การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาสิวเสี้ยนได้อย่างถาวร

ไขข้อสงสัย ลอกสิวเสี้ยน แล้วรูขุมขนกว้าง สรุปแล้วควรลอกหรือไม่?

เราเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะเคยได้ยินที่ว่าสิวไม่ควรที่จะไปยุ่งหรือบีบมันบ่อยๆ เพราะอาจจะทำให้รูปขุมขนกว้างได้ “สิวเสี้ยน” เจ้าสิวหัวดำเล็กๆ ที่เต็มบริเวณจมูกไปหมด ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจสำหรับสาวๆ ส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ค่ะ ร่องรอยจุดๆ บนใบหน้าต่างๆ อาจจะเป็นตรงจมูก ตามซอกจมูก หรือจะเป็นตรงคาง ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เกิดปัญหานี้เวลาแต่งหน้า ลงรองพื้นหรือจะทาคุชชั่น ยังไงก็คงจะรู้สึกว่าผิวไม่เรียบเนียนเท่าที่ควรใช่มั้ยล่ะค่ะ หรือหลายๆครั้งก็เจอปัญหาคุชชั่น รองพื้น แป้งพัฟตกร่องอีก ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งอาจเกิดจากที่ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงตามโฆษณาไว้ แต่ที่เป็นเรื่องจริงก็คือผิวของเราไม่ดีเลยล่ะค่ะ

จริงๆ จะกำจัดออกไปให้หมดยังไงก็ดีกว่าใช่มั้ยล่ะค่ะ แต่เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะเคยได้ยินที่ว่าสิวไม่ควรที่จะไปยุ่งหรือบีบมันบ่อยๆ เพราะอาจจะทำให้รูปขุมขนกว้างได้ เพราะฉะนั้นหลายๆคนก็ไม่กล้าที่จะบีบหรือลังเลว่าบีบดีมั้ย หรือไม่บีบดีนั่นแหล่ะค่ะ ในวันนี้เราเลยจะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนค่ะว่า เราควรจะไปทางไหนดี ลอกสิวเสี้ยนดีมั้ย หรือไม่ควรลอก มาฝากทุกคนกันค่ะ

ในอดีตมีวิธีกำจัดสิวเสี้ยน โดยใช้ไข่ขาวพอกบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน รอจนแข็งตัวและลอกออก แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นการใช้สารที่มีคุณสมบัติเหมือนกาวผนึกลงบนกระดาษ แล้วนำมาแปะบริเวณจมูกและลอกออก หรือที่เรียกว่าแผ่นลอกสิวเสี้ยน ที่สามารถลอกสิวเสี้ยนออกจากรูขุมขนได้โดยที่ผิวไม่ช้ำและยังช่วยลดผลกระทบจากการบีบสิวเสี้ยนด้วยมือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ ซึ่งหลายคนข้องใจว่า การใช้เจ้าแผ่นลอกสิวเสี้ยนนี้ จะทำให้เกิดปัญหารูขุมขนกว้างหรือไม่ เพราะผู้ใช้หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าหลังใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนแล้ว รู้สึกว่ารูขุมขนกว้างขึ้น แต่ความจริงแล้วแผ่นลอกสิวเสี้ยน ทำให้สิวเสี้ยนและสิ่งสกปรกหลุดออกจากรูขุมขน เมื่อสิวเสี้ยนหลุดออก จึงทำให้เราสามารถเห็นรูขุมขนได้ชัดเจนขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นจากเดิม

และถ้าหลังจากนั้นไม่มีไขมันอุดตันอีก รูขุมขนก็จะกระชับขึ้นเองตามธรรมชาติ คนที่้มีสิวเสี้ยนบริเวณจมูกจึงสามารถใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนได้ โดยไม่ต้องกังวลถึงปัญหารูขุมขนกว้าง แต่การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาสิวเสี้ยนได้อย่างถาวร เพราะสิ่งที่หลุดออกจากรูขุมขน และติดอยู่บนแผ่นลอกสิวเสี้ยนที่เราเห็นกันนั้น คือขนเส้นเล็กๆ และความมันจากผิวหนัง ซึ่งประกอบไปด้วยไขมัน แวกซ์ คอเรสเตอเรล กลีเซอร์ไรด์ และสควอเลนท์ ที่ถูกผลิตขึ้นจากต่อมไขมันที่มีอยู่ทั่วร่างกายของเรา ดังนั้นเมื่อผ่านไปไม่นานหลังใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน ก็จะกลับมาเป็นซ้ำอีก เพราะร่างกายจะคอยผลิตไขมันเพื่อปกป้องผิวตามกลไกธรรมชาติ ดังนั้นส่วนใหญ่แพทย์จึงแนะนำให้ผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี

วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ได้ผล

• ทำความสะอาดผิวเป็นประจำ โดยควรเลือกคลีนเซอร์ทำความสะอาดผิวสูตร Oil-Free และสูตรที่ไม่อุดตันรูขุมขน เพื่อช่วยขจัดความมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันการเกิดการอุดตันในรูขุมขนและลดความเสี่ยงในการเกิดสิวเสี้ยนได้
• ใช้ที่กดสิวเป็นตัวช่วย สามารถกดสิวเสี้ยนให้หลุดออกอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้เล็บสัมผัสกับผิว และควรหลีกเลี่ยงการบีบ เค้น สิวเสี้ยน เพราะอาจทำให้เกิดแผลติดเชื้อและเกิดรอยแผลเป็นได้
• กรด Salicylic ช่วยทำความสะอาดผิว และทำความสะอาดเซลล์ที่ตายไปแล้วให้หลุดลอกออกไป จะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนได้
• หากทำทุกวิธีแล้ว สิวเสี้ยนยังไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ซึ่งสามารถให้คำปรึกษาและพิจารณาหาวิธีการแก้ไขปัญหาสิวเสี้ยนได้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคนมากที่สุด

5 เคล็ดลับ ขจัดความมันบริเวณจมูก ลดสิวเสี้ยน

เคล็ดลับที่ 1 กระดาษซับมัน

เป็นวิธีขจัดความมันบริเวณจมูกที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด สามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลความงามและร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่ไม่ควรซับมันจนหน้าแห้งเกินไป

เคล็ดลับที่ 2 ขจัดความมันด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน

ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์เป็นประจำทุกวัน เช้าและก่อนนอน จะช่วยลดความมันบริเวณใบหน้าและจมูกได้เป็นอย่างดี

เคล็ดลับที่ 3 ทากันแดด

ทาครีมกันแดดทั่วใบหน้าและลำคอ นอกจากจะช่วยปกป้องผิวเมื่อโดนแสงแดดแล้ว ยังช่วยไม่ให้หน้ามันง่ายด้วย

เคล็ดลับที่ 4 ใช้คลีนเซอร์แบบมีสครับขัดผิว

เพื่อช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และขัดผิวบริเวณจมูกจะช่วยป้องกันรูขุมขนไม่ให้หน้ามัน แต่ควรขัดไม่เกินสัปดาห์ละ 1-2ครั้ง เพราะถ้าขัดมากเกินไป ผิวอาจจะได้รับความเสียหายไป

เคล็ดลับที่ 5 มาส์กหน้า

การมาส์กหน้าจะช่วยลดปัญหาหน้ามัน และทำให้จมูกมันน้อยลงด้วย

อย่างไรก็ตามสิวเสี้ยนนั้นไม่ได้สามารถกำจัดได้ง่ายๆ ด้วยวิธีธรรมชาติเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นแล้ว DooDiDo ขอแนะนำว่าหากใครเลือกที่จะรักษาปัญหาสิวเสี้ยนอันน่าปวดหัวเหล่านี้แล้ว ก็อาจจะต้องใช้ความอดทนและมีวินัยในการดูแลผิวหน้าซักนิดนึง และนั่นก็รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเองด้วย แต่ถ้าหากว่าใครที่รู้สึกว่าอยากให้เห็นผลลัพธ์เร็วๆ แล้วล่ะก็อย่างไรก็ต้องเตรียมเงินไว้แล้วปรึกษาคลินิกดีๆ ซักแห่งที่ช่วยแก้ปัญหาก็จะเป็นทางออกที่เร็วที่สุดแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.lovelyeyeclinic.com