เคล็ดลับการเลือกซื้อเปลสำหรับลูกน้อยให้เหมาะสมกับช่วงวัย!!
วิธีเลือกซื้อเปลแบบไหน? ให้ตอบโจทย์และปลอดภัยต่อสุขภาพลูกน้อยมากที่สุด
การนอนหลับพักผ่อนเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นสำหรับทุกเพศทุกวัยยิ่งถ้าได้นอนในสถานที่หรือที่นอนดีๆ ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและหลับสบายมากขึ้น เช่นเดียวกับลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องแน่ใจว่ามีที่พักผ่อนที่ดีและปลอดภัยสำหรับลูก เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่ลูกน้อยของคุณต้องใช้ในช่วง 4 เดือนแรก
เปลเด็ก เป็น 1 ในเครื่องใช้อำนวยความสะดวกที่สำคัญของคุณแม่ลูกอ่อน เพราะช่วยให้ทารกรู้สึกสบายและนอนหลับได้ง่าย ปัจจุบันมีเปลเด็กให้เลือกซื้อหลายลักษณะ ทั้งเปลแบบแกว่งไกวด้วยมือเพื่อช่วยกล่อมเด็กนอน แบบมีล้อเคลื่อนที่ได้หรือเป็นเปลลูกกรงแบบตั้งอยู่กับที่ และแบบไฟฟ้าที่เเกว่งโดยอัตโนมัติ แต่จะเลือกซื้อเปลแบบไหนให้ตอบโจทย์และปลอดภัยต่อสุขภาพลูกน้อยมากที่สุด
เปลเด็กที่นิยมใช้ในปัจจุบันแบ่งเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. เปลตะกร้า
คุณสมบัติ เป็นเปลที่มีน้ำหนักเบาและมีหูจับสำหรับหิ้ว ค่อนข้างพกพาง่ายและมักมาพร้อมกับชุดเครื่องนอน มีขนาดเล็กเหมาะสำหรับทารกแรกเกิดที่มักรู้สึกสบายและหลับง่ายในเปลแคบๆ บางแบบมีที่ครอบเปลบริเวณศีรษะ หรือสามารถประกอบกับล้อเสริมเป็นเปลรถเข็น และบางแบบก็มีฐานรองที่สามารถปรับระดับหรือโยกไกวได้ แต่เนื่องด้วยมีขนาดเล็กจึงใช้ได้กับทารกในช่วง 3 เดือนแรกเท่านั้น
2. เปลไกว
คุณสมบัติ การแกว่งไกวของเปลเป็นการเคลื่อนไหวคล้ายกับขณะที่ทารกยังอยู่ในท้องแม่ เปลไกวจึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณแม่ไม่ต้องอุ้มกล่อมลูกน้อยตลอดเวลา โดยเปลชนิดนี้เหมาะกับทารกในช่วง 2-3 เดือนแรกมากที่สุด และเพื่อความปลอดภัยควรใช้ดูแลเด็กที่มีน้ำหนักไม่เกิน 7-12 กิโลกรัม ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของเปลไกวและข้อกำหนดในคู่มือการใช้งานด้วย อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรจำกัดเวลาในการไกวเปลให้ลูกน้อยไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน หากไม่จำเป็นจริงๆ ควรอุ้มกล่อมด้วยตนเอง เพื่อให้ลูกน้อยสัมผัสถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดแม่
3. เปลลูกกรง
คุณสมบัติ เป็นเปลที่มีพื้นที่กว้างสำหรับทารกและมีที่กั้นเป็นลูกกรงค่อนข้างสูง มีขายแบบแยกชิ้นส่วนก่อนนำมาประกอบเองที่บ้าน โดยบางชนิดถูกออกแบบมาให้สามารถแกว่งไกวหรือโยกเพื่อช่วยกล่อมให้ทารกหลับง่ายขึ้น มักใช้ได้นานกว่าเปลตะกร้าที่ใช้ได้จนถึงเด็กมีอายุไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ แต่เปลลูกกรงก็เคลื่อนย้ายลำบาก มีราคาแพงกว่า และอาจไม่มีชุดเครื่องนอนสำหรับเด็กแถมมาให้
4. เปลเพน
คุณสมบัติ เปลชนิดนี้มักมีลักษณะเหมือนคอก ช่วยป้องกันอันตรายจากการที่เด็กคลานซุกซนไปมา เป็นเปลแบบพับเก็บได้ทำให้พกพาสะดวก โดยมีทั้งแบบเปิดกว้างและแบบมีมุ้งปิดป้องกันยุงหรือแมลง เหมาะสำหรับเด็กวัย 6-7 เดือนที่กำลังเริ่มคลาน และอาจใช้ประโยชน์ได้จนเด็กมีอายุถึง 2 ปี หรือจนกว่าจะถึงวัยที่เด็กปีนป่ายออกมาได้
นอกจากการเลือกประเภทเปลเด็กให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการใช้และวัยของลูกแล้ว ความปลอดภัยก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย โดยมีข้อแนะนำในการใช้เปลเด็ก ดังต่อไปนี้
- เลือกฟูกที่พอดีกับเปล หรือเลือกเปลที่มีฟูกขนาดพอดีกัน มีความนุ่มและหนาแน่นมากพอเพื่อให้เด็กนอนอย่างสบาย หากฟูกอ่อนนุ่มเกินไปหรือสามารถสอดนิ้วระหว่างขอบเปลและฟูกได้มากกว่า 2 นิ้ว อาจเสี่ยงทำให้จมูกและปากของเด็กไปติดบริเวณดังกล่าว หรือถูกฟูกกดทับจนเด็กหายใจไม่ออกได้
- อย่าวางหมอน ผ้าห่ม หรือตุ๊กตาไว้ในเปลจนแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้ปากหรือจมูกของเด็กถูกกดทับและหายใจไม่ออก
- เลือกเปลลูกกรงที่มีระยะห่างของซี่กรงไม่เกิน 2.5 นิ้ว เพื่อป้องกันศีรษะทารกติดหรือหลุดลอดออกจากช่องได้
- เลือกเปลที่มีฐานมั่นคงและสมดุล เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถรับน้ำหนักทารกได้ดีพอและจะไม่พลิกคว่ำ
- หากเป็นเปลแบบประกอบหรือพับได้ ควรตรวจดูตัวล็อกให้แน่นหนาหลังติดตั้ง ป้องกันเปลล้มหรือทรุดตัว ส่วนเปลที่มีล้อก็ควรตรวจให้แน่ใจว่าเปลล็อกอยู่กับที่ เพื่อไม่ให้เปลเลื่อนไหลไปเอง
- เด็กทารกมักมีน้ำลายไหล พ่นนมออกมา หรือผ้าอ้อมซึมเปื้อนจนเลอะเปลได้ จึงควรเลือกเปลที่ถอดมาทำความสะอาดได้ง่าย
- สำหรับเปลเด็กที่มีถาดใส่อาหารหรือโมบายกล่อมเด็กแถมมา ควรดูให้แน่ใจว่าสามารถถอดเข้าออกได้ง่ายและไม่เป็นอุปสรรคต่อการวางทารกลงบนเปลหรืออุ้มออกจากเปล
- เมื่อเด็กนอนหลับ พ่อแม่ควรคอยระวังและจับให้เด็กนอนหงายอยู่เสมอ
- ดูให้แน่ใจว่าของเล่นทุกชิ้นที่ให้ลูกเล่นหรือวางไว้ในเปลประกอบกันแน่นสนิท ไม่หลุดออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพราะหากเด็กนำเข้าปากอาจเกิดการสำลักจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
- คอยเฝ้าดูทารกอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังสัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็กในบ้านที่โตกว่า เพราะอาจวิ่งชนหรือปีนป่ายจนเปลล้มลงได้
- หลีกเลี่ยงการใช้เปลตะกร้าที่ทำจากวัสดุถักสาน เนื่องจากเสี่ยงทำให้ทารกหายใจไม่ออกและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างฉับพลัน
นอกจากนี้ DooDiDo ขอแนะนำว่าคุณแม่ควรเลือกเปล หรือที่นอนที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพราะที่นอนของเด็กทารกมักเปื้อนได้ง่ายจากน้ำลายไหล ผ้าอ้อมซึม เป็นต้น และไม่ควรนำหมอน ตุ๊กตา หรือผ้าห่มที่มีน้ำหนักวางจนแน่นเปลหรือมากเกินความจำเป็น เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัดและอาจกดทับจมูกหรือปากจนลูกหายใจไม่ออกได้น่ะค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://www.pobpad.com/