How To หากมีอาการขี้หลงลืมจนหาของไม่เจอควรทำอย่างไรดี?
“ไม่ได้ความจำสั้น ความจำเสื่อม แต่มันดันลืมนึกไม่ออกจริงๆ”
เราคิดว่าหลายๆ คนมักจะพบเจอกับปัญหานี้บ่อยๆ เพราะบางทีคุณเองก็อาจจะทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน จนบางทีสมองก็ชอบเบลอๆ ไปบ้าง จนเป็นที่มาของการทำอะไรบางอย่างหายนั้นเป็นเรื่องที่น่ารำคาญและลำบากยุ่งยาก หรืออาจทำให้ประสาทเสียไปเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอะไรที่หายไปนั่นเอง ไม่ว่าคุณจะทำกระเป๋าตังค์หรือสร้อยคอเส้นโปรดหาย สิ่งที่ควรทำคือรีบหามันในทันที การตามรอยกลับไปยังที่ที่คุณเดินผ่านมาก็จะช่วยให้รู้ได้ว่าทำหายที่ไหน แต่คุณอาจต้องดูให้ละเอียดในแต่ละที่เลยน่ะสิ ที่สำคัญคือคุณต้องใจเย็นเข้าไว้ก่อน จะได้ไม่ทำให้การหาของที่หายไปมันยุ่งยากขึ้น
“ไม่ได้ความจำสั้น ความจำเสื่อม แต่มันดันลืมนึกไม่ออกจริงๆ” ต้องเป็นทุกวันค่ะ วางปากกาไว้ตรงไหนนะ แล้วแว่นตาชั้นล่ะ หูฟัง สายชาร์ต กุญแจบ้านชั้นอยู่ไหนนน? โอ๊ย! เพลียกับเมมฯ ความจำของตัวเองมาก ขี้หลง ขี้ลืมอะไรเบอร์นี้ วางไว้ที่ไหนเป็นต้องลืมตล๊อด ตลอด ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม หาเหตุผลไม่ได้จริงๆ 55555 ไม่ต้องโทษใคร โทษตัวเองไปเถอะค่ะ ดังนั้นเพิ่มความจำด่วน!!!
ส่วน 1 ตามทางที่มา
- นึกถึงครั้งสุดท้ายที่เห็นของสิ่งนั้นอาจฟังดูธรรมดาไปหน่อย แต่ขั้นแรกในการตามหาของที่หายคือให้นึกภาพของที่สุดท้ายที่คุณยังมีของชิ้นนั้นอยู่ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ที่ที่คุณทำหายจริงๆ ก็เถอะ แต่มันอาจไปช่วยกระตุ้นให้คุณจำได้ว่าทำของหายที่ไหน
- ไม่แน่ใจว่าจะเห็นของชิ้นนั้นเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไร? ให้นึกรายชื่อของสถานที่บางแห่งที่คุณพอจะนึกออกว่ายังเห็นมันอยู่
- นึกถึงความคิดของตัวเองตอนที่เห็นของชิ้นนั้นครั้งสุดท้ายมันอาจฟังดูงี่เง่านิดหน่อย แต่การนึกถึงสิ่งที่คุณเคยคิดและรู้สึกในตอนที่คุณยังมีของนั้นอยู่ ก็อาจช่วยให้คุณตามหาร่องรอยของสิ่งของได้ คุณจะได้ดึงตัวเองกลับไปยังช่วงที่คุณยังมีของที่ต้องการหาอยู่ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้จึงสามารถใช้ช่วยหาของได้นั่นเอง
- เดินผ่านสถานที่ที่คุณเคยเดินไปก่อนจะทำของหาย เมื่อคุณจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเห็นของที่ทำหายที่ไหน ก็อาจอยากกลับไปจุดที่ตอนที่คุณยังมีของสิ่งนั้นอยู่ ถ้าคุณโชคดี ก็อาจแค่ทำหล่นและอาจไปสะดุดมันเข้าอีกครั้งตอนที่เดินผ่านก็ได้
- ถ้าคุณไม่สามารถตามรอยเดิมกลับไปยังที่ที่ก่อนทำของหายได้ ก็ให้ใช้วิธีโทรศัพท์แทน เช่น ถ้าคุณจำได้เป็นครั้งสุดท้ายว่ายังมีมือถืออยู่ที่โรงแรมตอนไปเที่ยว แต่คุณบินกลับมาที่บ้านแล้ว ก็ให้โทรหาโรงแรมหรือสนามบินเผื่อว่ามีใครเจอมันเข้า
ส่วน 2 หาอย่างมีระบบ
- ใจเย็นก่อน แน่นอนว่าคุณคงรู้สึกกระวนกระวายใจแน่ๆ ถ้าทำของสำคัญอย่างกระเป๋าตังค์หรือมือถือหายขึ้นมา แต่การหามันขณะที่รู้สึกกดดันอยู่ก็จะยิ่งทำให้ยากกว่าเดิมไปอีก ให้ผ่อนคลายอารมณ์ตัวเองก่อนที่จะเริ่มหาอะไรบางอย่าง เพื่อให้หัวโล่งๆ และนึกอะไรๆ ออก
- ทำใจให้สบายไม่ได้งั้นเหรอ? ให้ลองค่อยๆ หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ เพื่อผ่อนคลายดูนะ
- ลองนึกว่ามันควรอยู่บริเวณไหน แม้ว่าคุณจะจำไม่ได้ว่าได้เอามันกลับไปวางที่เดิมหรือไม่ ก็ให้ลองหาในที่ที่มันควรจะอยู่ตรงนั้น อย่างถ้าคุณมักจะโยนกุญแจเอาไว้ในตะกร้าใกล้กับประตู นั่นก็เป็นที่แรกที่ควรใช้เริ่มหา
- ถ้ามีที่ที่คุณมักจะเก็บของสิ่งนั้นไว้สองสามที่ ก็ให้หาทุกที่เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่พลาด
- ค่อยๆ หา อย่างใจเย็น ถ้าคุณเริ่มค้นของกระจัดกระจายด้วยความกังวลใจ มันก็จะยิ่งรก ยิ่งหาของยากขึ้นไปอีกนะ
- มันอาจฟังดูเหมือนเรื่องทั่วไป แต่ก็อย่าลืมดูกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงและกระเป๋าถือด้วยล่ะ คุณอาจใส่มันเอาไว้ก็ได้
3. ขยายขอบเขตการหาให้กว้างขึ้น ถ้าคุณทำของหายในที่ที่ปกติไม่ได้เก็บมันเอาไว้ ก็ต้องหาให้กว้างขึ้นแล้วล่ะ ลองหาให้ไกลออกไปอีกหน่อยจากจุดที่คุณเริ่มหาว่าจะเจอหรือไม่
- ถ้าคุณยังหาไม่เจอ ก็ให้หากว้างขึ้นจากนั้นอีก หาให้ไกลขึ้นเรื่อยๆ ทีละเล็กละน้อย จนกว่าจะเจอของที่หาอยู่
- ทำความสะอาดให้ทั่วบางครั้งการเพิ่มขอบเขตการหาให้กว้างขึ้นก็ไม่ช่วยให้คุณหาของเจอ น่าเสียดายที่มีอีกแค่วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้ในกรณีนี้ คือคุณต้องทำความสะอาดไงล่ะ ถ้าห้องที่ใช้หานั้นรกอยู่ ก็อาจทำของหายไปเลยได้ ให้จัดให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้มันเป็นตัวถ่วง และอาจหาของที่หายไปเจอได้ด้วยนะ
ส่วน 3 ขอความช่วยเหลือในการหาของ
- ขอให้เพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในครอบครัวช่วย บางทีคุณอาจคิดว่าตัวเองทำของหาย แต่จริงๆ แล้วอาจแค่มีคนยืมหรือย้ายที่มันก็เป็นได้ ให้ลองถามคนที่อยู่รอบๆ คุณว่าเห็นหรือรู้บ้างไหมว่ามันอยู่ไหน
- ถ้าคุณหาของไม่เจอเพราะเพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานมักจะ“ยืมไป”บ่อยๆ อย่าได้กังวลที่จะบอกให้เขามาขอคุณก่อนที่จะนำอะไรไปใช้ คุณจะได้ตามของตัวเองถูกไงล่ะ
- ไปยังศูนย์รับแจ้งของหาย ถ้าคุณทำของหายที่ร้านขายของ ร้านอาหาร หรือที่อื่นๆ ที่เป็นสาธารณะ คุณอาจโชคดีพอที่จะมีคนเจอมันได้นะ ให้ลองไปหาจุดรับแจ้งของหายแล้วถามว่ามีคนเอามาฝากคืนบ้างหรือไม่
- ถ้าของที่หายยังไม่ได้รับแจ้งที่จุดรับแจ้งของหาย ก็ให้ทิ้งช่องทางติดต่อเอาไว้ เพื่อที่เขาจะได้ติดต่อคุณได้ตอนที่มีคนเอาของมาคืนนั่นเอง
- ติดใบปลิวประกาศหาของหาย ถ้าคุณหาของไม่เจอและรู้แน่นอนว่าทำหายอยู่บริเวณไหน ก็ให้ทำใบปลิวที่มีข้อมูลสำคัญๆ อยู่ โดยบอกรายละเอียดของสิ่งของและให้ช่องทางติดต่อกลับเพื่อที่คนจะได้ติดต่อได้เมื่อพบของที่คุณหาเจอ แล้วติดใบปลิวไว้บริเวณที่ทำของหาย จากนั้นก็พนมมือขอให้โชคช่วย
- ติดใบปลิวบนเสาโทรศัพท์หรือบอร์ดประกาศที่คนจะเห็นได้เยอะๆ
- ถ้าคุณรู้สึกหมดหวังสุดๆ บางทีถ้าให้รางวัลไปด้วยก็อาจกระตุ้นให้คนอยากเอามาคืนได้
ส่วน 4 กันไม่ให้ตัวเองทำของหายอีก
- คอยมีสติอยู่เสมอในการใช้ชีวิตประจำวันคุณอาจทำของหายได้ง่ายๆ ถ้าไม่นึกถึงในสิ่งที่ตัวเองทำในวันๆ หนึ่ง ให้ตั้งสตินึกคิดมากกว่าเดิมในกิจกรรมต่างๆ ที่ทำเป็นประจำ เพื่อได้จะไม่ลืมกุญแจ กระเป๋าตังค์ หรือโทรศัพท์ในที่ที่ไม่ควรลืม
- จัดบ้านและที่ทำงานให้เป็นระเบียบ.ถ้าบ้านหรือโต๊ะทำงานของคุณรกอยู่ตลอดเวลา นั่นก็อาจทำให้คุณทำของหายได้ อย่าสุมของบนโต๊ะ โต๊ะทำงาน เคาน์เตอร์ หรือบนพื้นอื่นๆ ที่คุณอาจกองของที่คุณต้องการจนมันถูกซ่อนอยู่ในนั้นได้
- ลองนึกแบบนี้ดู ถ้าคุณวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะดื่มกาแฟที่ไม่ได้มีนิตยสารหรือหนังสือใดๆ วางทับอยู่ คุณก็ย่อมมองเห็นมันได้โดยง่ายดายใช่ไหมล่ะ
- มีจุดเก็บของที่แน่นอน หนทางที่ง่ายที่สุดในการไม่ทำของให้หาย ก็คือการมีจุดเก็บของนั้นๆ ที่แน่นอนเมื่อใช้เสร็จแล้วในแต่ละวัน แขวนกุญแจไว้บนตะขอข้างๆ ประตู ชาร์จมือถือเอาไว้กับที่ชาร์จ หรือเก็บกระเป๋าตังค์ไว้ในกระเป๋า เพื่อให้รู้อยู่เสมอว่าของชิ้นนั้นอยู่ที่ไหน
- เก็บของในที่ที่เป็นที่เฉพาะของมัน อย่างเช่น อย่าแค่แขวนร่มเอาไว้ในตะขอไหนก็ได้ของทางเดินในบ้าน แต่ให้แขวนไว้ตะขอกลางเสมอ
เคล็ดลับ
- ถ้าคุณหาในที่ที่น่าจะมีของสิ่งนั้นแล้วแต่ยังหาไม่เจออีก ก็ให้ลองหาในที่ที่มันไม่ควรอยู่ด้วย คุณอาจไม่ค่อยเอามือถือเข้าไปในห้องอาบน้ำบ่อยนัก แต่ถ้าหาที่อื่นไม่เจอ ลองมาหาตรงกระจกอ่างล้างหน้าเผื่อไว้ก็ดี
- ทำของหายตลอดเลยหรอ? ลองซื้อตัวติดตามขนาดเล็กๆ เท่าเหรียญแล้วติดไว้กับกระเป๋าตังค์ กุญแจ หรือโทรศัพท์ แล้วใช้แอพพลิเคชันในสมาร์ทโฟนหาเวลามันหายสิ
- ถ้าคุณทำของอย่างกระเป๋าตังค์หาย ก็ให้หาในที่ที่คุณเอาไว้เก็บเงิน ถ้าคุณทำโทรศัพท์หาย ก็ให้หาในที่ที่คุณใช้มันบ่อยๆ
เอาละค่ะเมื่อของหาย อาจเกิดจากการลืมว่าเอาไว้ที่ไหน หาอย่างไรก็ไม่เจอ DooDiDo ขอแนะนำว่าวิธีการคือตั้งสติ ค่อยๆ คิดย้อนไปหาจุดเริ่มต้น เรียงความคิดใหม่อีกที แล้วจะคิดออกค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : https://th.wikihow.com
