ต้องรู้!! คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามทาน 9 สมุนไพรที่เป็นอันตรายต่อคนท้อง

สาระน่ารู้ “สมุนไพร” ที่ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์มารดา

ต้องยอมรับเลยว่าการใช้สมุนไพรในการรักษาโรค หรือบำรุงร่างกายนั้น เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยของเรา เพราะสมุนไพร เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน และในคนท้องส่วนมาก มักจะหาสมุนไพรมารับประทานเพื่อบำรุงลูกน้อยในครรภ์ แต่คุณแม่รู้ไหมคะ ว่าสมุนไพรทุกชนิดนั้นไม่ได้เหมาะกับคนท้องเสมอไปค่ะ ยังมีสมุนไพรบางชนิดที่ส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ของคุณแม่ค่ะ

คุณแม่รู้หรือไม่ว่า สมุนไพรไม่ได้ปลอดภัยกับคนท้องทุกชนิดนะคะ สมุนไพรเหล่านี้มีสรรพคุณทางยาเป็นอย่างดี เพียงแต่หากนำมาใช้ผิดช่วงเวลาก็อาจเกิดผลเสียกับร่างกายของคุณแม่ และอาจส่งผลถึงลูกน้อยในครรภ์ด้วย แนะนำคุณแม่ก่อนจะเลือกทานหรือใช้ผลิตภัณฑ์อะไร ควรปรึกษาสอบถามคุณหมอที่ฝากครรภ์ก่อนทุกครั้งนะคะ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่ วันนี้เรามีข้อมูลของสมุนไพร 9 ชนิดที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงตั้งครรภ์มาฝากกันค่ะ

9 สมุนไพรอันตรายที่คนท้องควรระวัง!!!

1. คาโมมายล์ (CHAMOMILE)
คาโมมายล์มีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และหลับสบาย ลดการอักเสบและระคายเคือง ลดการปวดท้องเกร็ง ปวดประจำเดือน แต่การทานคาโมมายล์ในช่วงตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อระบบภายในและอาจทำให้คุณแม่เกิดการแท้งบุตรได้ค่ะ

2. ดอกคำฝอย (SAFFLOWER)
ดอกคำฝอยนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม มีสรรพคุณช่วยลดไขมันและป้องกันการอุดของไขมันในเส้นเลือด บำรุงและระงับประสาท ช่วยบำรุงโลหิต และฟอกโลหิตเป็นพิษ แต่ในทางกลับกันมีฤิทธฺ์เป็นยาทำให้มดลูกบีบตัวและหดตัว บำรุงเลือดและช่วยขับประจำเดือน ซึ่งเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

3. โกลเด้นซีล (GOLDENSEAL)
โกลเด้นซีลมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหวัด กระตุ้นระบบภูมิต้านทาน ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ ซึ่งหากคุณแม่ตั้งครรภ์ทานจะส่งผลต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ได้

4. เปปเปอร์มิ้นท์ (PEPPERMINT)
เปปเปอร์มิ้นท์มีสรรพคุณเป็นยาขับลม แก้อาการจุกเสียด ช่วยในระบบย่อนอาหาร ทำให้ขับถ่ายดีขึ้น แต่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงสารสกัดในอาหารหรือน้ำมันหอมระเหยจากเปปเปอร์มิ้นท์ เนื่องจากทำให้มดลูกมีการบีบรัดตัว

5. โรสแมรี่ (ROSEMARY)
โรสแมรี่มีสรรพคุณช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ช่วยบำรุงสมอง บำรุงความจำได้ดี น้ำมันของดอกโรสแมรี่ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก แต่เนื่องจากมีฤทธิ์ในการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อความปลอดภัยจึงไม่ควรใช้ในช่วงตั้งครรภ์ระยะ 3 เดือนแรก

6. ไพล (ZINGIBER CASSUMUNAR)
ไพลสมุนไพรของไทยสรรพคุณช่วยแก้อาการบวม ฟกช้ำ ปรับการไหลเวียนของเลือด ช่วยขับลม ขับระดูหรือประจำเดือน และมีฤิทธิ์บีบมดลูก อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และระบบย่อยอาหาร ทำให้คุณแม่อาจปวดท้องหรือท้องเสียได้

7. ตังกุย (DONG QUAI)
รากตังกุยหรือโสมมีสรรพคุณเป็นยามีฤิทธิ์ร้อน ออกฤิทธิ์ต่อตับ ม้าม หัวใจ นิยมใช้เป็นยาบำรุงเลือด ฟอกเลือด ใช้รักษาภาวะโลหิตจาง สามารถทานได้ภายหลังคลอดบุตร จะช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ แต่หากทำมาทานในช่วงตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตรได้เลยค่ะ

8. ฟ้าทะลายโจร (ANDROGRAPHIS PANICULATA)
ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสมุนไพรพื้นเมืองของบ้านเรา มีสรรพคุณเป็นยาช่วยลดไข้ บรรเทาอาการเจ็บคอ รักษาอาการท้องเสียแบบไม่ติดเชื้อ แต่ถือเป็นสมุนไพรต้องห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร เพราะสามาถทำให้ทารกพิการหรือเกิดการแท้งได้

9. ว่านชักมดลูก (CURCUMA COMOSA)
ว่านชักมดลูกมีสรรพคุณช่วยในการรักษาความผิดปกติของฮอร์โมนเพศหญิง เพราะมีสารที่ออกฤิทธิ์คล้ายฮอรโมนเพศหญิง เป็นยาบำรุงเลือดหรือช่วยขับประจำเดือน สำหรับผู้ที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติ ขับน้ำคาวปลา รักษาอาการตกขาว แต่ไม่ควรหาซื้อมาทานเองอย่างยิ่งในคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะทำให้มดลูกบีบรัดและหดตัว ทำให้ร่างกายขับเลือดออกมา ยิ่งแม่ท้องไตรมาสแรกอาจส่งผลถึงขั้นแท้งลูกได้

ทั้งหมดนี้ก็คือ 9 สมุนไพรที่คุณแม่ต้องเลี่ยงขณะตั้งครรภ์นะคะ หากคุณแม่อยากจะบำรุงลูกน้อยในครรภ์ล่ะก็ DooDiDo แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลคุณแม่น่าจะดีกว่าค่ะ เพราะสมุนไพรบางตัวอาจมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทอาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายลูกน้อยในครรภ์ได้รวมไปถึงตัวคุณแม่เองค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://mamadoskincare.com/herbs-to-avoid-during-pregnancy/