5 ผลเสียจากการเลี้ยงลูกในห้องแอร์ทั้งวัน ที่พ่อแม่ควรต้องระวัง!!

การเลี้ยงลูกในห้องแอร์ทั้งวันจะมีผลกระทบอะไรกับลูกน้อยบ้าง?

สภาพอากาศของประเทศไทยเราส่วนมากมีอากาศร้อน เวลาที่ร้อนนั้นลูกน้อยหลายบ้านก็มักจะมีอาการงอแง เนื่องจากความไม่สบายตัว ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านจึงเลือกที่จะเลี้ยงลูกในห้องแอร์ เพื่อให้ลูกไม่ต้องเจอกับอากาศที่ร้อนจนทำให้ไม่สาบตัว ซึ่งการเลี้ยงลูกในห้องแอร์นั้น อาจจส่งผลเสียต่อลูกน้อยโดยที่คุณพ่อคุรแม่อาจไม่รู้มาก่อน วันนี้เราเลยจะพามาดูผลเสียจากการเลี้ยงลูกในห้องแอร์ทั้งวัน ที่พ่อแม่ต้องระวังมาฝากค่ะ

คงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่และอีกหลาย ๆ คนปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าร้อนในประเทศไทยนี่ร้อนถึงร้อนมาก ครอบครัวไหนที่มีลูกน้อย คงต้องปวดหัวไปตาม ๆ กัน ในความงอแงของลูกเพราะไม่สบายตัว จึงหาทางออกกันด้วยการเลี้ยงลูกในห้องแอร์ทั้งวัน แต่…จะมีผลกระทบอะไรกับลูกน้อยบ้าง? อันตรายหรือไม่? วันนี้ผู้เขียนมีข้อมูลมาฝากค่ะ

ผลเสียจากการเลี้ยงลูกในห้องแอร์ทั้งวัน

1.ผิวแห้ง
ผิวลูกจะเป็นขุยหรืออาจการลอกเป็นแผ่น มีอาการคัน หากคันมากๆ ลูกที่ยังแบเบาะอยู่อาจจะร้องไห้งอแง ไม่ยอมนอน ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเหนื่อยเพิ่มไปอีก

2.ดวงตามีปัญหา
อาจทำให้เกิดคัน หรือระคายเคืองได้ เพราะแอร์จะดูดเอาความชื้นในอากาศไปหมด ทำให้อากาศแห้ง ในบางรายอาจเกิดอาการตาแดงได้

3.ปวดหัว
เพราะหลอดเลือดในร่างกายมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรง ส่งผลให้ลูกมีอาการปวดหัว หรืออาจถึงขั้นเป็นไมเกรนได้

4.เป็นโรคระบบทางเดินหายใจหรือโรคภูมิแพ้
ถ้าตัวกรองแอร์ไม่สะอาด หรือหากไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้ลูกเป็นโรคหอบหืด หรือเป็นโรคภูมิแพ้ได้ โดยจะแสดงอากาก็ต่อเมื่อลูกอยู่ในห้องที่แอร์ที่มีอุณหภูมิต่ำ ๆ

5.ตัวการก่อให้เกิดโรค
หากแอร์ไม่ได้มีการล้างเป็นเวลานานหรืออย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้แอร์กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ อาทิ เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่าง ๆ ทำให้ลูกเจ็บป่วยบ่อย เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หรือ โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

เลี้ยงลูกในห้องแอร์อย่างไรให้ปลอดภัย

1.ไม่ตั้งอุณหภูมิแอร์ไม่เย็นเกินไป
หลายครอบครัวพอเห็นอากาศร้อนก็เร่งเปิดแอร์ให้เย็น กดอุณหภูมิให้ต่ำ ๆ จะได้เย็นฉ่ำชื่นใจ แต่…อุณหภูมิที่กำลังดีและพอเหมาะอยู่ที่ 25-27 องศาเซลเซียสก็พอแล้วค่ะ ข้อดีที่จะไม่เย็นเกินไปแล้ว ยังเป็นการช่วยคุณพ่อคุณแม่ประหยัดเงินอีกด้วยนะคะ

2.ไม่เปิดแอร์จ่อไปที่ลูก
คุณแม่สามารถใช้ระบบสวิงได้ค่ะ นอกจากนี้คุณแม่ควรห่มผ้าให้ลูกบริเวณหน้าอก ท้อง และข้อต่อ เพื่อให้ความเย็นกระจายไปถูกส่วนอื่นของร่างกาย

3.หากอาบน้ำเสร็จ ไม่ควาพาลูกเข้าห้องแอร์ทันที
หากบางครอบครัวสระผมให้ลูกตอนกลางคืนควรเป่าให้หมาดหรือแห้งได้ยิ่งดีก่อนเข้าห้องแอรนะคะ รวมถึงไม่ควรให้ลูกเข้าออกระหว่างห้องแอร์กับอากาศภายนอกบ่อย ๆ เพราะร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน ลูกอาจไม่สบายได้

4.เลือกแอร์ที่มีระบบฟอกอากาศ
คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีระบบฟอกอากาศ หรือมีที่กรองอากาศประสิทธิภาพสูง เพื่อเป็นตัวช่วยในการลดฝุ่นละอองในอากาศ อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้และช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไปจนถึงเชื้อไวรัสในอากาศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องเจ็บป่วยของลูกได้ค่ะ

5.ควรล้างแอร์และแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ
อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และควรให้ลูกได้ออกไปสัมผัสกับอากาศภายนอก สัมผัสกับธรรมชาติบ้าง ยิ่งถ้าให้ลูกได้วิ่งออกกำลังกายก็จะดีมากเลยค่ะ

6.ห่มผ้า
ถึงแม้เปิดอากาศข้างนอกจะร้อนอย่างไร อย่าลืมว่าห้องเราเปิดแอร์ อากาศก็จะเย็นขึ้นอยู่แล้ว ดังนั้น การทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้เย็นจนเกินไปยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่นะคะ อาจใช้เป็นผ้าห่มที่บางลงมาหน่อยก็ได้ค่ะ ไม่ห่มเลย…ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ

7.ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ลูกอยู่ในห้องแอร์บ่อย ๆ หรือเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้ลูกผิวแห้งได้ ดังนั้น การดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอ และบำรุงผิวด้วยโลชั่นสำหรับเด็กจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ร่างกายทั้งภายในและภายนอก

8.ไม่ควรใส่เสื้อผ้าให้ลูกหนาเกินไป
บางครอบครัวเปิดแอร์ให้ลูกเพราะกลัวลูกร้อน พอแอร์เริ่มเย็นก็กลัวลูกหนาวจึงใส่เสื้อผ้าให้ลูกในแบบที่หนาเกินไป มีความไม่มั่นใจว่าเมื่อ “ลูกนอนห้องแอร์ควรใส่เสื้อผ้าแบบไหน” ทำให้ลูกร้อน ซึ่งผ้าที่เหมาะสมคือ ผ้าฝ้ายที่ระบายอากาศได้ดีก็พอแล้วค่ะ

การเลี้ยงลูกในห้องแอร์นั้นอาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้ค่ะ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็อย่าลืมนำวิธีเลี้ยงลูกในห้องแอร์อย่างไรให้ปลอดภัยตามที่ DooDiDo ได้นำมาฝากนะคะ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกต้องเสี่ยงกับอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่มาจากห้องแอร์ได้ค่ะ อย่าลืมดูแลทำความสะอาดแอร์ โดยการล้างแอร์อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งกันด้วยนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://momandbaby.net