ควรเลือกรองเท้าให้เหมาะกับลูกแต่ละช่วงวัยและใส่แล้วสบายที่สุด

WM

การดูแลรองเท้าขอลลูกไม่ควรมองข้ามก็คือการรักษาความสะอาด 

การเลือกซื้อรองเท้าสำหรับเด็กนั้น ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณแม่คุณพ่อที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ อย่าตัดสินแค่ความสวยงามของตัวรองเท้าเพียงอย่างเดียว เพราะอาจจะไปปิดกันพัฒนาการในการเดินที่ถูกวิธีได้ สำหรับเด็กแรกเล็กนั้นจะเริ่มพัฒนาการเรื่องการเดินในช่วง 5-6 เดือน คุณแม่อาจจะเริ่มมองหารองเท้าสำหรับเด็กเล็ก แต่ควรจะใส่เมื่อออกไปนอกบ้าน หรือในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย อาจเกิดบาดแผลที่เท้าเด็กได้เท่านั้น หากอยู่ในบ้านควรปล่อยให้เด็กเดินเท้าเปล่าจะดีที่สุด จะได้ฝึกการรับรู้ การสัมผัส และยังสามารถช่วยปรับสภาพเท้าให้เหยียบพื้นได้เต็มฝ่าเท้าอีกด้วย

เท้าของเด็กจะเปลี่ยนแปลงเร็วมาก หากอายุต่ำกว่า 18 เดือน เท้าจะใหญ่ขึ้นมากกว่าครึ่งไซด์ทุกๆ 2 เดือน หากโตขึ้นมาหน่อยเท้าจะใหญ่ขึ้นมากกว่าครึ่งไซด์ทุกๆ 3 เดือน และ หากมีอายุ 3 ขวบ เท้าจะใหญ่ขึ้น หนึ่งไซด์ทุกๆ ปีรองเท้าสำหรับเด็ก นั้นเป็นเพียงเครื่องปกป้องเท้าของพวกเขาจากสิ่งที่จะทำให้เกิดแผล หรือความเจ็บปวด ไม่สามารถรักษาความผิดปกติของเท้าได้นะคะ หากคุณแม่ท่านใดพบว่าเท้าของลูกมีความผิดปกติ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการเดิน ควรนำลูกไปพบแพทย์เฉพาะด้านทันที แพทย์จะทำการวิเคราะห์ และหากจำเป็นก็จะต้องสั่งตัดรองเท้าเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาของลูกขึ้นมา ซึ่งจะช่วยรักษาความผิดปกติได้ค

การเลือกรองเท้าสำหรับเด็กมีหลักง่ายๆ ดังนี้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/jupilu-9196359/

1. ควรพาลูกไปวัดขนาดเท้าที่แท้จริง และวัดขนาดเท้าทั้งสองข้าง เนื่องจากเท้าแต่ละข้างจะไม่เท่ากัน

2. ควรเลือกรองเท้าที่หุ้มข้อที่แข็งแรง เพื่อช่วยประคองข้อเท้าเด็ก

3. ควรเลือกรองเท้าที่มีสายรัด หรือตัวรัดเท้าไม่ให้หลุดได้ง่าย ลูกจะได้ไม่กังวลว่ารองเท้าจะหลุด ทำให้จิกนิ้วเท้าหรือเกร็งเท้าไว้ ไม่กล้าลงน้ำหนักเท้าอย่างถูกต้อง

4. ควรเลือกรองเท้านิ่ม แต่ไม่ควรบางจนเกินไป มีความยืดหยุ่นได้ดี

5. ควรเลือกรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา อาจทำให้เด็กรู้สึกไม่อยากเดินได้

6. ควรเลือกรองเท้าที่มีส้นแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักตัวได้ และไม่ลื่น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pexels-2286921/

7. ควรเลือกรองเท้าที่ทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี อย่างเช่น ผ้าฝ้าย ผ้าใบ และไม่ควรเลือกรองเท้าที่ทำจากพลาสติกเพราะจะทำให้อับชื้น เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราที่เท้าได้

8. ควรเลือกรองเท้าที่มีการตัดเย็บประณีต รวมทั้งรอยต่อ รอยตะเข็บ ต้องไม่เสียดสีเท้า อาจทำให้เกิดรอยแผลถลอกได้

9. ควรเลือกรองเท้าที่มีทรงหัวป้าน กว้าง ไม่บีบเท้า ต้องมีช่องว่างเหลือบริเวณหัวแม่เท้า และนิ้วที่ยาวที่สุดห่างจากขอบรองเท้าประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร

เด็กในช่วงเล็กๆ นี้มีการพัฒนาการทางด้านร่างกายอยู่ตลอดเวลา คุณแม่คุณพ่อไม่จำเป็นต้องซื้อรองเท้าไว้ที่ละหลายๆ คู่คะ อาจจะซื้อไว้สัก 2-3  คู่ก็เพียงพอแล้ว สามารถใส่สลับกันได้ และควรหมั่นตรวจดูขนาดเท้าของลูกทุกๆ 3 เดือน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ จะได้ซึ้อรองเท้าใหม่ให้มีขนาดพอดีกับเท้าลูก และไม่ต้องเสียดายรองเท้าคู่เดิมๆ ที่เล็กจนบีบเท้า ทิ้งไปเถอะคะ เพื่อพัฒนาการที่ดีของเจ้าตัวเล็ก เมื่อคุณแม่เลือกรองเท้าที่เหมาะสมให้กับลูกน้อยได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการรักษาความสะอาด ให้แห้ง ไม่มีกลิ่นเหม็นอับ ป้องกันการเกิดโรคเชื้อรานะคะ

รองเท้าสำหรับเด็ก นั้นเป็นเพียงเครื่องปกป้องเท้าของพวกเขาจากสิ่งที่จะทำให้เกิดแผล หรือความเจ็บปวด ไม่สามารถรักษาความผิดปกติของเท้าได้นะคะ หากคุณแม่ท่านใดพบว่าเท้าของลูกมีความผิดปกติ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการเดิน DooDiDo ขอแนะนำว่าควรนำลูกไปพบแพทย์เฉพาะด้านทันที แพทย์จะทำการวิเคราะห์ และหากจำเป็นก็จะต้องสั่งตัดรองเท้าเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาของลูกขึ้นมา ซึ่งจะช่วยรักษาความผิดปกติได้คะ

ขอบคุณข้อมูลจาก: www.babyeverything.net