แบมแบม GOT7 ผู้ทำตามฝันด้วยความสามารถ

แบมแบม 2

ถือเป็นคนไทยอีกคนหนึ่งที่ไปสร้างชื่อเสียงในเกาหลีใต้ในฐานะไอดอล แบมแบม กันต์พิมุกต์ หรือ แบมแบมGOT7 ที่แม้จะต้องเอาชนะดราม่าอยู่บ่อยๆ แต่ผู้ชายคนนี้ เขาไม่ละทิ้งความพยายาม จนก้าวมาเป็นดาราดังคนหนึ่ง จนมาถึงจุดนี้ เรื่องราวชีวิตของเขาเป็นอย่างไร

ประวัติของ แบมแบม

แบมแบม กันต์พิมุข ภูวกุล เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2540 เป็นบุตรชายคนที่สามจากพี่น้อง 4 คน พี่ชาย 2 คน และน้องสาว 1 คน เมื่อตอนเป็นเด็ก แบมแบมเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมที่โรงเรียน ปราโมชวิทยา รามอินทรา ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเดินทางไปเกาหลีใต้และสำเร็จการศึกษานอกระบบ เมื่อปลายปี 2562 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.24

แบมแบมสูญเสียพ่อไปตั้งแต่เขาอายุเพียง 3 ขวบ เขาจึงเติบโตขึ้นมาโดยมีเพียงแม่เท่านั้นที่เลี้ยงดูมา ฐานบ้านที่เคยดีคงมีปัญหา เมื่อเขารู้เกี่ยวกับแบมแบมและพี่น้อง เขาก็ช่วยแม่ทำงานหลายอย่างเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว และด้วยหน้าตาที่น่ารักและโดดเด่น แบมแบมจึงได้มีโอกาสถ่ายโฆษณามากมาย รวมถึงภาพยนตร์ฮ่องกง เรื่อง Fairy Tale Killer และบทสมทบในภาพยนตร์เรื่อง ปิดเทอมใหญ่ หัวใจก็วุ่นวายเช่นกัน

เส้นทางกว่าจะเป็น GOT7

ระหว่างชั้นประถมถึงมัธยมต้น แบมแบมยอมรับว่าเขาเป็นเด็กที่ติดเกมมาก คุณแม่จึงพยายามหากิจกรรมอื่นทำแทนการเล่นเกม และลองเรียนเต้นที่เขาชอบ จนเมื่อแม่พาไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง “เรน” จุดประกายความปรารถนาของแบมแบมที่อยากเป็นศิลปินแบบนั้น เขาเริ่มเข้าแข่งขันเต้นรำ Rain Cover Dance In Thailand เมื่อปี 2550 เมื่ออายุได้ 10 ขวบ ในเวลานั้น บังเอิญมีผู้พิพากษาจาก JYP Entertainment เข้าร่วมคณะกรรมการตัดสินและเสนอให้เขาออดิชั่นเข้าค่าย แต่แบมแบมยังเด็กมาก ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธในตอนแรก ต่อมาได้เข้าร่วมการแข่งขันเต้นอีกครั้งและได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ในฐานะสมาชิกทีม WE ZAA COOL จากการแข่งขัน LG Entertainer In Thailand และได้รับการชักชวนจากทีมงานจากบริษัทเดิมเช่นเคย พวกเขายังบอกอีกว่าเขาไม่ต้องออดิชั่นอีกต่อไป แต่คุณสามารถเป็นเด็กฝึกงานได้ แบมแบมตัดสินใจคว้าโอกาสนี้ไว้

แบมแบม 1

การไปเกาหลีโดยไม่รู้ภาษาเป็นเรื่องยาก แบมแบมต้องเรียนภาษาเกาหลี ร้องเพลง เต้น และการแสดง และต้องมีการทดสอบรายสัปดาห์และรายเดือน หากไม่ถึงความสามารถก็ต้องกำจัดออกไป แบมแบมใช้เวลาฝึกประมาณ 3 ปีจนกระทั่งสัญญาของเขากำลังจะหมดลง เขาปรากฏตัวในรายการเซอร์ไววัลรายการหนึ่ง และความสามารถของเขาได้รับการชื่นชมจากยาง ยอนซอก เจ้าของ YG Entertainment ในเวลานั้น พัคจินยอง เจ้าของ JYP Entertainment มีการตัดสินใจว่าเขาจะเปิดตัวในฐานะสมาชิกวงบอยแบนด์ GOT7

ความโด่งดังของ แบมแบม

สองปีหลังจากการเดบิวต์ GOT7 ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในต่างประเทศเนื่องจากมีสมาชิกหลากหลายเชื้อชาติ จนได้ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกและได้รับรางวัลมากมายในประเทศเกาหลี ในประเทศไทย ชื่อเสียงของ GOT7 เป็นที่รู้จักจากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ และแบมแบมก็เริ่มถ่ายแบบให้กับนิตยสารแฟชั่น รวมถึงงานพรีเซนเตอร์เดี่ยว และทุกแบรนด์ก็ได้รับความนิยมด้วยยอดขายมหาศาลด้วยการสนับสนุนจากแฟนๆ และสิ่งนี้ทำให้แบมแบมก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในศิลปินดาราที่มีชื่อเสียงและมีรายได้สูงที่สุดในประเทศไทย

นอกจากการร้อง แร็ป และเต้นแล้ว แบมแบมยังมีความสามารถในการแต่งเพลงและมีเพลงมากมายในอัลบั้ม GOT7 และอัลบั้มเดี่ยวของเขาอีกด้วย แบมแบมทั้งสองยังสนใจงานโปรดักชั่นและการตัดต่อวิดีโอต่างๆ เขาได้แสดงผลงานของเขาในช่อง Instagram และ YouTube ส่วนตัวของ GOT7 เขายังเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีและโดดเด่นในรายการวาไรตี้โชว์อีกด้วย

ผลงานอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรก

หลังจากสัญญากับ JYP Entertainment หมดลงในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 สมาชิก GOT7 ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญาทั้งกลุ่ม แต่ก็ยังเก็บชื่อวงเอาไว้และรอเวลากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง สมาชิกแต่ละคนเลือกป้ายกำกับใหม่ตามความถนัดของตนเอง ซึ่งแบมแบมตัดสินใจไม่กลับประเทศไทย แต่เลือกที่จะต่อสัญญากับค่ายเพลงใหม่ Abyss Company และประสบความสำเร็จกับอัลบั้มแรก riBBon ด้วยยอดวิวมิวสิควิดีโอถึง 65 ล้านครั้ง ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของบริษัทเลยทีเดียว

หลังจากนั้นแบมแบมก็มีผลงานติดต่อกันมากมาย เช่น เพลง Who are you, เพลงที่ร่วมงานกับซึลกิ Red Velvet ซึ่งมียอดวิว 35 ล้านวิว และซิงเกิล Slo Mo ที่มียอดวิวมากกว่า 48 ล้านวิว ในเวลาเพียง 1 เดือน แบมแบมสร้างปรากฏการณ์ในวงการเพลงไทยอีกครั้งด้วยการร่วมงานกับ Golf F.Hero และยังร้องเพลง Skrrt ที่มียอดวิวถึง 1.3 ล้านวิวในเวลาเพียง 3 วัน

บทสรุป

เมื่อถูกถามถึงการประสบความสำเร็จในเกาหลีหรือไม่ ‘แบมแบม’ เผยว่า เขารู้ว่าการที่เดบิวต์ในฐานะวงไอดอลเค-ป๊อป ทำให้เป็นที่รู้จักยากมากหากต้องทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่เขาก็ยังให้ความสำคัญในการโปรโมตในต่างประเทศ แต่เป้าหมายของเขาในตอนนี้คือการเป็นที่จดจำและรู้จักมากขึ้นในเกาหลีใต้


อ้างอิงจาก

https://men.kapook.com/view246493.html

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Workpoint Today

ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://doodido.com/