แนะวิธีแปรงฟันเด็กที่ถูกต้อง และสะอาดจริงๆ

WM

9 ทริคการแปรงฟันเด็กที่ถูกต้อง 

การแปรงฟันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันทั้งของเราและของลูก ๆ ซึ่งวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องนั้น ก็จะช่วยให้เกิดความสะอาดทั่วทั้งช่องปาก ไม่ก่อให้เกิดฟันผุและปัญหาช่องปากต่าง ๆ ที่จะตามมาในภายหลังได้ ดังนั้นผู้ปกครองและพ่อแม่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลเรื่องของฟันและช่องปากให้กับลูกเพื่อที่พวกเขาจะได้มีฟันที่สะอาดและไม่ต้องทนเจ็บปวกเนื่องจากปัญหาช่องปากที่เกิดขึ้นจากการแปรงฟันไม่สะอาดในภายหลัง และวันนี้บทความของเราก็มี วิธีแปรงฟันเด็ก ที่ถูกต้องมาฝากค่ะ จะมีวิธีการแปรงอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องนั้น ทำอย่างไร? คุณมั่นใจไหมคะว่าคุณแปรงฟันให้ตัวเองได้ถูกต้องและสะอาดจริง ๆ เพราะหากไม่การที่คุณสอนลูกแปรงฟันก็อาจจะไม่ถูกต้องซึ่งก็ส่งผลให้การแปรงฟันนั้นไม่สะอาดและอาจมีปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาในภายหลังได้ และวันนี้บทความของเราก็มีวิธีการแปรงฟันที่ถูกวิธีมาฝากทุกท่านค่ะ ถ้าใครที่ยังไม่มั่นใจว่าแปรงฟันได้สะอาดแล้วจริงหรือไม่ ก็มาดูกันเลย เพื่อที่คุณจะได้แปรงฟันให้ลูก ๆ ได้สะอาดและไม่ทำให้เกิดฟันผุได้ดีจริง ๆ 

ทริคการแปรงฟันเด็กที่ถูกต้อง 

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/lubovlisitsa-14489667/

เลือกแปรงสีฟันที่มีขนาดตรงตามวัยหรือตรงตามความเหมาะสมเด็ก และเลือกแปรงที่มีขนแปรงหนานุ่มไม่บาดเหงือกสามารถซอกซอนในฟันชั้นในและชั้นนอกได้ดี 

-เลือกใช้ยาสีฟันที่ไม่ทำให้แสบปากและเป็นยาสีฟันสำหรับเด็ก ซึ่งยาสีฟันสำหรับเด็กนั้นก็จะมีอยู่หลากหลายแบบเลยค่ะ อีกทั้งยังมีกลิ่นเป็นกลิ่นผลไม้ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกอยากแปรงฟันได้มากขึ้น และการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์นั้นก็ควรได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ก่อน

-สำหรับเด็กที่จะต้องใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ให้ใช้เพียงบาง ๆ หรือประมาณเมล็ดถั่วเขียวก็เพียงพอ

-ในเด็กที่มีอายุ 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี นั้น ผู้ปกครองควรแปรงฟันให้เด็ก ๆ ด้วยตนเอง หรือหากเด็กสามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้วผู้ปกครองก็จำเป็นที่จะต้องแปรงฟันเป็นตัวอย่างให้เด็กดูด้วยวิธีการแปรงที่ถูกต้อง 

-ในเด็กที่มีอายุตั้ง 6 ขวบขึ้นไป ที่สามารถแปรงฟันด้วยตัวเองได้แล้ว ผู้ปกครองก็ยังต้องมีส่วนร่วมในการตรวจเช็คสภาพช่องปากของเด็ก ๆ อีกครั้งว่าแปรงได้สะอาดและแปรงได้อย่างถูกต้องหรือไม่ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดฟันผุได้ในภายหลัง และอย่าลืมให้เด็ก ๆ หัดแปรงลิ้นเพื่อลดปัญหาของการเกิดกลิ่นปากด้วย 

-ส่งเสริมหรือกระตุ้นให้เด็ก ๆ หัดแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง หรือหลังจากการรับประทานขนมหวานหรืออาหาร 

-สำหรับผู้ปกครองที่เลือกให้ลูกใช้แปรงสีฟันแบบไฟฟ้าก็ดีเช่นเดียวกันเพราะแปรงสีฟันแบบนี้จะสามารถขจัดคราบเหนียวๆ  อย่างพวกจุลินทรีย์ออกได้อย่างหมดจด 

-ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก ๆ 3 เดือน เนื่องจากภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้แปรงสีฟันนั้นจะเริ่มเสื่อมสภาพลง ซึ่งเราก็สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าขนแปรงเริ่มที่จะบานปลายออก หรือหากใครที่เป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ก็ควรเปลี่ยนทันทีหลังจากที่หายไข้ เพราะอาจทำให้เชื้อโรคสามารถแพร่สู่ผู้อื่นได้ง่าย 

-สำหรับเด็กในวัยที่อายุน้อยกว่า 2 ขวบนั้น ผู้ปกครองควรหัดให้เด็กรู้จักวิธีการบ้วนปากที่ถูกต้องเพราะเป็นช่วงที่หัดบ้วน ส่วนเด็กที่มีการแปรงฟันที่ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์แล้วก็ให้บ้วนน้ำเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะให้ฟลูออไรด์นั้นเกาะที่ผิวฟันและทำให้ฟันแข็งแรงห่างไกลจากการเกิดฟันผุได้ดี 

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/jennyfriedrichs-435099/

วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง

-วางแปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่มให้ทำมุมประมาณ 45 องศา ให้อยู่ในบริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน 

-ขยับแปรงสีฟันไปมาเล็กน้อยและแปรงลงที่ฟันบนแปรงขึ้นที่ฟันล่าง

-แปรงฟันขึ้นลงแบบนี้ไปจนครบทุกซี่ทั้งด้านในและด้านนอกให้สะอาด 

-แปรงลิ้นทุกครั้งเพื่อกำจัดแบคทีเรียและลดปัญหาของการเกิดกลิ่นปาก 

วิธีการขัดฟัน 

จับไหมขัดฟันด้วยนิ้วชี้และนิ้ว จากนั้นม้วนปลายไหมแต่ละด้านให้เข้ากับนิ้วเพื่อให้ในการควบคุมนิ้วในการขัดฟัน 

ค่อย ๆ เคลื่อนไหมเข้าซอกฟันเพื่อไม่ให้ไหมไม่บาดเหงือก 

จับไหมโอบให้เป็นรูปตัว C แต่ละด้านเลื่อนขึ้นลงเบา ๆ  ตามฟันแต่ละซี่ 

ขยับไหมส่วนอื่นในการขัดตามซอกฟันแต่ละซี่ เพื่อไม่ให้เศษอาหารหรือคราบจุลินทรีย์ต่าง ๆ เข้าไปอุดตามซอกฟันซี่อื่น ๆ ได้ 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ วิธีแปรงฟันเด็ก ให้สะอาดที่ถูกวิธี ซึ่งวิธีการเหล่านี้นี่แหละที่ DooDiDo ขอบอกไว้เรยจะทำให้ช่องปากของลูก ๆ คูรสะอาดได้ อีกทั้งคุณเองก็ยังส่ามารถที่จะนำวิธีเหล่านี้มาใช้กับตัวเองได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการแปรงฟันที่สะอาดนั้นก็จะช่วยลดปัญหาของการเกิดกลิ่นปากและปัญหาเรื่องของเหงือกที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน และการขัดฟันนั้นก็เป็นการที่จะช่วยลดการเกิดหินปูนและการเกิดฟันผุได้เป็นอย่างดี หากเราส่งเสริมการดูแลช่องปากที่ดีให้กับลูกแล้วรับรองค่ะว่าเรื่องของปัญหาช่องปากนั้นแทบจะเป็น 0% ไปเลยทีเดียว 

ขอบคุณแล่งที่มา:https://morning-kids.net