Samsung Galaxy S10 และ Samsung Galaxy S10+

s10 s10plus

ภาพจาก : twitter.com brand : samsung

Galaxy S10 และ S10+ สมาร์ทโฟนความบางที่ไร้ขอบ

โทรศัพท์รุ่นไม่ใหม่แต่เจ๋งแจ๋วที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ในรุ่นนี้จะมีอยู่ทั้งหมดสองแบบคือ Samsung Galaxy S10 และ Samsung Galaxy S10+ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในบางฟังก์ชั่น ซึ่งในบทความครั้งนี้ Doodido ก็จะมาบอกถึงฟังก์ชั่นที่น่าสนใจของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น

ความโดดเด่นสะดุดตาของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือหน้าจอที่กว้างใหญ่และเต็มตาที่มาพร้อมกับขอบด้านข้างที่หายไปมาก แต่เวลามองผ่านๆจะมีลักษณะคล้ายๆกับ Galaxy S รุ่นก่อนๆ หน้าจอของตัวเครื่องเป็น Infinity O เป็นหน้าจอชนิดใหม่ที่ทาง Samsung ใส่เข้าไปและจอ Super AMOLED เจาะรูสำหรับตัวกล้องหน้าที่มีอยู่สองเลนส์ มันจะเหมือนกับมีก้อนอะไรซักอย่างมาบังบนจออยู่สองอันในขณะที่ด้านข้างด้านล่างเป็นจอหมดเลย บางคนดุแล้วอาจจะขัดหูขัดตาไปบ้าง

จุดเด่นของหน้าจอจะเป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED คือแสง สีมันดูแล้วจะเนียนตาทำให้ดูหน้าจอแล้วรู้สึกละมุนมากเหมือนมองด้วยตาเปล่าเป็นสีที่สมจริงมากที่สุด เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่รองรับการแสดงผลด้วย HDR10+ ความสว่างของจออยู่ที่ 800 nits และระบบความชาญฉลาดของ AI ที่จะช่วยลดแสงสีฟ้าไปได้ถึง 42 % เมื่อลดแล้วจะไม่ทำให้จอเหลืองแต่ยังคงความเป็นจอที่มีสีสมจริงมากที่สุดอยู่

การออกแบบตัวเครื่องมีการใช้งานขอบจอน้อยที่สุดจึงทำให้สามารถลดขนาดของตัวเครื่องลงได้จึงมีความหนาเพียงแค่ 7.8 มิลลิเมตรและน้ำหนักเบากว่าเครื่องเดิมๆรุ่นก่อนๆหน้านี้เช่น Galaxy Note 8, Note 9 หรือรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S9+

ในรุ่นนี้ทาง Samsung ได้พัฒนาให้มีรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีซึ่งนั่นก็คือ Galaxy S10 และ S10+ โดยถูกพัฒนาเครื่องใหม่ทั้งหมดให้มีความสมกับเป็นเครื่องที่เขาชูให้เป็นเครื่องแห่งทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก หน้าจอแสดงผล หน่วยประมวลผล

ความสามารถของกล้องถ่ายภาพทั้งกล้องด้านหน้าและกล้องด้านหลัง หรือไม่ก็ตัวแบตเตอรี่ที่พัฒนา หน่วยจำก็ยังได้รับการพัฒนา รวมไปถึงระบบ AI อีกด้วย การพัฒนาของเครื่องไม่ได้มีเพียงเท่านี้ยังคงมีการพัฒนาในส่วนอื่นอีกมากมาย ทาง Samsung ได้ใส่ใจรายละเอียดหลายๆอย่างมากมายและพัฒนาเพิ่มเติมอีกมากมาย การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของเครื่องจะมีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปจาก S9 กับ S9+ อย่างเห็นได้ชัดโดยการเปลี่ยนมาใช้งานหน้าจอแบบ Infinity-O และอย่างที่ได้กล่าวไว้คือมีการเจาะรูบนมุมขวาบนของหน้าจอเพื่อเป็นตัวกล้องหน้า แต่กล้องหน้าใน S10 จะมีกล้องสำหรับ Selfie เพียงกล้องเดียว แต่สำหรับกล้องของ S10+ จะมีสองกล้องคือกล้องแรกเป็นกล้อง Selfie และกล้องที่สองคือกล้อง RGB Depth หน้าจอของ Galaxy S10 กับ S10+ เป็นหน้าจอแบบกระจกนิรภัยแบบใหม่ล่าสุดของเจ้าดังอย่าง Gorilla Glass 6

samsung
ภาพจาก : twitter.com
brand : samsung

ลักษณะของขอบจอที่อยู่ด้านบนกับด้านล่างจะเห็นได้ว่ามีขอบที่บางกว่าเดิมน้อยกว่าเดิมทำให้หน้าจอดูกว้างกว่าเดิมด้วย ขนาดของหน้าจอ Galaxy S10 จะอยู่ที่ 6.1 นิ้วแต่สำหรับหน้าจอของ S10+ จะมีขนาดอยู่ที่ 6.4 นิ้ว ด้านหลังของเครื่องจะพบกับกล้องหลังสำหรับถ่ายภาพก็จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไป คือมีการเพิ่มกล้องเป็นสามตัวหรือ Triple Camera และจัดวางกล้องในแบบแนวนอน

ขนาดความละเอียดของหน้าจอจะเป็น Quad HD+ (3040×1440) เลยตัวแสดงหน้าจอจะมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ตรงกลาง ด้านล่างของหน้าจอแสดงผลจะไร้ปุ่มกดไปเลยแต่ปุ่มสำหรับการใช้งานจะเข้าไปอยู่ด้านในระบบแทน ความหน้าของตัวเครื่องกับหน้าจอบอกเลยว่าบางมากๆ ทำให้หน้าจอยิ่งดูกว้างมากกว่าเดิม

ปุ่มสำหรับเปิด-ปิดของเครื่องจะอยู่ที่ด้านข้างของตัวเครื่องทางด้านขวา ส่วนอีกด้านหนึ่งก็คือปุ่มเพิ่มเสียงและลดเสียงอีกสองปุ่มและอีกหนึ่งปุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่อง Galaxy S10 และ Samsung Galaxy S10+ คือปุ่มที่จะใช้เรียกผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ได้

เครื่องรุ่นนี้สามารถที่จะใส่ซิมการ์ดโดยเป็นถาดแบบ Hybrid ซึ่งมีการรองรับซิมแบบ nano สองช่องหรือสองซิมและสามารถใส่เป็น MicroSD Card เพื่อเพิ่มความจุให้กับตัวเครื่องแทนก็ได้ ซึ่งเครื่องนี้สามารถรองรับความจุได้สูงสุดถึง 512 GB

ตัวเครื่องยังมีไมโครโฟนที่สามารถที่จะตัดสัญญาณรบกวนของการใช้เสียงได้ ไม่พอที่ด้านใต้ของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB Type-C ที่ใช้สำหรับชาร์ตแบตเตอรี่ให้เข้าสู่ตัวเครื่องและอีกหนึ่งรูที่เป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร รูต่อมาเล็กๆเป็นรูไมโครโฟนอีกอันนึง และถัดมาก็เป็นช่องของลำโพง

เป็นอย่างไรบ้างกับความสามารถของตัว Galaxy S10 และ Samsung Galaxy S10+ มีความน่าตื่นตาตื่นใจมากพอหรือไม่ ทั้งนี้ทาง SA Game ก็อยากให้ทุกท่านได้ลองพิจารณาก่อนการจะซื้อเครื่องใหม่ว่าเพมาะสมกับตัวเองหรือไม่ด้วยนะ

 

แหล่งที่มา : whatphone.net / droidsans.com / news.siamphone.com / thaimobilecenter.com