช่น โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ดังนั้นการรู้เท่าทันโรคเด่นที่เด็กเป็นมากที่สุดในโรงเรียนอนุบาล พร้อมทั้งความสำคัญ สาเหตุ และวิธีการป้องกันโรค จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ป้องกันได้ทันท่วงที และสังเกตอาการได้อย่างรู้เท่าค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://sites.google.com/site/wwwrongkham00479zone4com

1.โรคมือ เท้า ปาก
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส โดยสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคที่พบได้บ่อย เช่น คอกซากีไวรัส เอ16 (coxsackievirus A16) ที่ไม่รุนแรงมาก และเอนเทอโรไวรัส 71 (enterovirus 71) ที่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต มักพบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยการติดต่อเกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งจากจมูก น้ำลาย และติดต่อโดยอ้อมจากของเล่นหรือสิ่งที่มีการปนเปื้อนของเชื้อ อาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ

อาการ

  • มีอาการคล้ายไข้หวัด เป็นไข้ประมาณ 5-7 วัน
  • มีแผลร้อนในเกิดขึ้นในปากหลายแผล
  • มีตุ่มน้ำใสที่มือและเท้า

 

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/myriams-fotos-1627417/

วิธีดูแล
ไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะ ให้รักษาตามอาการ เช่น กินยาลดไข้ ให้กินอาหารเหลาวๆ และพยายามให้ดื่มน้ำมากๆ และควรให้ลูกหยุดเรียนรักษาจนหายเสียก่อน

วิธีป้องกัน

  • ให้ลูกล้างมือบ่อยๆ
  • พยายามสอนไม่ให้ลูกเอาของเล่นเข้าปาก
  • พยายามทำความสะอาดของเล่นอยู่เสมอ

 

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/victoria_borodinova-6314823/

2.ไวรัส RSV
เชื้อไวรัส RSV เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว โดยเชื้อไวรัสจะมีชีวิตอยู่ภายนอกร่างกายได้หลายชั่วโมงโดยอาศัยอยู่ตามวัตถุต่างๆ และแพร่กระจายได้ง่ายผ่านการไอหรือการจาม

อาการ
เริ่มตั้งแต่มีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจเร็ว หอบเหนื่อยเนื่องจากปอดอักเสบ กินข้าวได้น้อย ซึมลง

 

WM
ขอบคุณภาพจาก:https://pixabay.com/th/users/sweetlouise-3967705/

วิธีการดูแล
หากลูกมีอาการป่วยควรให้ลูกหยุดเรียน และปิดปากเมื่อไอหรือจาม ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อเพิ่มความเจือจางในเสมหะหรือน้ำมูก ทำให้หายใจสะดวกขึ้น

วิธีป้องกัน

  • ล้างมือบ่อยๆ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่กับผู้ติดเชื้อ (ป้องกันการติดเชื้อผ่านน้ำมูก น้ำลาย)
  • ไม่ควรใช้แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น
  • ทำความสะอาดของเล่น ของใช้และสนามเด็กเล่นอยู่เสมอ

 

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://today.line.me/th

3. ท้องร่วง
ท้องร่วงส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจาก “เชื้อโรต้าไวรัส” และมักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ โดยติดเชื้อจากการรับประทานอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด รวมไปถึงสัมผัสกับสิ่งของมีมีการปนเปื้อนเชื้อจากอึของเด็กๆ

อาการ

  • ปวดท้อง
  • ถ่ายบ่อยและเหลวเป็นน้ำ
  • มีไข้และอาเจียนร่วมด้วย
  • ก้นจะแดง

วิธีดูแล
ให้ลูกจิบสารละลายเกลือแร่น้อยๆ แต่บ่อยๆ เพื่อไม่ให้ขาดน้ำ อย่างดอาหาร เน้นอาหารจำพวกแป้งและโปรตีน ให้กินทีละน้อย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเส้นใยสูง

 

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/soumen82hazra-16209681/

วิธีป้องกัน

  • รับการหยอดวัคซีนที่โรงพยาบาล
  • ล้างมือทุกครั้งที่หยิบจับของสกปรก
  • ทำความสะอาดของเล่น ของใช้บ่อยๆ

ทั้ง 3 โรคที่ DooDiDo นำมาเสนอนี้ ล้วนเป็นโรคระบาดยอดฮิตที่เกิดขึ้นกับเด็กในโรงเรียนอนุบาลค่ะ โรคภัยไข้เจ็บล้วนสร้างความไม่สบายกายและไม่สบายใจให้กับตัวเด็ก รวมไปถึงตัวคุณพ่อ คุณแม่เองด้วย เพื่อป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วยด้วยโรคระบาดยอดฮิต คุณพ่อคุณแม่ต้องป้องกันด้วยการฝึกเขาให้ล้างมือบ่อย ๆ ในทุกครั้งหลังการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงก่อนการกินอาหารค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.parentsone.com, www.bangkokhospital.com