คนเลี้ยงสุนัขต้องระวัง! 10 สัญญาณเตือนโรคซึมเศร้าในสุนัข

สัญญาณเตือนว่าสุนัขของคุณกำลังเป็นโรคเหงา

การที่เราคิดจะเลี้ยงสัตว์สักตัวนึง เช่น น้องหมาคนเลี้ยงก็ต้องมีความพร้อมในการดูแลเอาใจใส่เขาให้เป็นอย่างดี วันนี้เรามีสาระความดีๆ มาฝากให้เพื่อนที่เลี้ยงสัตว์อย่างเจ้าตูบมาให้บรรดาคนรักน้องหมา อย่างที่ใครหลายคนคงทราบดีกว่า ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ก็มีโรคภัยไข้เจ็บทั้งนั้น ทั้งจาดภายในภายนอก ตอนนี้เราทุกคนคงมีความเครียดเหมือนๆกันกับสถานการณ์ปัจจุบันกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่าลืมน่าว่าสัตว์เลี้ยงของเราก็สารถเป็นโรคเครียดหรือโรคเหงาได้เช่นกัน ความเครียดของน้องหมาอาจทำให้น้องมีนิสัยที่ก้าวร้าว และรุนแรงขึ้น โรคซีมเศร้าสามารถทำให้น้องที่น่ารักของเราเปลี่ยนไป วันนี้เราสัญญาณเตือนว่าสุนัขของคุณกำลังเป็นโรคเหงา

คุณรู้หรือเปล่าว่าไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่เป็นโรคซึมเศร้า แต่สุนัขก็เป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน ซึ่งทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคนี้ บางตัวอาจถึงขั้นตรอมใจตายได้เลยทีเดียว แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าสุนัขกำลังเป็น “โรคเหงา” หรือ “โรคซึมเศร้าในสุนัข” วันนี้เราจะดู 10 สัญญาณเตือนที่ใช้ในการสังเกตอาการเบื้องต้นมาฝากกันค่ะ

10 สัญญาณเตือน โรคซึมเศร้าในสุนัข

1.อาการหอน ที่ไม่ใช่การพูด ไม่ใช่การติดสัด แต่เป็นเสียงหอนเศร้าๆ แววตาเหม่อลอยไม่มีโฟกัส

2.ทำตัวงอ ไม่ยอมให้จับ แปลว่าสุนัขกำลังรู้สึกไม่ปลอดภัย มักมีอาการหางตก หูลู่ไปทางด้านหลัง และ มีแววตาหวาดระแวงร่วมด้วย ตาขาวเบิกกว้าง นิ่ง ตัวเกร็ง

3.งับ หรือ กัดหางตัวเอง แล้วหมุนเป็นวงกลม เป็นภาวะของการย้ำคิดย้ำทำ มีความเครียดสะสม คลายกับที่คนกัดเล็บจนเป็นความเคยชิน ซึ่งสาเหตุก็มาจากความกังวล ส่งต่อเป็นความเครียดสะสม เกิดกรดในกระเพาะหรือบางบ้านไม่มีกิจกรรมให้ระบายพลังงานที่สะสมในตัวเอง การกัดหางเมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจะกัดจนเลือดออก และกลายเป็นหมาโรคจิตได้

4.อาการหาวบ่อย แกล้งหาว หากสุนัขดูอ่อนเพลีย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ และ นอนไม่พอ

5.นอนซึม เก็บตัวในที่แคบทั้งวัน เรียกก็ไม่ยอมออกมา เก็บตัวในซอก หรือที่แคบ หรือใต้โต๊ะ ใต้เตียง ใต้เก้าอี้ อาการแบบนี้บ่งบอกว่าน้องหมารู้สึกไม่ปลอดภัย และไม่ไว้ใจคุณที่เป็นคนในบ้าน หรือเจ้าของ เช่นมีกิจกรรมที่เปลี่ยนไป มีเสียงประหลาด มีการทะเลาะรุนแรง เจ้าของไม่มั่นคง สมดุล

6.สุนัขจะยกขาหน้าหนึ่งข้าง ต้องสังเกตดีๆ ว่ามันไม่ได้เจ็บขา หรือ เพิ่งสะดุดล้มขากะเผลก สามารถเช็คได้ด้วยการจับขาแล้วยืดเบาๆ แต่ถ้าเกิดอาการหวงขาขึ้นมา จับแล้วร้อง แปลว่าเจ็บขาจากบาดแผลหรืออุบัติเหตุ แต่ถ้าอยู่ดีๆ สุนัขก็ชอบยกขาหน้าบ่อยๆ แววตาดูไม่สดใส หูลู่ นั่นคือการบ่องบอกว่าสุนัขกำลังกังวล ไม่สบายใจกับอะไรบางอย่าง และไม่พร้อมที่จะอยู่ในสถาการณ์นั้นๆ อาจนำไปสู่ภาวะโรคซึมเศร้าได้

7.หางตกลู่ตลอดเวลา ข้อนี้น่าจะเข้าใจกันดีคือ การแสดงถึงความหวาดกลัว หวาดระแวง และมักแสดงพฤติกรรมนี้เมื่อถูกดุ แต่จะกลับมาสู่สภาวะปกติได้เมื่อผ่านพ้นสถานการณ์นั้นไปแล้ว กลับกัน หากมันหางตกลู่ตลอดเวลา ก็แปลว่าน้องหมากำลังหวาดกลัว ระแวง ไม่ไว้ใจผู้คน สถานที่ หรือสถานการณ์รอบตัว หากเป็นนานและไม่หายเป็นระยะเริ่มต้นของโรคซึมเศร้าได้

8.ไม่ร่วมกิจกรรม ซึม หงอย ไม่เล่น ไม่ยอมกินอาหาร เรียกก็ไม่มาหา หรือถึงขั้นอาเจียนเป็นฟองสีเหลือง คือเครียดลงกระเพาะ มีกรดนั่นเป็นอาการที่กำลังบ่งบอกว่า สุนัขกำลังเครียดจัดและเศร้าหนัก

9.กัดแทะตัวเองจนเป็นแผล เช่นบริเวณขาหรือเล็บ เป็นอีกข้อที่ผู้เลี้ยงต้องสังเกตให้ดี ว่าอาการนี้ไม่ได้เป็นเพราะน้องหมาคันจากโรคผิวหนัง และเกิดพฤติกรรมการกัดแทะตัวเอง หากแน่ใจว่าไม่ใช่ นั่นแสดงว่ามันกำลังเครียด หรือเบื่อหน่ายสะสมอย่างสุดๆเหวี่ยง เพราะความเปลี่ยนแปลง หรือการรอเจ้าของนานๆ

10.หูตกลู่ไปด้านหลัง ดวงตาไม่สดใส ซึ่งโดยปกติแล้วดวงตาของสุนัขไม่เคยโกหก หากมันป่วยจะแสดงออกได้ทางแววตาทันทีคือ ตาขุ่นมัว ไม่สดใสเป็นประกาย (ไม่นับสุนัขที่มีอาการป่วยทางดวงตา เช่น ต้อกระจก) ให้สงสัยได้เลยว่าน้องหมาของคุณอาจกำลังประสบปัญหาโรคซึมเศร้า

วิธีป้องกันอาการเหงา/ซึมเศร้า

1.ควรหมั่นพาสุนัขออกไปนอกบ้านในบริเวณที่มีธรรมชาติ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย เปลี่ยนบรรยากาศ โดยอาจหากิจกรรมทำร่วมกัน อย่าง การวิ่งเล่น ขี่จักรยานกับสุนัข หรือ ออกกำลังกายด้วยกีฬา เข่น การพาไปทะเล ว่ายน้ำในสระน้ำ การพาขึ้นลู่วิ่งออกกำลังการ เพื่อฝึกสมาธิ

2.การเล่นเกมส์เสริมสร้างภูมิปัญญา หรือ สัญชาตญาณ

3.เปิดเพลงเบาๆ ช้าๆ หรือ เพลงธรรมชาติ เพื่อให้สมองผ่อนคลาย

4.หมั่นให้รางวัลเช่นขนม หรือ ของเล่นที่ชอบ โดยที่คุณต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้นๆ

วิธีรักษาเมื่อสุนัขมีอาการเหงา/ซึมเศร้า

1.ควรพาไปพบจิตแพทย์ ใช่ค่ะอ่านไม่ผิด นั่นก็คือครูฝึกด้านจิตวิทยาสุนัข ซึ่งในต่างประเทศมีเยอะมาก แต่ในบ้านเราก็ต้องหาข้อมูลกันหน่อย

2.การฝั่งเข็มรักษาในต่างประเทศ แต่ในบ้านเรายังไม่เป็นที่ยอมรับ ช่างเศร้าใจนัก

3.Relaxing massage หรือ Aroma therapy การนวดผ่อนคลาย การใช้กลิ่นที่สุนัขชอบ

4.พาไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้

อ่านจบแล้ว อย่าลืมหันไปสำรวจน้องหมาของคุณ หรือ ของเพื่อน ว่าน้องหมามีภาวะโรคซึมเศร้าที่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดหรือไม่ อย่าปล่อยให้สุนัขของคุณต้องอยู่ตัวเดียวตามลำพังนานเกิน 7 ชั่วโมงขึ้นไป หรือไม่ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันเป็นระยะเวลานานจนคุณแทบจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เล่นกับมันคือเมื่อไหร่

การเดินผ่านมันแล้วจับมัน และเดินจากไปนั้นปวดร้าวมาก หากคุณหันกลับไปมองแววตาที่รอคอยคุณเสมอ คอยมองแผ่นหลังของคุณเดินจากไป น้องหมาไม่เคยเรียกร้องอะไร พวกมันคิดว่าพวกมันรอไปเสมอ แต่จิตใจของพวกมันค่อยๆ ป่วยและอ่อนแอลงทุกวัน

ถ้าคุณไม่อยากเสียพวกมันไปตลอดกาล อย่าลืมหันไปใส่ใจดูแล และ ใช้เวลาที่คุณกดมือถือ เล่นกับพวกมันบ้างนะคะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระความรู้ดีที่เรา DooDiDo ได้นำมาฝากให้กับสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักอย่างน้องหมา กับเรื่อง ที่เรานำมาฝากวันนี้กับ สัญญาณว่าสุนัขของคุณกำลังเป็นโรคเหงา ลองสังเกตอาการสุนัขลองสังเกตดูน้า สุนัขสามารถเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นเดียวกับมนุษย์คุณต้องใส่ใจเป็นอย่างยิ่งถ้าหากสุนัขของคุณซ่อนตัวจากคุณ สุนัขที่ซ่อนตัวมักจะบาดเจ็บ เจ็บป่วยหรือซึมเศร้าอย่างไรก็ตาม เมื่อสุนัขมีอาการซึมเศร้าหูตก ให้คุณลองพาน้องหมาไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยายดูนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.baanlaesuan.com