การหาตลาดพืชเกษตรด้วยตัวเองไม่ง้อพ่อค้าคนกลาง

WM

ภาพโดย ElasticComputeFarm จาก Pixabay

มือใหม่หาตลาดพืชเกษตรด้วยตัวเองไม่ง้อพ่อค้าคนกลาง

สำหรับมือใหม่การหาตลาดพืชเกษตรมารองรับเพื่อต่อยอดธุรกิจของตนเองสู่มืออาชีพ ซึ่งแน่นอนว่าในปัจจุบันนั้นก็มีชาวเกษตรกรมือใหม่นั้นเข้ามาอย่างมากมายและต้องการจะหาช่องทางในการขายสินค้าของตัวเอง และตลาด คือ สิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะการปลูกพืชเกษตรเพื่อรับประทานในครอบครัวแล้ว การขาย ถือว่าเป็นอีกประเดน ที่ส่งเสริมให้มีรายได้ใน ครอบครัว แล้วเราจะหาตลาดพืชเกษตรด้วยตัวเอง ได้อย่างไร วันนี้เรามีขั้นตอนแบบง่าย ๆ มานำเสนอให้คุณ

WM
ภาพโดย congerdesign จาก Pixabay

1.เดินเที่ยวตลาดใกล้บ้านเพื่อสำรวจตลาด

สาเหตุ หลัก ๆ ที่เราต้องเดินสำรวจตลาดท้องถิ่น หรือบริเวณใกล้บ้าน นั้นเพราะแต่ละที่ มีความต้องการที่ แตกต่างกันออกไป และการต้องการใช้ พืชผลทางการเกษตร ในแต่ละช่วงเวลาก็แต่ต่างกัน  อย่างเช่น ในช่วงเทศกาลกินเจจะมีความต้องการผักค่อนข้างสูง เป็นต้น เราต้องสังเกตุว่าผักอะไรขาด หรือมีราคาสูง ราคาต่ำ แล้วนำสิ่งที่ได้จากการสำรวจตลาด มาศึกษาความเป็นไปได้ในการเพาะปลูก

การสำรวจนั้นรวมไปถึงการเดิน สำรวจตลาดในห้าง เช่น  โลตัส บิ๊กซี แม็กโคร ฯลฯ เพราะห้างเหล่านี้เปิดรับซื้อด้วยเช่นกัน แต่อาจอยู่ในรูปแบบ เกษตรแปลงใหญ่ และเราต้องสำรวจไปถึง  แพ็กเก็จ ตัวผลิตภัณฑ์ เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการ ตัดสินใจซื้อของกลุ่มผู้บริโภค โดยแพ็กเก็จ อาจมีการปรับเปลี่ยนในภายหลังได้

2.เตรียมสินค้าและผลิตภัณฑ์

ในการปลูกพืชผลทางการเกษตร คุณต้องฝึกฝนอาจใช้เวลา 1-2 เดือน หรืออาจมากกว่านั้น ควบคู่ไปกับการศึกษารอบด้านเกี่ยวกับสิ่งที่ปลูก เช่น ธรรมชาติของผักที่จะปลูก ชอบน้ำ ดินและอากาศแบบไหน ศัตรูพืชและแมลงมีอะไรบ้าง ถ้าต้องปลูกส่งขาย จะต้องมีการวางแผนอย่างไร ทำซ้ำ ๆ ทั้งนี้ คุณอาจปลูก 2-3 อย่าง เพื่อเป็นเกษตรผสมผสาน และเผื่อราคา สิค้าตัวใ ตัวหนึ่งไม่ดี สิ่งที่คุณทำเหล่านี้จะทำให้คุณเป็นที่หนึ่งในอาชีพ

3.ตั้งชื่อสินค้าของคุณให้ดี

ในการทำธุรกิจ สิ่งสำคัญ คือ คุณต้องมีชื่อสินค้าเป็นของตัวเอง ในการตั้งชื่อ สินค้าของคุณ อย่างน้อยต้องขึ้นต้น หรือลงท้าย ด้วย ชื่อที่เกี่ยวข้องกับคุณ เช่น ฟาร์ม ไร่ และ ชื่อต้องสื่อ ถึงความหมาย ให้สอดคล้องกับสิ่งที่แสดงถึงตัวตนของเรา เพื่อให้คนจำได้ครับ

4.ตั้งเป้าหมายที่คุณต้องการ

เราต้องมีเป้าหมายว่า เราจะปลูกพืชนี้สำหรับ กลุ่มไหน จำหน่ายอย่างไร  จะขายเองแผงผักในตลาดสด หรือผ่านพ่อค้าคนกลาง หรือจะเลือกส่งตามร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวต้ม ร้านเนื้อย่างหมูกระทะ หรือไม่นำเสนอศูนย์กระจายสินค้าประจำภาค ของ โลตัส บิ๊กซี เป็นต้น โดยการติดต่อผ่านฝ่ายรับสินค้า

5.พกพาความมั่นใจ

การนำเสนอขายสินค้า คุณจะต้องมั่นใจใน ในตัวสินค้าของคุณเอง กล้าที่จะนำเสนอ ในสิ่งที่ลงมือทำ เพราะจุดสำคัญ ในการทำธุรกิจ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญ คือ “การขาย” เราต้องนำเสนอ ในจุดเด่นที่สินค้าเรามี อย่างเช่น ผักปลอดสารพิษ คือ พืชผลที่ได้จากการเพาะปลูกตามฟาร์มปกติ แต่ชาวสวนชาวไร่จะไม่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา หรือสารเคมีอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค เป็นต้น

6.นำเสนอสินค้าอย่างมืออาชีพ

การนำเสนอสินค้าของเรา เราต้องบอกถึง รายละเอียดต่าง ๆ ว่าเราทำอะไร ปลูกอะไร จะส่งให้ราคาไหน ส่งได้วันละเท่าไร ซึ่งราคาที่นำเสนอกันครั้งแรก เราอาจจะอ้างอิงจาก ราคาตลาดกลางก่อนก็ได้แล้ว ค่อย ต่อรอง ปรับลดตามความเหมาะสม ในแต่ละด้านไป อย่างเช่น เรื่องของค่าขนส่ง จำนวนที่ต้องการ

หรืออาจจะใช้วิธีการดั่งเดิมในการค้าขายก่อนก็ได้งนั้น คือการฝากขาย ตามร้านค้าใกล้บ้าน หรือในตลาดโดยตกลงในด้านส่วนแบ่งกับผู้ขายให้ชัดเจน ว่าเราสามารถแบ่งให้เขาได้เท่าไหร่ เขารับได้หรือไม่ และสอบถามว่าเขาต้องการอย่างอื่นหรือไม่ ในสิ่งที่เรามี เพื่อเป็นการเปิดตลาดในสิ่งที่เรามีอยู่ แต่เขาขาด และมีความต้องการ ที่สำคัญในการทำเรื่องนี้คือ “ห้ามผิดนัดเด็ดขาด”

หรือบางท่านอาจใช้การตลาดออนไลน์  Facebook , Line เข้ามาช่วยในการขายสินค้าภายในพื้นที่ของตนเอง เช่น บริการสั่งผักที่ต้องการ ล่วงหน้า การรับออร์เดอร์เพื่อจัดส่ง ในพื้นที่ไม่เกินกี่กิโลเมตรจากส่วน หรือ บริการส่งผ่าน ผุ้ให้บริการ รับส่งสินค้าในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อขยายตลาด ทางการค้า

ปัจจุบันนี้การซื้อขายออนไลน์กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมาก  เพราะผู้บริโภค ก็ต้องการความสะดวกสบาย ทั้งนี้เพราะการเข้าถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟน ที่เป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการซื้อขายออนไลน์สามารถทำได้ง่ายขึ้น จากการสำรวจ พบว่าประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 57 ล้านคน มีผู้ใช้มือถือประมาณ 55.56 ล้านเครื่อง และมีผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียผ่านสมาร์ทโฟนประมาณ 46 ล้านเครื่อง ซึ่งกิจกรรมหนึ่งที่เติบโตคู่กันก็คือการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่สินค้าเกษตร

7.พกนามบัตรให้ติดเป็นนิสัย

ในการติดต่อในรูปแบบธุรกิจ เพื่อจัดส่งพืชผลทางการเกษตร ในกลุ่มห้าง หรือศูนย์กระจายสินค้า นามบัตร ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพื่อให้เขาสามารถติดต่อกลับได้ครับ ใส่ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร ปลูกอะไร ขายอะไร ถ้าคุณมี Faneface ใน facebook ก็ให้ใส่ QR-Code สำหรับส่องไปโลดครับ เพื่อให้เขาเห็นสิ่งที่คุณทำ สะดวกดี เพราะนามบัตรจะเป็นเครื่องนำทางให้ในผู้คนสามารถติดต่อกลับมาหาเราได้ครับ อ้อ แล้วอย่าลืมขอนามบัตรเขาไว้ด้วยนะครับ เผื่อเราจะติดต่อเขาไปอีกครั้ง กรณีเราสามารถ ปลูกในสิ่งที่เขาต้องการได้

เกษตร และ บทวิเคราะห์ เทคโนโลยีทางการเกษตร ตลาดขายพืชผลทางการเกษตร ผลกระทบทางการเกษตร งบประมาณและนโยบายรัฐเพื่อการเกษตร และการส่งออกพืชผลทางการเกษตร ที่ได้รับความสนใจ ติดตามได้ที่ doodido

ที่มา : smaesclub.com