“ฮีทสโตรก” วายร้ายหน้าร้อนของเด็กเล็กที่คุณแม่ต้องระวัง!!

WM

เด็กเล็กจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกายจากความร้อนได้ง่าย

หน้าร้อนที่สภาพอากาศร้อนระอุ อบอ้าว ทำให้ลูกน้อยของคุณแม่เกิดอาการไม่สบายเนื้อสบายตัวอล้ว ยังสามารถทำให้เด็กเล็กนั้นเกิดภาวะที่ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนที่เกิดจากการใช้พลังงานของร่างกายได้ตามปกติ ที่เรียกว่า ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด นั่นเองค่ะ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่อันตรายที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาดนะคะ

ช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นทุ๊กกวันคุณพ่อคุณต้องอย่าลืมดูแลและเฝ้าระวังเจ้าตัวเล็ก จาก “โรคฮีทสโตรค” นะคะ โรคฮีทสโตรค คือ โรคที่เกิดจากการที่ผู้ป่วยได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส โรคฮีทสโตรค คือ โรคที่เกิดจากการที่ผู้ป่วย ได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่างกายสู งกว่า 40 องศาเซลเซียส ฮีทสโตรค คือ โรคที่เกิดจากการที่ผู้ป่วย ได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่างกายสู งกว่า 40 องศาเซลเซียส

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/jillwellington-334088/

โรคลมแดด สาเหตุเกิดจากอะไร?
เคยสงสัยกันไหมว่าเป็นลมธรรมดานี่ใช่เป็นลมแดดหรือเปล่า จริงๆ แล้วภาวะอาการเป็นลมที่เกิดขึ้นบ่อยๆ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนมักมาจากการที่ร่างกายของเรานั้น เหนื่อย เพลีย นอนน้อย หรือหิวมากไม่ได้ทานข้าวมาทั้งวันจนทำให้ร่างกายน้ำตาลตกก็เป็นลมได้ หรืออยู่บนรถโดยสารที่มีคนหนาแน่นจนทำให้มีอากาศหายใจไม่เพียงพอก็เป็นลมได้นะ ฯลฯ และอีกสารพัดสาเหตุที่นำไปสู่การเป็นลม

แต่สำหรับ “โรคลมแดด” หรือที่เรียกว่า “ฮีทสโตรก”(Heat Stroke) เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนที่เกิดจากการใช้พลังงานของร่างกายได้ตามปกติ คือร่างกายไม่สามารถปรับตัวกับความร้อนที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งโดยปกตินั้นร่างกายของคนเราจะสามารถจัดการ และรับมือกับความร้อนที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี แต่หากปัจจัยแวดล้อมที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรานั้น ทำให้อุณหภูมิสูงเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว และไม่สามารถปรับสมดุลได้ทัน ก็จะทำให้เกิดภาวะลมแดดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการเป็นลมแดด มักจะมาจากการที่ออกไปเล่น ไปทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีแดดจัดๆ ยิ่งถ้าเป็นช่วงตั้งแต่ 9 โมงเรื่อยไปจนถึงช่วงเวลา 3 โมงเย็น แสงแดดระหว่างช่วงเวลานี้ของวันจะจัดจ้ามากกว่าปกติในช่วงฤดูร้อน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pezibear-526143/

สัญญาณของโรค
คือ ผู้ป่วยจะไม่มีเหงื่อออก แม้ว่าจะเจอกับอากาศร้อนขนาดไหนก็ตาม แต่!! ตัวจะร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ากระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็วและอาเจียน

วิธีการปฐมพยาบาลผู้ป่วยในเบื้องต้น
1. พาตัวลูกเข้าไปในที่ร่ม
2. ให้ลูกนอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง คลายเสื้อผ้าให้หลวม
3.ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามต ัวและศรีษะ ร่วมกับการใช้พัดลมเป่าระบา ยความร้อน เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลด ต่ำลงโดยเร็วที่สุด
4. หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดย เร็วที่สุด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/skitterphoto-324082/

วิธีป้องกัน
1. หลีกเลี่ยงทำกิจกรรมที่แจ้ง ที่มีอากาศร้อนมากๆ
2. ถึงแม้ลูกไม่กระหายน้ำก็ควร ให้เขาจิบน้ำบ่อยๆ
3. สวมเสือผ้าสีอ่อนๆ ผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี
4. พยายามให้ลูกอยู่ในที่อากาศ ถ่ายเทควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กอยู่กลางแดด หรือเล่นกล้างแจ้งที่มีแดดจัดเป็นเวลานาน
5.ในวันที่อากาศร้อนมาก หรืออุณหภูมิสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ทุกชั่วโมง
6.ให้สวมชุดเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย เลือกสีอ่อนๆ
7.ให้สังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก เช่น ตัวร้อนจัดแต่เหงื่อไม่ออก ผิวหนังแดง หัวใจเต้นเร็วและแรง มีอาการชัก หรือหมดสติ ต้องรีบนำเด็กเข้าร่มในทันที
8.ในกรณีที่เด็กเป็นลม การดูแลเบื้องต้น คือ ให้เด็กนอนราบแล้วยกเท้าทั้งสองข้างให้สูง เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้น

เพราะเด็กเล็กจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกายจากความร้อนได้ง่าย ทำให้การปรับตัวของร่างกายต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นได้ไม่ดีเท่ากับผู้ใหญ่ ดังนั้นผู้ปกครองควรป้องกันตามวิธีที่ DooDiDo นำมาฝากนะคะ เพื่อที่ลูกน้อยของคุณจะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับฮีทสโตรกที่เกิดกับเด็กเล็กในช่วงหน้าร้อน ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.amarinbabyandkids.com, www.momster.in.th