Mazda เผยโฉม Sleek Vision Study Coupe 2030 อนาคตรถไฟฟ้า

ยานยนต์

ในโลกของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิม Mazda เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมมาอย่างยาวนาน

แบรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมจากการออกแบบเครื่องยนต์โรตารีแบบไม่มีลูกสูบที่มีรอบสูงเมื่อหลายสิบปีก่อน และใช้จนประสบความสำเร็จอย่างมากในรถสปอร์ต Mazda RX-7 และ Mazda RX-8 แบรนด์นี้ยังรับผิดชอบMiataซึ่งเป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่ได้รับความนิยมและเป็นที่นิยมมากที่สุดตลอดกาล อย่างไรก็ตาม ในแนวใหม่ของ EVs นั้น Mazda ยังตามหลังอยู่ จนถึงตอนนี้MX-30 รถยนต์ไฟฟ้าที่มีจำหน่ายเฉพาะของแบรนด์นี้

จำกัดให้เฉพาะผู้ซื้อในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น และมีระยะทางประมาณ 100 ไมล์เท่านั้น ซึ่งตามหลังรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มันไม่ได้ช่วยให้เว็บไซต์ของ Mazda เองระบุว่า MX-30 ขายหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการแถลงข่าวของ Mazda แบรนด์ที่มีเรื่องราวนี้ต้องการใช้แผนการใช้พลังงานไฟฟ้าในระดับสูง นอกจากแผนเกมใหม่ที่นำไปสู่ปี 2030 แล้ว Mazda ยังแสดง Vision Study Model ใหม่อีกด้วยแม้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับ Vision Study Model coupe จะไม่ค่อยชัดเจน แต่การนำเสนอของ Mazda แสดงให้เห็นว่าเป็นรถคูเป้ที่มีความคล่องตัวที่ประดับประดาด้วยไฟนีออนสีแห่งอนาคต จากข้อมูลของMotor1รถเป็นเพียง “Vision Study Model”

WM
ภาพจาก www.slashgear.com

และจนถึงตอนนี้ Mazda ยังไม่ได้ประกาศว่ารถจะเป็นรุ่นใดMotor1 ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าVision Study coupe รุ่นก่อนหน้าของ Mazda ย้อนกลับไปในปี 2017ไม่เคยเป็นรุ่นที่เต็มเปี่ยมและยังคงเป็นแนวคิดที่ทุกคนโหยหา รถคันนั้นถูกนำมาใช้เพื่อแจ้งการตัดสินใจในการออกแบบสำหรับ Mazda รุ่นต่อไปVision Coupe อาจเป็นรสชาติของ Miata ใหม่หรืออย่างอื่นโดยสิ้นเชิง แต่เนื่องจากวิดีโอความยาว 35 นาที

ก่อนหน้าที่มีการนำเสนอสั้น ๆ นั้นเกี่ยวกับแผนการในอนาคตของ Mazda จึงน่าจะนำเสนอความสามารถ EV เป็นอย่างน้อย ณ ตอนนี้ Mazda ยังไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธแผนการใด ๆ กับรถต้นแบบ ไม่ว่า Vision Coupe จะเป็นอย่างไร มาสด้ากำลังอุทิศตน

Mazda
ภาพจาก www.slashgear.com

เพื่ออนาคตแห่งพลังงานไฟฟ้า DooDiDo เนื่องจากแบรนด์ได้ประกาศความร่วมมือใหม่กับผู้ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าและอินเวอร์เตอร์เพื่อเริ่มต้นแผนการในอนาคต ตามข่าวประชาสัมพันธ์ Mazda Motor Corporation กำลังวางแผนที่จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2573

แหล่งที่มา : SLASHGEAR