ตากสั่งทุกหน่วยคุมเข้ม เช็กโควิด 111 คน รอด 58-รอผล 53

WM

ภาพจาก pixabay

พบชายเมียนมาในศูนย์พักพิงฯ บ้านอุ้มเปี้ยม ป่วยโควิด-19 ผวจ.ตากสั่งพร้อมเร่งสอบสวนโรค

หมอเปิดไทม์ไลน์ไปทำงานที่ อ.คลองลาน แล้วจะกลับ อ.วังเจ้า แต่หลงป่าอยู่ 10 วัน ล่าสุดตรวจคนในกลุ่มเสี่ยง 111 คน ไม่พบเชื้อ 58 คน รอผลตรวจอีก 53 คน ผวจ.ตากสั่งทุกหน่วยคุมเข้มชายแดน อ.พบพระ หลังพบชายเมียนมาในศูนย์พักพิงฯ บ้านอุ้มเปี้ยม ป่วยโควิด-19 พร้อมเร่งสอบสวนโรค นร.หญิงไทยมาจากเมียนมาป่วยโควิด-19 เข้ารักษาตัวใน รพ.เอกชน ก่อนส่งตัวมา รพ.แม่สอด ด้านบริษัทเวชภัณฑ์ดังของสหรัฐฯ แย้มราคาวัคซีนป้องกันโควิด-19 อาจสูงถึงโดสละ 800 ถึง 1 พันกว่าบาท ทั้งที่ต้นทุนราว 320 บาท

ไทยยังคงเสี่ยงต่อการระบาดของโรคจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ในประเทศอีกแล้ว โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 11 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 คน และป่วยในประเทศ 1 คน

โดยผู้ป่วยจากต่างประเทศ แยกเป็นคนไทย 7 คน ประกอบด้วย

คนที่ 1 มาจาก ฝรั่งเศส เป็นหญิง อายุ 56 ปี พบเชื้อ มีอาการไอและมีเสมหะ รักษาตัวใน รพ.ราชวิถี

คนที่ 2 มาจากเนเธอร์แลนด์ เป็นแม่บ้านหญิง อายุ 51 ปี พบเชื้อ มีอาการปวดศีรษะ รักษาตัวใน รพ.ราชวิถี

คนที่ 3 มาจากสวิตเซอร์แลนด์เป็นแม่บ้านหญิง อายุ 63 ปี พบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวใน รพ.เอกชน

คนที่ 4 มาจากสหราชอาณาจักร เป็นหญิง อายุ 20 ปี อาชีพ รับจ้าง พบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวใน รพ.บางละมุง

คนที่ 5 และ 6 มาจากฮังการี เป็นหญิง อายุ 47 ปี อาชีพลูกจ้างร้านขนมปัง พบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวใน รพ.บางบ่อ กับพนักงานนวดหญิง อายุ 45 ปี พบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวใน รพ.บางบ่อ

คนที่ 7 มาจากเมียนมา เป็น นร.หญิง อายุ 17 ปี พบเชื้อ มีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ รักษาตัวใน รพ.แม่สอด

คนที่ 8-10 เป็นชาวต่างชาติ โดยคนที่ 8 และ 9 เป็นชาวนอร์เวย์มาจากนอร์เวย์ เป็นหญิง อายุ 77 ปี และชาย อายุ 78 ปี ทั้งสองพบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวใน รพ.เอกชน คนที่ 10 มาจากสหรัฐอเมริกา เป็นนักธุรกิจชายอเมริกัน อายุ 46 ปี พบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวใน รพ.เอกชน

คนที่ 11 เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นชายชาวเมียนมา อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง พบเชื้อ มีอาการไข้อาศัยในศูนย์พักพิงอุ้มเปี้ยม ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก และรักษาตัวใน รพ.แม่สอด ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,913 คน หายป่วยเพิ่ม 5 คน รักษาตัวอยู่ 92 คน เสียชีวิตคงที่ 60 คน

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดน จ.ตาก ว่าจากรายงานเบื้องต้นของกองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จ.พิษณุโลก (สคร.2 จ.พิษณุโลก) ซึ่งดูแลพื้นที่ จ.ตาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้าสอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม

กรณีที่ 1 ชายชาวเมียนมา อายุ 48 ปี เคยอาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก และออกจากศูนย์ได้ประมาณ 2 ปี ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยไปทำงานที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก เมื่อกลางเดือนตุลาคม ไปทำงานต่อที่ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นผู้ป่วยเดินทางกลับไป อ.วังเจ้า แต่หลงทางในป่า 10 วัน เดินไม่ไหว แต่เมื่อพบคนที่มาจากพื้นที่พักพิงฯ จึงขอให้แจ้งญาติมารับกลับ เมื่อ

วันที่ 4 พ.ย.เดินทางถึงพื้นที่พักพิงฯ โดยไม่ได้ออกไปไหนเลย ต่อมาวันที่ 11 พ.ย. เริ่มมีอาการไข้ และเมื่อวันที่ 19 พ.ย.อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่พักพิงฯ ซึ่งได้ส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากศูนย์วิจัยมาลาเรียโซโกล (SMRU) จ.ตาก

ผลพบเชื้อ จึงส่งต่อไปรักษาที่ รพ.แม่สอด และทีมสอบสวนค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 12 คน ผลตรวจ 9 คน ไม่พบเชื้อ อีก 3 คนรอผลการตรวจ ขณะนี้ทุกคนนำไปพักอยู่ที่สถานที่กักกันโรค ส่วนผลตรวจบุคคลอื่นในกลุ่มบ้านอุ้มเปี้ยม 99 คน ผลไม่พบเชื้อ 49 คน รอผลอีก 50 คน

นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า ส่วน นร.หญิงไทย อายุ 17 ปี ตามทะเบียนบ้านอยู่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 17 พ.ย.มีไข้ เจ็บคอ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.เดินทางจากเมียนมา เข้ารับการรักษาใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สอด ผลตรวจเบื้องต้นพบเป็นบวก

จึงส่งต่อมารักษาที่ รพ.แม่สอด โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี RT-PCR ยืนยันพบเชื้อโควิด-19 และภาพถ่ายรังสีปอดพบรอยโรคของปอดอักเสบ ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยได้สอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพื่อค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในกรณีนี้ต่อไป

ด้านบรรยากาศที่ อ.พบพระ จ.ตาก หลังชายชาวเมียนมา วัย 48 ปี พักอาศัยหมู่ที่ 4 โซน A ภายในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม ป่วยโรคโควิด-19 ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อช่วงเช้าที่ 22 พ.ย.

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.ตาก สั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ส่งเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอพบพระ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 เข้าวางกำลังทุกช่องทางทั้งประตูเข้าออกพื้นที่พักพิงฯ และเพิ่มการตรวจค้นบุคคลเข้าออกพื้นที่อย่างเข้มงวด

โดยไม่อนุญาต ให้บุคคลภายนอกที่ไม่มีความจำเป็นเข้าออกในพื้นที่อย่างเด็ดขาด พร้อมสั่งปิดพื้นที่ล็อกดาวน์ในโซนที่พบผู้ป่วย พร้อมระดมกำลังทีมสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่พักพิงฯ เร่งสอบสวนโรคพร้อมนำตัวผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 10 รายไปกักตัวในพื้นที่ปลอดภัย

ส่วนพื้นที่ล่อแหลม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองร้อย อส.อำเภอพบพระและทหาร ได้เพิ่มการออกตรวจลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าออกพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าภูเขา โดยปัจจุบันพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยมแห่งนี้ มีผู้หนีภัยจากการสู้รบอาศัยรวมกันโดยแบ่งเป็นโซนหมู่บ้าน รวมกันมากกว่า 1 หมื่นคน

WM
ภาพจาก pixabay

สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในต่างแดน ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มเป็น 58.5 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 1.38 ล้านคน

สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อรวมขยับเป็น 12.4 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 262,000 คน

ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อในวันเดียว 17,881 คน เสียชีวิตในวันเดียว 276 คน ยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 2.12 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 48,500 คน

รัสเซียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติ 24,822 คน ยอดติดเชื้อรวมกลายเป็น 2.06 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 35,700 คน

เกาหลีใต้ พบผู้ติดเชื้อในวันเดียว 330 คน ถือเป็นยอดติดเชื้อมากกว่า 300 คน 5 วันติดต่อกัน ขณะที่ญี่ปุ่น พบผู้ติดเชื้อในวันเดียวทำสถิติ 2,508 คน และถือเป็นการติดเชื้อทำลายสถิติ 4 วันติดต่อกัน

วันเดียวกัน องค์การอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติการใช้ยาต้านไวรัสของบริษัทเวชภัณฑ์ “รีเจเนอรอน” ของสหรัฐฯ ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยได้รับยาชนิดนี้ในช่วงติดเชื้อโควิด-19 โดยอนุญาตเพิ่มเติมให้แพทย์จ่ายยาตัวนี้ให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด

จากปกติจะให้ใช้ยานี้กับผู้ติดเชื้อที่ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ เอฟดีเอยังเปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้รับพบว่ายาดังกล่าวจะทำให้ไวรัสโควิด-19 รุกรานเซลล์ร่างกายมนุษย์ได้ยากมากขึ้น ทั้งช่วยให้ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น

ขณะที่นายสเตฟาน บันเซล ประธานกรรมการบริษัทเวชภัณฑ์โมเดอร์นา ของสหรัฐฯ ผู้พัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ผลการทดสอบเฟสสามระบุว่า มีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสได้ 95 เปอร์เซ็นต์

ราคาจำหน่ายวัคซีนดังกล่าวจะอยู่ที่โดสละ 25-37 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 800-1,184 บาท

ขึ้นอยู่กับยอดการสั่งซื้อ ส่วนต้นทุนของวัคซีนจะพอๆ กับยาไข้หวัดใหญ่ อยู่ที่ประมาณโดสละ 10 ดอลลาร์ หรือราว 320 บาท

พร้อมยืนยันว่ายังไม่มีการลงนามใดๆ กับสหภาพยุโรป หลังมีข่าวว่ารัฐบาลยุโรปพยายามต่อรองราคาวัคซีนต่อโดสให้ต่ำกว่า 25 ดอลลาร์ หรือให้ต่ำกว่า 800 บาท

ข่าวความเคลื่อนไหว , ท้องถิ่นทั่วไทย , ข่าวต่างประเทศ, รัฐบาล , องค์การบริหารส่วนตำบล , อบต. , เทศบาล , เทศบาลเมือง , เทศบาลนคร , ทต. , องค์การบริหารส่วนจังหวัด , อบจ. , ข่าวรอบโลก , ข่าวการเมือง , ข่าวเศรษฐกิจ , ข่าวท่องเที่ยว ความร้อนแรงในประเดนต่าง ๆ ข่าวด่วน กระแสข่าว ข่าวชาวบ้าน ที่ได้รับความสนใจ ได้ที่ doodido

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์