แนะนำ “รองเท้าคัทชู” สำหรับผู้ชาย ใส่แล้วเท่อย่างมีสไตล์และดูดี!!
ห้ามพลาด!! 5 แบบรองเท้าคัทชูที่หนุ่มๆ ควรต้องมีติดบ้านไว้
“รองเท้าที่ดีจะนำพาเราไปสู่ที่ดีๆ” วลีเด็ดสุดอมตะที่เล่าต่อๆ กันมานานมากจนจำที่มาไม่ได้ และเป็นวลีติดปากของเหล่านักช้อปทั้งหลายด้วย แต่ที่ลือเลื่องกันมานานขนาดนี้ เพราะข้อคิดดังกล่าวก็มีความจริงอยู่ในนั้นจริงๆ ที่ว่ารองเท้าที่ดี จะช่วยให้ผู้สวมใส่มั่นใจ เสริมบุคลิกภาพ ใช้ชีวิตด้วยความมั่นอกมั่นใจแล้ว อะไรๆ ก็จะดีขึ้นได้
การเลือกรองเท้าไม่เฉพาะสาวๆ ที่พูดหรือคิดแบบนี้ ชายอกสามศอกก็ควรจะมีรองเท้าผู้ชายดีๆ สักคู่ติดตัวไว้ด้วยเช่นกัน รองเท้าคัทชูชายที่หนุ่มๆ ควรมีติดไว้มีอะไรบ้าง มี 5 แบบรองเท้าคัทชูผู้ชายแบบอินเทรนด์ สวมใส่กับชุดไหนก็ดูดี
1. รองเท้า Derby
รองเท้าคัทชูผู้ชายทรง Derby (เดอร์บี้) หรือเรียกว่ารองเท้าทรง Gibson (กิ๊บสัน) หรือ Blucher (บลูเชอร์) คือรองเท้าเล่นกีฬาหรือรองเท้าสำหรับกิจกรรมล่าสัตว์ในอดีต ที่ปัจจุบันวิวัฒนาการเป็นรองเท้าสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่สังเกตดีๆ รองเท้า Derby มีหน้าตาคล้ายกับรองเท้าทรง Oxford (อ็อกซ์ฟอร์ด) จนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นรองเท้า Oxford ไป แต่ความเป็นจริง รองเท้าคัทชูผู้ชายทรงนี้มีส่วนที่ไม่เหมือนรองเท้าผู้ชาย Oxford ตรงที่ส่วนหนังรองเท้า Derby ตรงที่ร้อยเชือกผูกรองเท้าจะเปิดขึ้นมาได้
ต่างจากรองเท้าผู้ชาย Oxford ที่ส่วนล่างของที่ร้อยเชือกรองเท้าจะถูกยึดตรึงติดไว้กับตัวรองเท้าเลย แต่ความต่างเล็กๆ ระหว่างรองเท้าสองแบบ มีประโยชน์อยู่ รองเท้า Derby จะปรับความแน่นความหลวมได้ดี เดินได้คล่องตัวกว่า ในขณะที่ยังดูเป็นทางการเพราะหน้าตาเหมือนแฝดน้องของรองเท้าทรง Oxford เหมาะกับการแต่งกายของหนุ่มๆ ในปี 2019 ที่ต้องการความคล่องตัว ทำกิจกรรมหลากประเภทในวันเดียว เช้าทำงานเลิกงานไปปาร์ตี้ต่อก็ยังได้
2. รองเท้า Monk Strap
รองเท้าคัทชูผู้ชาย Monk Strap (มงค์ สแตรป) มีจุดเด่นอยู่ที่การเป็นรองเท้าสวมที่มีสายคาดตามแนวขวางของเท้า โดยสายนี้เหมือนเข็มขัดที่สามารถปรับความหลวมความคับได้ อาจจะมีสายเดียวหรือสองสายก็ได้ จุดเริ่มต้นของรองเท้าผู้ชายทรงนี้ ดั้งเดิมเป็นรองเท้าของนักบวชหรือพระ รุ่นเพิ่มการป้องกันเท้า เพราะอย่างที่ทราบดีว่า รองเท้านักบวชจะออกแนวรองเท้าแตะหรือเปลือยเท้าเป็นส่วนใหญ่ รองเท้า Monk Strap จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อการเดินทางไกลหรือการเดินเท้าในที่สมบุกสมบันกว่าปกติ
ถึงจะเริ่มต้นจากวงการศาสนา แต่ต่อมา รองเท้าคัทชูผู้ชายทรงนี้ก็วิวัฒนาการตัวเองกลายเป็นรองเท้าผู้ชายทั่วไปที่ฮิตมากๆ ทรงหนึ่ง รองจากรองเท้าทรง Oxford เลย บางครั้งยังถูกเรียกว่าเป็นรองเท้า Oxford เวอร์ชั่นสายคาดด้วยซ้ำ เพราะแทบไม่มีอะไรที่ต่างกันเลย
รองเท้าคัทชูชายทรง Monk Strap ใส่ได้หลายโอกาส ขึ้นอยู่กับวัสดุรองเท้า และการสลักลายบนหนังรองเท้า แต่ส่วนใหญ่แล้ว เหมาะกับสวมไปงานเลี้ยงสังสรรค์ งานปาร์ตี้ เป็นส่วนใหญ่ หนุ่มๆ ที่สวมรองเท้าทรงนี้ส่วนใหญ่ มักเป็นหนุ่มชอบการแต่งตัว ชอบการสไตล์ตัวเอง
3. รองเท้า Loafer
รองเท้าผู้ชายทรงนี้คล้ายกันกับรองเท้าทรง Moccasin ที่มีจุดเริ่มต้นเป็นรองเท้าที่เอาเท้าสวมเลย และสวมเดินในบ้าน รองเท้า Loafer มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นรองเท้าทรง Slipper ของพระเจ้าจอร์จที่ 6 ของอังกฤษ กระทั่งช่วงปี 1960 นักธุรกิจชาวอเมริกันเริ่มสวมรองเท้า Loafer กับชุดสูททำงาน ถ้าไม่เห็นภาพแล้วบอกว่า รองเท้าใส่ในบ้านกับชุดสูทเนี่ยนะไปกันได้ไง แต่พอลืมตาดูภาพที่เห็นคือรอดและเข้ากันได้ดีมากเสียด้วย
แบรนด์ดีไซเนอร์ต่างๆ ก็ได้แรงบันดาลใจ พากันอัพเกรด สไตลิ่งเจ้ารองเท้าผู้ชายทรงนี้ใหม่ จนทุกวันนี้ก็ออกมาหลากหลายแบบ ส่วนมากเป็นการแต่งส่วนหน้ารองเท้า เช่น ทรงสายคาด Penny Loafer ทรงมีพู่ห้อย Tassels หรือ ทรงแต่งอะไหล่ทองเงินเคลือบ Bit Loafer เป็นต้น ซึ่งทรงที่ต่างกัน ก็มีผลต่อการแต่งตัว รองเท้า Loafer ทรงสายคาดดูเป็นทางการมากที่สุด รองลงมาคือ Tassels และ Bit
4. รองเท้า Chelsea Boot
ในวันที่อากาศดี ฝนไม่ตก เย็นสบายนิดๆ รองเท้าคัทชูผู้ชายทรง Chelsea Boot ทรงหนึ่งเลย รองเท้า Chelsea Boot มีจุดเริ่มต้นจากประเทศอังกฤษอีกเช่นกัน สมัยวิกตอเรีย รองเท้าทรงนี้เป็นบูทหุ้มข้อ ส้นเตี้ย ตัดเย็บผสมส่วนผ้ายืดหยุ่นได้บริเวณข้อเท้า ช่วยให้สวมถอดรองเท้าได้ง่ายขึ้น ความฮิตของรองเท้ารุ่นนี้ขึ้นสู่จุดสูงสุดหลังจากที่คนดังอังกฤษ โดยเฉพาะวงการเพลง เช่น สี่เต่าทอง The Beatles ที่ใส่เสื้อสูทผู้ชายกับรองเท้าทรงนี้กันแล้วดูคูลมาก
ทุกวันนี้รองเท้าคัทชูผู้ชายรุ่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนชอบแต่งตัวทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลย รองเท้าทรงนี้ใส่ไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ ถ้าเป็นหนุ่มแต่งตัวร็อค กางเกงยีนส์ขาเดปตัวเดียวกับเสื้อยืดก็อยู่แล้ว หรือถ้าเป็นสาวหวานอยากดูเปรี้ยว ก็สวมเสื้อผ้าแนวเดิม สวมกระโปรงตัวยาวตัวเก่ง แล้วจัดรองเท้า Chelsea Boot ทาปากสีลิปสติกแซ่บขึ้น เช่น แดงเข้ม ก็ได้แล้ว
5. รองเท้า Chukka
รองเท้าคัทชูผู้ชายทรง Chukka (ชักก้า) มีต้นกำเนิดมาจากกีฬาโปโล แม้แต่ชื่อเรียกรองเท้าบูทชนิดนี้ก็ยังมาจากการจับเวลาการเล่นแต่ละ match ของโปโล (เกมโปโล 1 chukka กินเวลานาน 7 นาที แต่โดยปกติเล่นโปโลแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 4, 6 หรือ 8 chukka)
ได้ยินแบบนี้ก็รู้ได้เลยว่า รองเท้าผู้ชายทรง Chukka ทำขึ้นเพื่อเล่นกีฬา มีความคล่องตัวสูง มักทำจากหนังกลับ และมีความคล้ายกับรองเท้า Derby ที่มีส่วนร้อยเชือกผูกรองเท้าแบบเปิด
รองเท้าแฟชั่นทรงนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นรองเท้าดูเป็นทางการน้อยที่สุดแล้วในบรรดารองเท้าชายทั้งหมดที่แนะนำมา ดังนั้น รองเท้าทรงนี้จึงเหมาะกับการสวมไปเที่ยว ไปเดต ด้วยความที่เป็นรองเท้าหนังกลับเป็นส่วนมาก ก็จะเข้ากับเสื้อผ้ากางเกงสีเอิร์ธโทน
ไม่ว่าหนุ่มๆ จะแต่งตัวเท่ แต่งตัวเนี๊ยบยังไง เพื่อนๆ คงมีแบบรองเท้าคู่ใจไว้เลือกสวมกันบ้างแล้ว แต่ DooDiDo ขอแนะนำอีกอย่างคือการที่เราจะลงทุนกับรองเท้าคุณภาพดีๆ สักคู่ ปัจจัยหนึ่งที่อายุการใช้งานรองเท้ายืดยาวคือ วัสดุรองเท้า การตัดเย็บที่ดี แค่นี้ก็ช่วยให้คุณมีรองเท้าดีๆ สวมใส่ได้กับทุกชุดทุกโอกาสทำให้คุณดูดดีขึ้นได้
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://www.shopback.co.th/blog/