LIFE STYLE คนเมืองแตกต่างจากคนที่อยู่ต่างจังหวัดอย่างไรบ้าง?
ลีลาชีวิตของคนเมืองนั้นต่างจากลีลาชีวิตของคนชายขอบหรืออย่างไร?
สำหรับลีลาชีวิต หรือ ไลฟ์สไตล์ อย่างที่ทราบกันดีแนวทางการใช้ชีวิตของคนเมืองและคนชายขอบนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน พื้นที่ของความเจริญในเมืองทำให้เกิดโอกาสในการทำธุรกิจที่สามารถเปิดตลอด 24 ชั่วโมงได้ แต่ในทางกลับกัน พื้นที่นอกเมืองจะไม่ค่อยใช้ชีวิตกันเต็มที่และมีช่วงเวลาที่เป็นรูปแบบชัดเจน อย่างไรก็ตาม การใช้ชีวิตที่ของคนในเมืองจะเป็นการทำงานที่ไม่ยึดติดกับช่วงเวลา สามารถที่จะเริ่มงานในช่วงสายหรือช่วงเย็นของวันและลากยาวมาจนถึงช่วงเช้าอีกวันเลยก็ว่าได้ เชื่อว่าเพื่อนๆหลายท่านคงเคยได้ยิน กรุงเพทเมืองที่ไม่เคยหลับใหล กันแน่ แต่ที่ว่าไม่หลับใหลคือแบบไหนกัน มาดูวิถีชีวิตของคนเมืองในบทความนี้กัน
‘กรุงเทพ’ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล ผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร บางชีวิตทำงานในยามราตรีและนอนเมื่อดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า บางชีวิตก็ทำงานเข้าออกตามเวลาพนักงานออฟฟิตทั่วไป ไปทำงานเช้า ตอนเย็นก็กลับบ้าน ทำให้วิธีชีวิตของคนเมืองค่อนข้างแตกต่างจากคนที่อยู่ต่างจังหวัด ทำให้เกิดธุรกิจเปิด 24 ชั่วโมงขึ้นมามายมาย
ในปัจจุบันนี้คนในเมือง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ได้เปลี่ยนเป็น ‘สังคมคนนอนดึก’ ส่งผลให้กระแส ‘24 Hours Lifestyle’เจริญเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยคำว่า ‘24 Hours Lifestyle’ คือ การใช้ชีวิตที่ไม่ได้มีรูปแบบเหมือนกันทุกคน โดยบางคนอาจเริ่มทำงานในช่วงสาย ลากยาวไปจนถึงกลางดึก หรือบางคนทำงานช่วงกลางดึก แล้วยาวไปจนถึงเช้าอีกวัน
Life Style คนเมืองสมัยใหม่ ‘24 Hours Lifestyle’ เพราะชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน…
ในปัจจุบันนี้คนเมืองรุ่นใหม่เลือกเป็น ‘Freelance’ มากขึ้น มากกว่าเป็น ‘พนักงานประจำ’ แบบแต่ก่อน ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ ‘Gig Economy’ ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานแบบว่าจ้างงานเป็นครั้งๆ ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย ‘Gig Economy’ เช่น Freelance , Part Time , Outsource ไปจนถึงคนรับจ้างงานผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น คนขับ Uber คนรับงานผ่าน Upwork เป็นต้น
โดยข้อดีของการทำงานแบบ ‘Gig Economy’ คือ เต็มไปด้วยความอิสรเสรี ตั้งแต่การเลือกรับงาน , เลือกเวลาทำงาน ซึ่งได้รับค่าตอบแทนตามจำนวนงานที่ทำ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการทำงาน จัดลำดับความสำคัญได้ตามใจ หากแต่ก็ต้องแลกมาด้วยความไม่มั่นคงจากรายได้ที่ อีกทั้งยังยังเสี่ยงต่อการถูกแย่งงาน ด้วย
โดยการเติบโตของ ‘Gig Economy’ ของคนเมืองมาจากปัจจัย 3 ประการได้แก่
- สังคมออนไลน์ เพราะทำให้คนที่ต้องการว่าจ้าง กับคนที่ต้องการงาน มาเจอกันได้ง่ายขึ้น โดยมีช่องทางออนไลน์เป็นคนกลาง อีกทั้งยังมีการก่อกำเนิดของ ‘เศรษฐกิจแบ่งปัน’ ทำให้เกิดช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย รวมทั้ง Life Style คนยุคใหม่ ที่ต้องการความเป็นอิสระ ได้ทำตามใจของตัวเอง เป็นการผสมผสานทั้งทั้งเรื่องงาน รวมเข้ากับการบริหารเวลาในชีวิต
- ระบบโครงสร้างครอบครัวไทย ที่มีการเปลี่ยนแปลงจาก ‘ครอบครัวใหญ่’กลายเป็น ‘ครอบครัวเดี่ยว’ กันมากขึ้น รวมทั้งเกิดที่อยู่อาศัยในรูปแบบ ‘Vertical Living’ มากขึ้น โดยส่วนหนึ่งมาจากการขยายตัวของ ‘คอนโดมิเนียม’ ที่เกิดขึ้นตามเส้นทาง BTS ทำให้สังคมเมืองขยายตัวออกอย่างรวดเร็ว ทำให้คนรุ่นใหม่ แยกออกมาอยู่คอนโดมิเนียมใกล้รถ BTS กันมากขึ้นเพราะเดินทางสะดวก เร็ว อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการเวลาได้ตรงเวลา
- องค์กรยุคใหม่เปิดกว้างให้พนักงานสามารถทำงานนอกออฟฟิศได้ องค์กรยุคใหม่จะมองว่าการจะทำให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือ ทำให้พวกเขา ไม่ต้องเดินทาง และมีอิสระมีความยืดหยุ่นในการทำงาน นั่นเอง
มาถึงในส่วนท้ายของบทความกันแล้วนะคะเพื่อนๆ ทุกท่าน DooDiDo มองว่ามันเป็นปรากฏการณ์ในการทำงานในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าคนที่อยู่ในพื้นที่เมืองกรุงหรือพื้นที่ที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจจะเปิดพื้นที่ และเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการทำงานได้เลือกหางานได้อย่างอิสระ ไม่ผูกติดอยู่กับการทำงานบริษัทหรือองค์กร แต่สามารถที่จะออกไปงานในพื้นที่ข้างนอกได้ อีกทั้งยังสามารถที่จะรับงานได้อย่างอิสระ หากเป็น Freelance , Part Time จะมีความคล่องตัวในการรับงานได้มากกว่าพนักงานบริษัทเป็นต้น และนี่ก็คือลีลาชีวิตของคนเมืองนั้นต่างจากคนชายขอบนั้นเองค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : www.lifestyle-forum.org