วิธีการดูแลผิวพรรณของคุณแม่มือใหม่ในช่วงตั้งครรภ์!!

WM

คุณแม่จะต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวหมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ ในช่วงตั้งครรภ์

สิ่งที่คุณแม่มือใหม่ควรต้องรู้เอาไว้ว่าหากมื่อตั้งครรภ์ ผิวหน้าจะมีความหมองคล้ำอัตโนมัติ ดังนั้นคุณแม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดให้ได้มากที่สุด หรือหากมีความจำเป็นต้องออกไปทำธุระข้างนอก หากคุณแม่กลับถึงบ้านควรให้ความสำคัญในการทำความสะอาดผิวหน้า สำคัญที่สุดหรือในช่วงตั้งครรภ์อยากให้คุณแม่ลดการแต่งหน้าโชว์ผิวธรรมชาติ วันนี้เราเรื่องราวสาระความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ แม่และเด็ก กับ วิธีการดูแลผิวพรรณของคุณแม่มือใหม่ ในช่วงตั้งครรภ์ เชื่อตอนนี้คุณแม่ทุกคน คงพร้อมที่จะไปรู้วิธีป้องลูกน้อยให้ปลอดภัย หากพร้อมกันแล้วเราไปอ่านสาระความรู้ที่ใบบทความครั้งนี้กันเลยค่า

ปัญหาเรื่องผิวถือเป็นสิ่งคู่กันกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ผิวของคุณแม่เปลี่ยนแปลงไปเกิดจากตัวการสำคัญคือฮอร์โมนตั้งครรภ์ที่สูงขึ้น ทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ซึ่งในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวหมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ หรือผิวแตกลาย บางคนมีสิวเหมือนย้อนเวลากลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง ปัญหาที่เจอก็จะแตกต่างกันออกไปก็จะเป็นผลมากจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@speckfechta

6 ปัญหาผิวช่วงตั้งครรภ์

1. ผิวผื่นแดงแสบคัน คุณแม่ควรบำรุงด้วยครีมหรือโลชั่นที่เป็นสูตรธรรมชาติและมีความอ่อนโยนต่อผิว เนื่องจากครีมที่มีกลิ่นแรง อาจส่งผลต่ออาการแพ้ท้องได้ หากมีผื่นแดงขึ้นกระจายเป็นวงกว้างหรือมีลักษณะเป็นตุ่มๆ จนดูผิดปกติ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้ระกว่างตั้งครรภ์ ซึ่งไม่ควรปล่อยไว้ให้ลุกลาม

2. ผิวหมองคล้ำ โดยเฉลี่ยนแล้ว 90% คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีสีผิวที่เข้มกว่าเดิม เช่น บริเวณรักแร้ คอ เส้นกลางหน้าท้อง ลานหัวนม ต้นขา และอวัยวะเพศ และยังมีปัญหาผิวอื่นๆ แทรกซ้อนตามมาด้วย เช่น ฝ้า กระ ติ่งเนื้อ ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่คอยกระตุ้นให้สีผิวเข้มขึ้นกว่าเดิม แก้ไขปัญหาได้ด้วยการพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมบำรุงผิวปรับสภาพผิวให้กลับสู่สภาพเดิม

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@enginakyurt

3. ผิวขาดน้ำ ปกติแล้วคุณแม่หลังคลอดจะเผชิญกับภาวะผิวขาดน้ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากร่างกายจะมีการขับเอาน้ำที่สะสมในระหว่างตั้งครรภ์ออกไป จึงทำให้อาการบวมน้ำของร่างกายคุณแม่น้อยลง และส่งผลต่อสุขภาพผิวของคุณแม่ตามมาด้วย ซึ่งปัญหาผิวขาดน้ำแก้ไขได้ด้วยการเติมน้ำให้ผิว พยายามดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อเป็นการทดแทนน้ำในร่างกายที่เสียไป

4. ผิวหย่อนคล้อย แก้ไขได้ด้วยการออกกำลังกายที่ช่วยกระชับผิว ซึ่งควรออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น เดินช้าๆ หรือเล่นโยคะ เพราะจะช่วยความกระชับให้กล้ามเนื้อท้อง กล้ามเนื้อต้นขา และช่วยความแข็งแรงให้ผิวหนังที่หย่อยคล้อยให้กลับมากระชับ

5. ผิวแตกลาย ช่วงตั้งครรภ์ผิวคุณแม่จะเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยตามขนาดตัวของทารกในครรภ์ จึงทำให้เกิดผิวแตกลายตามมา สามารถแก้ไขได้ด้วยการทาครีมหรือน้ำมันกันท้องแตกลาย เพื่อเป็นการคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว พร้อมทั้งดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวแตกลายได้ดี

6. ผิวไวต่อแสง ถ้าจำเป็นต้องทำงานนอกบ้าน และต้องเจอกับแสงแดดบ่อยๆ อาจทำให้ผิวดำคล้ำ เป็นรอยด่าง รอยดำ ผิวไวต่อแสงเป็นเพราะฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์พุ่งพล่าน ทำให้ผิวไวต่อแสงมากเป็นพิเศษ ถ้ามีปัญหานี้ควรทาผิวที่มีสารกันแดด SPF 30 ขึ้นไป

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@henry_ravenscroft_

วิธีดูแลผิวขณะตั้งครรภ์

  1. กินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงให้สม่ำเสมอเพราะวิตามินซีเสริมความแข็งแรงให้ผิวพรรณของคุณแม่ เช่น ฝรั่ง ส้ม อะโวคาโด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
    2. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดแสงแดดที่แรงจัดส่งผลเสียให้กับสีผิวของคุณแม่โดยตรง เพราะช่วงตั้งครรภ์ผิวจะไวต่อแสง ช่วงเวลาที่ไม่ควรโดนแดดคือ 11.00-16.00 น. หากจำเป็นที่จะต้องออกข้างนอก ควรทากันแดดป้องกันไว้
    3. ดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว การดื่มน้ำมากๆจะทำให้ผิวชุ่มชื้น เลือดลมไหลเวียนดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
    4. ขัด พอกผิว ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ การขัดผิวจะทำให้ผิวพรรณเนียนขึ้น และทำให้คุณแม่ผ่อนคลาย คุณแม่สามารถขัดผิว หรือพอกผิวได้ตามปกติ แต่ควรเลือกสครับขัดผิวที่ทำมาจากธรรมชาติไม่ส่งผลเสียกับลูกในครรภ์

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับสาระความรู้ดีๆ ที่ DooDiDo ได้นำมาฝากให้ได้อ่านในบทความนี้ เกี่ยวกับ แม่และเด็ก หวังว่าคุณแม่จะได้รับสาระที่เราได้นำมาฝากในบทความนี้ กับ “วิธีการดูแลผิวพรรณของคุณแม่มือใหม่ ในช่วงตั้งครรภ์” แต่ปัญหาจะค่อยๆ หายไป และดีขึ้นหลังจากการคลอดลูก เพราะระดับฮอร์โมนจะกลับสู่สภาวะปกติ แต่คุณแม่บางคนที่มีการลุกลามมากในช่วงตั้งครรภ์ อาจจะยังมีริ้วรอย หรือจางหายไปไม่หมด ซึ่งคุณแม่ก็สามารถดูแลผิวได้อย่างต่อเนื่อง หรือพบแพทย์ผิวหนังให้ดูแลรักษาอย่างถูกวิธีหวังว่าเพื่อนๆคงจะได้รับความรู้จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.bpksamutprakan.com