คุณแม่ตั้งครรภ์ควรดูแลตัวเองอย่างไรในแต่ละไตรมาส

ตั้งครรภ์

ตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาพิเศษที่สุดและมีความสุขมากที่สุดสำหรับคุณแม่และคุณพ่อ ที่จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มในครอบครัว การตั้งครรภ์นั้นแบ่งเป็น 3 ไตรมาส ซึ่งทุกๆ ไตรมาสคุณแม่ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงและต้องดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงเริ่มตั้งครรภ์ไตรมาส 1 (1-3 เดือน) เป็นช่วงที่สำคัญที่ต้องดูแลสุขภาพครรภ์ให้ดีที่สุด คุณแม่ต้องเรียนรู้และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและพัฒนาการของลูกในขณะอยู่ในครรภ์ รวมทั้งดูแลตัวเองในแต่ละไตรมาส เพื่อช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ในขณะตั้งครรภ์

ตั้งครรภ์
ขอบคุณภาพประกอบจาก istockphoto.com

การดูแลตัวเองเมื่อเริ่มตั้งครรภ์

การดูแลตัวเองเมื่อตั้งครรภ์อ่อนๆ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณและทารกภายในเติบโตอย่างแข็งแรงและแข็งแรง นี่คือบางแนวทางที่ควรพิจารณา

  • อาหารที่เหมาะสม: บริโภคอาหารที่รวดเร็วทั้งโปรตีน, วิตามิน, แร่ธาตุ และกรดไขมัน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือซูชิที่มีไขมันชนิดไม่ดี
  • การดื่มน้ำ: ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อป้องกันความซึมเศร้าหรือปัญหาของไตในขณะตั้งครรภ์
  • ออกกำลังกาย: ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งก่อนที่คุณจะเริ่มทำออกกำลังกายในขณะตั้งครรภ์ เลือกกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น เดิน, โยคะ หรือการว่ายน้ำ
  • การพักผ่อน: เมื่อตั้งครรภ์ให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ พยายามหลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมาก
  • นอนเพียงพอ: เมื่อตั้งครรภ์ให้รักษาระยะเวลาการนอนอย่างเพียงพอและในท่าที่สะดวกสบาย
  • หลีกเลี่ยงสารพิษ: หลีกเลี่ยงสารพิษต่างๆ เช่น บุหรี่, แอลกอฮอล์ และสารเคมีอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อทารกในขณะตั้งครรภ์
  • การเข้ารับการตรวจรักษา: ทำการตรวจรักษาตามตารางที่แพทย์กำหนด
  • การทานวิตามิน: ทานวิตามินสำหรับครรภ์ตามที่แพทย์แนะนำ
  • การติดตามน้ำหนัก: การติดตามน้ำหนักในขณะตั้งครรภ์ตามที่แพทย์แนะนำ
  • ความสะอาดส่วนบุคคล: รักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งอื่นๆ ตามที่แพทย์แนะนำ
  • การทำโยคะ: การทำโยคะในขณะตั้งครรภ์ช่วยรักษาระดับแรงดันโลหิตและควบคุมอารมณ์
  • การจัดการกับความเครียด: ปฏิบัติการจัดการกับความเครียดและภาวะทางจิต
  • การเข้ารับการตรวจครรภ์: ตามนัดหมายของแพทย์และทำการตรวจครรภ์ตามที่แนะนำ

การตั้งครรภ์ไตรมาส 1 (1-3 เดือน)

การตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 1 เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญมาก ควรรักษาสุขภาพของคุณอย่างดีและทำความเข้าใจถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารก และอย่าลืมรับคำปรึกษาจากแพทย์ของคุณเพื่อข้อมูลและคำแนะนำที่เหมาะสม นี่คือบางข้อที่ควรทราบ

  • การเปลี่ยนแปลงที่ร่างกาย: ระยะตั้งครรภ์นี้คุณอาจสัมผัสการเปลี่ยนแปลงที่ร่างกาย เช่น รูปร่างเพิ่มขึ้น, หน้ามืด, อาการอาเจียน หรือความอ่อนเพลีย
  • อาการอาเจียน: อาการอาเจียนเป็นอาการที่พบได้มากในการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 1 ควรพิจารณาการรับประทานอาหารเล็กๆ แต่บ่อยครั้ง
  • การดูแลสุขภาพ: รักษาระบบการทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน การดื่มน้ำเพียงพอ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
  • การรับประทานเพิ่มพลังงาน: ตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 1 เป็นช่วงเวลาที่คุณอาจมีความต้องการในพลังงานเพิ่มขึ้น ควรพิจารณาเพิ่มปริมาณอาหารและการรับประทานวิตามินพร้อมกระบวนการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม
  • การเช็คสุขภาพทารก: นัดหมายการตรวจครรภ์และการตรวจอัลตราซาวน์เพื่อตรวจดูสุขภาพของทารก
  • การเริ่มต้นดื่มวิตามิน: เมื่อตั้งครรภ์ควรเริ่มต้นดื่มวิตามินสำหรับครรภ์ เพื่อให้ครบถ้วนทุกรูปแบบสารอาหาร
  • การป้องกันอาการอย่างง่าย: หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีที่อาจมีผลกระทบต่อทารก และการตรวจสอบว่ายาที่คุณใช้ปลอดภัยสำหรับการใช้ระหว่างการตั้งครรภ์
  • การเข้ารับการตรวจรักษา:คำปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการตรวจครรภ์ที่แนะนำในไตรมาสที่ 1

การตั้งครรภ์ไตรมาส 2 (4-6 เดือน)

ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่ต่างจากไตรมาสที่ 1 และมีสภาพทางร่างกายที่คล่องตัวขึ้นมาก นี่คือบางข้อสังเกตในไตรมาสที่ 2

  • ลดอาการอาเจียน: ส่วนใหญ่ของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มักพบว่าอาการอาเจียนลดลงหรือหายไปในไตรมาสที่ 2
  • เพิ่มพลังงาน: คุณอาจรู้สึกหลงเลยและมีพลังงานมากขึ้น ดังนั้นควรใส่ใจการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน
  • การเพิ่มน้ำหนัก: มักมีการเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นในตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 จึงควรระวังการรับประทานอาหารในสัปดาห์ที่สองและสาม
  • การรู้สึกการเต้นของทารก: ตั้งครรภ์ในสัปดาห์ที่ 18-20 คุณอาจรู้สึกการเต้นของทารกที่สำคัญเป็นการรู้สึกที่น่าประทับใจ
  • การเพิ่มขนาดท้อง: ท้องของคุณจะเริ่มขึ้นขนาดมากขึ้น และคุณอาจต้องใส่เสื้อผ้าที่มีรอบเอวกว้างขึ้น
  • การเปลี่ยนแปลงในระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ: คุณอาจรู้สึกเจ็บปวดหลัง ข้อต่อหรือเข่าเพรียวขณะไตรมาสที่ 2 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ
  • การเตรียมการตั้งครรภ์: ไตรมาสที่ 2 เป็นเวลาที่ดีในการเตรียมการตั้งครรภ์และการรับมือกับการก่อตัวของทารก
  • การตรวจรักษา: ควรเข้ารับการตรวจรักษาเพื่อตรวจสุขภาพของทารกและการตรวจรู้เพศ
  • การติดตามน้ำหนัก: ควรติดตามน้ำหนักตามที่แพทย์แนะนำ
  • การดูแลสุขภาพช่องปาก: การดูแลสุขภาพช่องปากมีความสำคัญเพราะการตั้งครรภ์อาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องปาก
  • การฝึกซ้อมการคลอด: ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ฝึกซ้อมการคลอดในไตรมาสที่ 2

การตั้งครรภ์ไตรมาส 3 (7-9 เดือน)

การตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 3 เป็นช่วงเวลาที่คุณควรรักษาตนเองอย่างดีและรับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อการดูแลทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์เป็นระยะเวลาที่ครบถ้วนและสำคัญที่สุด นี่คือบางข้อสังเกตในไตรมาสที่ 3

  • การเพิ่มขนาดท้อง: ท้องของคุณจะเพิ่มขึ้นมากขึ้น ทำให้คุณต้องใส่เสื้อผ้าที่มีรอบเอวกว้างขึ้น
  • ความไม่สบายและเจ็บปวด: คุณอาจรู้สึกไม่สบาย, เจ็บปวดที่สะโพก, ขา หรือลำไส้
  • อาการบวมและปวดขา: อาการบวมของขาสามารถเกิดขึ้นได้ และอาจเป็นเรื่องปกติของการตั้งครรภ์
  • การละลายข้อต่อ: การละลายข้อต่อเพราะฮอร์โมน relaxin ทำให้ข้อต่อมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด
  • การเหนื่อยล้าและนอนไม่หลับ: คุณอาจรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้นและมีความยากในการหลับ
  • การมีแรงกระตุ้นทางเพศ: บางคู่รู้สึกมีแรงกระตุ้นทางเพศเพิ่มขึ้น ส่วนอื่นรู้สึกลดลง
  • การมีการเคลื่อนไหวของทารก: ทารกมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น โคลงตัวมากขึ้น และบางครั้งอาจสามารถรู้สึกการกระตุ้นจากทารก
  • การตรวจครรภ์: ตรวจครรภ์เป็นสิ่งสำคัญในการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 เพื่อตรวจสุขภาพของทารกและคุณ
  • การเตรียมการคลอด: ในช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 คุณอาจเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเตรียมตัวในการคลอด
  • การเตรียมการต้อนรับทารก: เตรียมตัวให้พร้อมที่จะต้อนรับทารก เช่น การเตรียมชุดนอนทารก, การเตรียมกระเป๋าสำหรับโรงพยาบาล และการแนะนำตำแหน่งที่ทารกควรนอน
  • การนอนหลับและการพักผ่อน: รักษาระยะเวลาการนอนหลับที่เพียงพอและพักผ่อนในการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 28-32
  • การตรวจสุขภาพช่องปาก: การดูแลสุขภาพช่องปากมีความสำคัญในการป้องกันภาวะปากแหว่งที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์
  • การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการคลอด: ในช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 คุณอาจรู้สึกว่าร่างกายเตรียมตัวในการคลอด
  • การทำโยคะ: การทำโยคะช่วยลดอาการปวดและเตรียมตัวในการคลอด

การดูแลสุขภาพครรภ์ตลอดไตรมาส

การดูแลสุขภาพครรภ์ตลอดไตรมาสเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปได้ด้วยความสะดวกและปลอดภัย นี่คือบางแนวทางที่สามารถช่วยในการดูแลสุขภาพครรภ์

  • ตรวจรักษาที่สม่ำเสมอ: ควรเข้ารับการตรวจรักษาตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งรวมถึงการตรวจครรภ์ประจำ, การตรวจรักษาทางภายนอก และการตรวจรักษาทางภายใน
  • การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน: รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนทุกหมู่ โปรตีน, ผลไม้, และผัก เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของทารก
  • การดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำมีความสำคัญต่อการรักษาการเคลื่อนไหวของร่างกายและการรักษาน้ำหลัก
  • การควบคุมน้ำหนัก: การควบคุมน้ำหนักในขณะตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะภูมิคุ้มกันเสื่อม ความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า และภาวะโรคระบบหลอดเลือด
  • การออกกำลังกาย: การออกกำลังกาย เช่น การเดิน, โยคะ, สวมใส่รองเท้าที่สะดวกสบาย สามารถช่วยให้ร่างกายคงทนและสุขภาพดี
  • การป้องกันภาวะซึมเศร้า: การมีการสนทนาและการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้าในขณะตั้งครรภ์
  • การระมัดระวังในการรับประทานยา: แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งก่อนที่จะใช้ยาหรือการรับประทานวิตามิน
  • การเลือกใช้วิตามินสำหรับครรภ์: การเลือกใช้วิตามินสำหรับครรภ์ตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้ครบถ้วนทุกรูปแบบ
  • การรักษาสุขภาพช่องปาก: การรักษาสุขภาพช่องปากในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการมีสุขภาพช่องปากที่ไม่ดีอาจมีผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและทารก
  • การจัดการกับอาการไม่สบาย: หากมีอาการไม่สบายในขณะตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
  • การหลีกเลี่ยงสารอันตราย: หลีกเลี่ยงสารอันตรายที่อาจมีผลกระทบต่อทารก เช่น บุหรี่, แอลกอฮอล์ และสารเคมีอื่นๆ
  • การปรึกษาแพทย์เวลามีปัญหา: หากมีปัญหาหรือคำถามใดๆ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ทันที

บทสรุป

การที่ผู้หญิตั้งครรภ์และพร้อมที่เป็นคุณแม่มือใหม่ ต้องเริ่มดูแลตัวเองให้ครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและจิตใจตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนครบตลอดไตรมาส ช่วงไตรมาสแรกจะมีความสำคัญมากและการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เห็นได้ชัด คุณแม่ต้องพักผ่อนให้มากๆ และทานอาหารที่มีประโยชน์ ส่วนไตรมาส 2 และ 3 ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน และการรับคำปรึกษาและติดตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปได้ด้วยความปลอดภัย

 

ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : maternity.jacksonhealth.org/ncbi.nlm.nih.gov/uclahealth.org

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com