คุณแม่ควรทำอย่างไร? เมื่อลูกน้อยของคุณมี “อาการแพ้ไข่”

WM

การแพ้ไข่ในเด็ก เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อไข่ผ่านกลไกทางภูมิคุ้มกันของร่างกาย

การแพ้อาหารในเด็กนั้น ถือเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก เพราะหากลูกของคุณมีอาการแพ้ ก็จะทำให้สุขภาพร่างกายของลูกมีปัญหา ซึ่งวันนี้เราจะมานำเสนอการแพ้อาหารที่เด็กๆ มักเป็นกันเยอะนั่นก็คือ อาการแพ้ไข่ค่ะ เป็นอาการแพ้อาหารชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ป่วยได้รับประทานไข่หรืออาหารที่มีส่วนผสมของไข่ โดยอาจทำให้เกิดลมพิษ มีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนัง บางกรณีที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงซึ่งมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

แพ้ไข่ (Eg Allergy) คืออาการแพ้อาหารชนิดหนึ่งที่คล้ายๆ กับการแพ้อาหารชนิดอื่นๆ การแพ้ไข่ในเด็กเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นหลังจากเด็กๆ ได้รับประทานไข่หรืออาหารที่มีส่วนผสมของไข่ โดยเด็กๆ ที่แพ้อาจจะแสดงอาการหลังรับประทานไข่เพียงไม่กี่นาทีจนถึงเป็นชั่วโมงได้ ซึ่งแต่ละคนก็มีความรุนแรงที่แตกต่างกันค่ะ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ไข่ในเด็กหลักๆ ก็คือ เด็กมีการแพ้อาหารอื่นๆ ทำให้เกิดอาการแพ้ไข่ได้เช่นกัน และพันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีอาการแพ้ไข่ ทำให้เด็กมีอาการแพ้ได้ถึง 40%

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/azza_hafizah-5658239/

อาการแพ้ไข่ในเด็ก
เด็กๆ ที่มีอาการแพ้ไข่มักแสดงอาการตั้งแต่อายุน้อยๆ โดยอาจจะมีอาการแพ้รุนแรงที่สุดในช่วงประมาณ 6-15 เดือน ซึ่งเด็กๆ อาจจะเกิดปฏิกิริยาของผิวหนังหลังการสัมผัส มีอาการหน้าแดง หรือเกิดลมพิษบริเวณรอบปากได้ค่ะ
– ผิวหนังบวม ลมพิษ ผื่นแดง ผิวหนังอักเสบ
– ไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
– น้ำมูกไหล ไอ จาม คัดจมูก
– ปวดท้อง ท้องเสีย
– น้ำตาไหล คันตา ตาบวม
– จะเป็นลม วิงเวียนศีรษะ
– หัวใจเต้นเร็ว อาจเป็นอันตราย
– ถึงชีวิตได้
– คลื่นไส้ อาเจียน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/hans-2/

การวินิจฉัยอาการ
คุณหมอจะประเมินโดยดูจากประวัติทางการแพทย์และหาสาเหตุด้วยวิธีต่างๆ คือ
– งดกินไข่และติดตามอาการ โดยให้พ่อแม่จดบันทึกการรับประทานอาหารของลูกในแต่ละวัน
– ทดสอบโดยให้รับประทานไข่ในปริมาณน้อย เพื่อดูปฏิกิริยา หากไม่มีอาการใดๆ คุณหมออาจให้รับประทานไข่ได้มากขึ้น แต่วิธีนี้ต้องได้รับการดูแลจากคุณหมออย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ
– ทดสอบทางผิวหนัง (Skin Prick Test: SPT) โดยคุณหมอจะนำโปรตีนจากไข่มาวางไว้ที่ผิวหนังของเด็กที่ป่วย และใช้ปลายเข็มสะกิดผิวหนัง หากเด็กคนนั้นแพ้จะมีตุ่มนูนขึ้นมาในเวลา 15 นาที นั่นเองค่ะ
– ตรวจเลือด โดยการตรวจดูแอนติบอดีในกระแสเลือด (Serum Specific IgE)

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/johnadamsj-2811970/

หากแพ้ไข่ต้องทานอะไรแทน?
– เนื้อจากสัตว์ปีก
– เนื้อปลา
– เห็ด
– ถั่วต่างๆ
– ผักผลไม้
– ตับ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/alexas_fotos-686414/

วิธีป้องกันเบื้องต้นหากรู้ว่าลูกแพ้ไข่
1. อ่านฉลากอาหารให้ละเอียดทุกครั้งว่ามีส่วนประกอบของไข่หรือไม่
2. แจ้งร้านอาหารทุกครั้งว่าเป็นโรคแพ้ไข่ เพราะห้ามปนเปื้อนหรือมีส่วนผสมเด็ดขาด
3. รับประทานอาหารอื่นๆ ทดแทนไข่ เช่น เนื้อสัตว์ ถั่ว และธัญพืชอื่นๆ
4. แจ้งคนรอบตัวให้ทราบถึงการแพ้ของลูก เช่น โรงเรียน คุณครู พี่เลี้ยง
5. หากแม่ยังให้นมลูกอยู่ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไข่ เพราะสามารถส่งต่อโปรตีนจากไข่ผ่านน้ำนมแม่ได้
6. หากมีอาการไม่รุนแรงสามารถรับประทานยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการได้
7. หากมีอาการรุนแรงต้องรีบรับยาฉีดอิพิเนฟริน และรีบไปพบคุณหมอให้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่มีลูกที่แพ้ไข่ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความถี่ในการเข้ารับการตรวจอาการแพ้ไข่อยู่เสมอนะคะ ถึงแม้ว่าการแพ้ไข่จะรุนแรงถึงขั้นอาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติก่อนเข้าสู่วัยรุ่นค่ะ DooDiDo คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกทานอาหารที่มีโปรตีนเพื่อทดแทนจากการที่ทานไข่ไม่ได้ด้วยนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.parentsone.com