Windows 12 และสงครามชิป AI ที่กำลังจะมาถึง
Windows 12 กับข่าวลือที่ว่าอาจจะเปิดตัวในปี 2024 โดย Microsoft ไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธข้อมูลนี้ แต่ David Zinsner ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Intel ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในการประชุม Global Technology Conference ของ Citigroup ในเดือนกันยายน
Zinsner กล่าวว่าเขาคาดว่า Windows 12 อาจจะเปิดตัวในปี 2024 และมีผลกระทบในการเพิ่มยอดขายของ PC และโปรเซสเซอร์ใหม่ เขายังกล่าวถึงการ “รีเฟรช” ของระบบ Windows ที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของระบบปฏิบัติการทำให้มีความเชื่อว่าปีหน้าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับลูกค้า
ความหมายของ “รีเฟรช” นั้นยังไม่ชัดเจนว่าเป็นหมายถึง Windows 12 หรือไม่ แต่นักวิเคราะห์รับรองว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงหรืออัปเดตของระบบปฏิบัติการ
ทั้งนี้ข้อความยังกล่าวถึงความสำคัญของการรีเฟรช Windows ในปีหน้าเพื่อให้รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และนำเสนอความสามารถของ Copilot สำหรับ Windows ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์
GenAI บนเดสก์ท็อป Windows 12
การเติบโตของเครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์ เช่น ChatGPT และ Google Bard รวมถึงโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่รองรับเครื่องมือเหล่านี้
ได้ทำให้เซิร์ฟเวอร์ฟาร์มที่มี GPU นับพันตัวมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ในภาพรวมขององค์กรและอุตสาหกรรมทั่วไป ซึ่งกำลังสร้างความสนใจในการนำ GenAI มาใช้งานบนเดสก์ท็อป
การนำ AI มาใช้บนเครื่องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมีความสามารถในการเตรียมพร้อมใช้งานหลายประการหลายรูปแบบ แต่คำถามคือ สามารถทำอะไรได้บ้าง?
เริ่มต้นด้วยการที่ AI บนไคลเอนต์จะมีลักษณะการอนุมาน ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการฝึกอบรมเช่นเดียวกับการฝึก ChatGPT หรือ Google Bard ที่เน้นการฝึกอบรมเป็นหลัก การอนุมานนั้นเพียงแค่การจับคู่และใช้ทรัพยากรน้อยกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม การใช้ AI บนเดสก์ท็อปก็ยังต้องพิจารณาถึงปัจจัยความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว หลายองค์กรกล่าวถึงความไม่สบายใจในการใช้ระบบคลาวด์สาธารณะหรือแชร์ข้อมูลบนระบบคลาวด์ เช่น ChatGPT
อธิปไตยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวบน Windows 12
“สิ่งที่ฉันได้ยินกลับมาอย่างต่อเนื่องจาก CIO และ CSO คืออธิปไตยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัว พวกเขาต้องการโมเดลที่ทำงานในพื้นที่” ตามที่ Bajarin กล่าว
เขาเสริมว่าการฝึกอบรม AI มีค่าใช้จ่ายสูง ไม่ว่าจะในระบบคลาวด์หรือในองค์กร การอนุมานอาจไม่ต้องใช้พลังมากนัก แต่ก็ยังใช้ทรัพยากรมากในมาตรฐานที่กว้างขวาง
เมื่อโมเดลมีประสิทธิภาพและการประมวลผลดีขึ้น การใช้งาน AI ภายในเครื่องก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากการใช้งานบนฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องนั้นถูกกว่าการใช้งานบนระบบคลาวด์
ดังนั้น ความต้องการในการประมวลผล AI ในพื้นที่ขององค์กรก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นมากขึ้น โดยความปลอดภัยและความต้องการที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงผลักดันให้ GenAI ทำงานบนเดสก์ท็อปมีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน
การพัฒนาชิปบน CPU Windows 12
ช่วงเวลานี้ในวงการชิปได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้ง Intel และ AMD กำลังพัฒนาการประมวลผลทางด้าน AI บน CPU ซึ่งเป็นกระบวนการที่ได้รับความสนใจมากทั้งสองค่าย
อย่างไรก็ตาม มีการแข่งขันที่มีสีสันมากขึ้นเมื่อ Qualcomm เข้ามาเป็นผู้นำในสายการแข่งขันใหม่นี้ ซึ่งได้ซื้อกิจการ Nuvia ในปี 2564 ด้วยมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์
และกำลังเตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวชิปเดสก์ท็อปในชื่อ Snapdragon X Elite เพื่อท้าทายทั้ง Intel และ AMD ในตลาดนี้
นักวิเคราะห์ Bajarin ได้ทำข้อสังเกตว่าโปรเซสเซอร์ Qualcomm AI สามารถดำเนินการ 45 AI TOPS (ล้านล้านการดำเนินการต่อวินาที) และมี CPU ที่สามารถทำได้ถึง 75 TOPS
ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่ง เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ล่าสุดของ Intel [วิธีเพิ่มความเร็วสำหรับ Windows 10] ที่สามารถจัดการได้เพียง 10 TOPS และ AMD ที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูล
“ส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับ AI คือ NPU (หน่วยประมวลผลประสาท) ของ Qualcomm นั้นมีความสามารถมากกว่าทุกอย่างที่ Intel หรือ AMD จะนำออกสู่ตลาดในปีหน้า” ความคิดเห็นนี้ย้ำความเข้มงวดของ Qualcomm ในด้านนวัตกรรม AI
และไม่เพียงเท่านี้เท่านั้น Reuters รายงานว่า Nvidia กำลังพยายามที่จะพัฒนาโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปของตนโดยใช้สถาปัตยกรรม Arm ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เนื่องจาก Nvidia จะใช้เวลาไม่นานในการปรับเปลี่ยนโปรเซสเซอร์สำหรับเดสก์ท็อป
การแข่งขันในด้าน AI
ไม่เพียง Nvidia เท่านั้นที่มีการแข่งขันในสนามนี้ แม้ Microsoft ก็กำลังให้การสนับสนุน Arm ทั้งบนเซิร์ฟเวอร์และเดสก์ท็อปทำให้การแข่งขันด้าน AI ขยับไปยังไคลเอนต์และจุดสิ้นสุดอื่น ๆ ด้วยการผสมผสานระหว่าง Intel และ AMD กับ Qualcomm และ Nvidia
ด้วยทางเลือกที่หลากหลายในระบบเดสก์ท็อปฝ่ายไอทีจะต้องตัดสินใจว่าความสามารถและประสิทธิภาพของชิปที่เลือกนั้น ๆ มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความต้องการของแต่ละบุคคล
Google ก้าวทัน GenAI ในโลกการค้าปลีก
Google ประกาศล่าสุดที่งานประชุมสหพันธ์การค้าปลีกเป็นการโฆษณาเทคโนโลยี Generative AI (genAI) ที่เน้นทางการค้าปลีก ด้วยแชทบอทและผู้ช่วยคงคลังอัจฉริยะ ทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการด้วยประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่น่าทึ่ง
นอกจากนี้ Google ยังเปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) สำหรับ Vertex AI Search เวอร์ชันขายปลีกเพื่อให้ค้าปลีกสร้างคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีนี้ธุรกิจสามารถปรับปรุงการบริหารสต็อกและบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ Google ยังเตรียมที่จะพัฒนา genAI ในโลกการค้าปลีกอย่างต่อเนื่องให้โอกาสให้ธุรกิจทุกขนาดนำเทคโนโลยีนี้เข้าสู่ประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ทันสมัย
บทสรุป
Windows 12 อาจเปิดตัวในปี 2024 โดยยังไม่ได้รับการยืนยันจาก Microsoft แต่มีการพูดถึงการ “รีเฟรช” ที่เร่งปฏิกิริยาของระบบปฏิบัติการ GenAI เช่น ChatGPT กำลังเติบโตและน่าสนใจในการนำมาใช้งานบนเดสก์ท็อป
การใช้ AI บนเดสก์ท็อปต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ชิป CPU ทาง AI ในอุตสาหกรรมดีขึ้น Qualcomm มีความสามารถทาง AI มากกว่า Intel และ AMD
การแข่งขันในด้าน AI มี Nvidia และ Microsoft ที่พัฒนาโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป และ Google ก้าวทันด้วยเทคโนโลยี GenAI ที่เน้นการค้าปลีก ทิศทางของอุตสาหกรรมไอทีและการใช้งานผู้ใช้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากการแข่งขันนี้
ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : computerworld.com
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ : doodido คอมพิวเตอร์น่าเล่นปี 2024
