“การมาส์กหน้า” เป็นการดูแลผิวหน้าที่ทำได้ทุกวันสะดวก และง่าย!!

หากสาวๆ ใช้แผ่นมาส์กหน้าไม่ถูกวิธี ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้แผ่นมาส์กลดลง

หลังจากที่มีแพทย์ออกมาให้คำตอบเรียบร้อยแล้วว่าการมาร์กหน้าทุกๆ วันนั้นสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องเป็นมาร์กที่ให้ความชุ่มชื้นเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ทุกวันค่ะ ถ้าหากเป็นมาร์กที่ช่วยในเรื่องของปัญหาผิวอื่นๆ อย่างลดจุดด่างดำหรือเพิ่มความกระจ่างใจนั้นจะสามารถมาร์กได้เพียงวันละ 2-3 ครั้ง เพราะสารบำรุงเหล่านั้นจะทำหน้าผิวเราบางลงได้ แต่สำหรับ Sleeping Mask แล้วนั้นสามารถใช้ได้ทุกวันเลยค่ะ ด้วยเหตุนี้แล้วจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้วงการมาร์กหน้าแมสสุดๆเลยก็ว่าได้(จะสังเกตได้ว่าจะมี Sheet Mask ที่มีลวดลายแปลกๆออกมาวางขายด้วย)

อย่างไรก็ตามสาวๆ สมัยนี้ถือว่าโชคดีมากเลยนะคะ ที่มีวิวัฒนาการด้านการบำรุงผิวหน้าที่สะดวกและง่ายดายมากขึ้น อย่างการมาส์กหน้าที่แค่ฉีกซองและเอาแผ่นมาส์กมาทาบบนหน้า ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีขึ้นไป หน้าก็จะรู้สึกชุ่มชื่นได้รับการบำรุงเหมือนได้เข้าคอร์สนวดหน้าทำสปามาแล้ว ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าคลีนิคจ่ายเงินแพงๆ เลยด้วย แต่แม้ว่าการมาส์กหน้าจะเป็นการดูแลหน้าที่ลงทุนน้อยกว่าการเข้าคอร์สก็ตาม แต่ถ้าเราใช้แผ่นมาส์กหน้าไม่ถูกวิธีแล้วเราก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้แผ่นมาส์กลดลง รู้สึกไม่ได้ผลไม่คุ้มค่ากับราคามากที่เสียไปอยู่ดี ดังนั้นแล้วเราควรจะใช้ให้ถูกวิธี และมีอะไรที่ไม่ควรทำบ้างลองมาดูกันเลยค่ะ

#เลือกมาส์กที่ไม่ตรงกับสภาพผิว

แผ่นมาส์กหน้าที่มีขายอยู่ในตามท้องตลาดนั้น มีให้เลือกมากมายหลายสูตรคุณสมบัติก็แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเน้นในเรื่องของการทำให้หน้าขาวกระจ่างใส ให้ความชุ่มชื้น ลดขนาดรูขุมขน ลดรอยสิว รอยด่างดำซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน กับคนที่มีผิวบอบบางและการที่ใช้มาส์กที่มีกรดผลไม้มาก อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้าเอาได้ หรือสำหรับคนที่หน้ามัน บางครั้งการใช้มาส์กที่เพิ่มความชุ่มชื่นมาก อาจจะทำให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวได้ด้วย

ดังนั้นแล้วก่อนที่จะซื้อมาส์กมาใช้กับหน้า ให้สำรวจว่าใช้กับหน้าประเภทไหน มีส่วนผสมอะไรที่คุณอาจจะแพ้ด้วยหรือเปล่า เพื่อที่ใบหน้าจะได้ไม่มีปัญหาจากการมาส์กหน้าในภายหลังเอาค่ะ

#แช่มาส์กไว้ในตู้เย็น

หลายๆ คนอาจจะชอบหากได้ใช้มาส์กเย็นๆ แปะลงบนหน้า ทำให้รู้สึกสดชื่นสบายหน้าดี แต่จริงๆ แล้วการใช้มาส์กควรใช้ตามอุณหภูมิห้องดีกว่าค่ะ เพราะแผ่นมาส์กที่เย็นจะทำให้รูขุมขนปิด ทำให้ผิวดูดซึมเอสเซนส์เข้าไปได้น้อยกว่าในอุณหภูมิปกตินะคะ ถ้าอยากได้ความเย็นให้ใช้น้ำแข็งลูบหน้าปิดท้ายหลังจากการมาส์ก ก่อนที่จะไปล้างหน้าดีกว่าค่ะ

#ทิ้งมาส์กเอาไว้เกินเวลา

สาวๆ อาจคิดว่าการใช้มาส์กที่คุ้มค่าที่สุด คือการที่ใช้มาส์กหน้าไปจนกว่าแผ่นจะแห้งระเหยไปจนหมดใช่ไหมล่ะคะ แต่แท้ที่จริงแล้วมาส์กแต่ละแผ่นจะมีช่วงเวลาทองสำหรับการใช้อยู่ ตามวิธีใช้แล้วก็แนะนำให้ใช้ 15-20 นาทีเท่านั้น เพราะผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่าการใช้แผ่นมาร์คทิ้งไว้จนแห้ง แทนที่ผิวจะได้รับความชุ่มชื้นจะกลายเป็นเกิดกระบวนการ osmosis ดึงความชุ่มชื่นกลับจากผิวหน้าของเราแทน กลับกลายเป็นว่าใช้มาส์กไปก็เสียเปล่าแทนเอานา รู้แล้วเลิกทำด่วน

#เก็บไว้ใช้ซ้ำ

น่าจะเคยมีคนที่รู้สึกว่าเสียดายที่ใช้มาส์กแนบกับหน้าไปเพียง 15-20 นาทีแต่ว่าก็ต้องทิ้งแล้ว ทั้งที่ยังมีน้ำ essence เหลืออยู่ในซองตั้งเยอะ จึงเก็บแผ่นมาส์กเอาไว้ใช้ต่อในครั้งหน้าอีกสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกหน่า แต่โนว อย่าทำแบบนั้นเลยค่ะ มาส์กเนี่ยเค้าทำมาเหมาะไว้ใช้เพียงครั้งเดียวนะ พอเปิดซองใช้แล้วประสิทธิภาพก็จะลดลงแล้วล่ะค่ะ แถมยังไม่สะอาดเหมือนตอนเปิดใช้แล้วด้วยอีก มีแต่ความเสี่ยงทำให้หน้าเสียมากกว่า หากเสียดายน้ำ essence จริงๆ สามารถนำมาทาคอ ทาตัว ทาแก้ข้อศอกหรือเข่าด้านแทนได้ค่ะ

#มาส์กแล้วก็ไม่บำรุงต่อ

แม้ว่าการมาส์กหน้าจะเป็นการบำรุงหน้าที่ดีมากแล้วก็ตาม ถึงละเลยไม่ทำการบำรุงหน้าหลังจากที่มาส์กหน้าไปแล้ว แต่การมาส์กหน้าเป็นการบำรุงผิวหน้าโดยรวมอย่างเดียว หากแต่ว่าถ้าคุณมีปัญหาผิวเฉพาะด้านอื่นๆ เช่น การมีสิว ฝ้าและริ้วรอย หรือจุดด่างดำ ที่ต้องใช้สกินแคร์แก้ไขเพิ่มเติมเฉพาะส่วน ก็ให้บำรุงหลังจากที่มาส์กหน้าด้วย ยกเว้นว่าคุณจะไม่มีปัญหาอะไรและมาส์กบางชนิดก็สามารถที่จะทิ้งไว้ได้ โดยไม่ต้องล้างหน้าและทาครีมเพิ่มด้วย

#ไม่ทำหน้าให้สะอาดก่อนการมาส์ก

บางคนอาจจะมักง่ายได้มาส์กมาก็เปิดใช้เลย ไม่ได้คิดว่าจะต้องทำความสะอาดใบหน้าเสียก่อน เพราะอย่างไรแล้วเราก็ต้องล้างหน้าหลังจากที่มาส์กหน้าเสร็จอยู่ดี แต่จริงๆ แล้ว ใบหน้าที่สกปรกนั้น จะเต็มไปด้วยฝุ่นละออง เหงื่อไคล ความมันบนใบหน้า ที่จะทำให้เกิดการขัดขวาง และทำให้สิ่งสกปรกดูดซับเข้าไปในใบหน้า เกิดการอุดตันและอาจทำให้เกิดสิว และเอสเซ้นส์จะซึมซาบเข้าผิวหน้าได้ไม่ดีเท่าที่ควรอีก ดังนั้นแล้วอย่าได้ละเลยการล้างหน้าให้สะอาดพร้อมก่อนการมาส์กหน้าทุกครั้งนะคะ

หากสาวๆ รู้อย่างนี้แล้ว DooDiDo แนะนำว่าทุกคนก็อย่าลืมเปลี่ยนความเชื่อผิดๆ ในการมาร์กหน้าทันทีเลยนะคะ เพราะถึงแม้ว่าการมาร์กหน้าจะเป็นการลงทุนด้านความงามที่ประหยัดกว่าการไปคลินิกเสริมความงามและสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าก็จริง แต่ถ้าหากเราเข้าวงการมาร์กหน้ามาอย่างเต็มรูปแบบแล้วล่ะก็ เงินที่ต้องเสียไปกับค่าแผ่นมาร์กแต่ล่ะแผ่นโดยรวมๆ แล้วก็คงแทบจะไม่ต่างกับการเข้าคลินิกซักเท่าไหร่ แล้วยิ่งถ้าหากทุกคนยังคงมาร์กหน้าอย่างผิดๆ แล้วล่ะก็คงไม่ต่างอะไรจากเอาเงินไปทิ้งเล่นๆ เลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://sudsapda.com , https://today.line.me