How To วิธีสอนลูกให้เข้าใจและยอมรับความผิดหวัง ควรทำอย่างไร?

WM

คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ 5 เทคนิคสอนลูกให้เข้าใจและรับมือกับ ความผิดหวัง

สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อลูกเติบโตขึ้นยังไงก็คิดว่าลูกยังเด็กในสายตาเสมอ แต่สิ่งพวกเขาต้องประสบกับเรื่องของ ความผิดหวังต่างๆ ในชีวิตนั้น ผู้เป็นพ่อแม่อาจรู้สึกทุกข์เมื่อเห็นลูกประสบกับความผิดหวัง อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้ลูกรับมือกับความผิดหวังด้วยตนเองเป็นวิธีการที่ดี เพื่อให้เขาได้เรียนรู้วิธีการกลับมายืนหยัดอีกครั้ง หน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ก็เพียงแค่คอยดูแล และคอยประคับประคอง เมื่อพวกเขาต้องการคำแนะนำ หรือต้องการความช่วยเหลือในการแก้ปัญหา

เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่มักพร่ำสอนลูกแต่วิธีและหนทางที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ แต่มักจะไม่เคยสอนลูกว่าหากระหว่างทางนั้นลูก”ผิดหวัง” เขาจะทำอย่างไรให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พญ. เบญจพร ตันตสูติ เจ้าของเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา จึงได้เขียนข้อมูลให้ความรู้เรื่องการสอนลูกเรียนรู้ความผิดหวังและจัดการอารมณ์จิตใจเพื่อให้ลูกผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไว้เป็นความรู้ดังนี้ สิ่งสำคัญของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่จะทำให้เผชิญหน้ากับความผิดหวังได้คือ พื้นฐานจิตใจที่เข้มแข็ง เหมือนต้นไม้ที่มีรากแข็งแรง พายุพัดมาก็ไหวเอนบ้าง แต่จะไม่ล้มครืนลงไปเพราะมี 10 ข้อเหล่านี้

วิธีสอนลูกให้เข้าใจและยอมรับ ความผิดหวัง ต้องทำอย่างไร

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/timkraaijvanger-426744/

1. สอนลูกถึงวิธีเลือกที่จะมีความสุข
ในบางครั้ง สิ่งต่างๆ ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ลูกต้องการเสมอไป ในฐานะพ่อแม่ ควรสอนให้ลูกรู้จักรับมือกับความผิดหวังที่เกิดขึ้น พ่อแม่ควรสอนลูกถึงทักษะใหม่ๆ เมื่อลูกไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ วิธีนี้ทำให้ลูกรู้จักรับผิดชอบกับความรู้สึกของตนเองและช่วยให้เขาเลือกที่จะมีความสุข ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกไปงานวันเกิดของเพื่อนและเขาดูเศร้าเมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณอาจถามลูกถึงงานเลี้ยงว่าลูกชอบส่วนใดมากที่สุด แทนการถามถึงสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดี สิ่งนี้จะทำให้เขามองด้านดีของสิ่งต่างๆ แทน

2. แสดงความเห็นใจกับความผิดหวังของลูก
เมื่อลูกรู้สึกเสียใจ สิ่งสำคัญคือคุณควรนั่งลงเพื่อพูดคุยกับลูก อาจเริ่มจากการแสดงความเห็นใจต่อลูก เพื่อให้ลูกทราบว่าคุณห่วงใยความรู้สึกของเขามาก คุณอาจยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความผิดหวังที่คล้ายคลึงกับสิ่งที่ลูกกำลังประสบอยู่ เพื่อให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้เผชิญกับเหตุการณ์ตามลำพัง และมองว่าความผิดหวังเป็นเรื่องปกติของชีวิต นอกจากนี้ ควรสอนลูกถึงวิธีการตอบสนองต่อความผิดพลาด และสิ่งที่ควรเรียนรู้จากประสบการณ์ครั้งนั้นด้วย

3. สอนเทคนิคการควบคุมอารมณ์ด้วยตนเองแก่ลูก
คุณอาจสอนลูกถึงวิธีการจัดการกับอารมณ์ด้วยตนเองดังต่อไปนี้

  • วิธีการเกี่ยวกับร่างกาย เช่น การหายใจเข้าลึก การวิ่ง การกระโดด สามารถช่วยให้เด็กปลดปล่อยพลังงานเมื่อเขารู้สึกผิดหวัง
  • วิธีการเกี่ยวกับการรับฟังและคำพูด เช่น การฟังเพลง หรือพูดคุยกับใครสักคนจะช่วยให้เขาสงบลง และหวนกลับมาคิดอย่างถี่ถ้วน เมื่อพวกเขาต้องการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
  • วิธีการทางการมองเห็น เช่น การออกไปข้างนอก หรือการอ่านหนังสือ จะช่วยให้ลูกมีความสงบทางใจ และให้เขามีสมาธิจดจ่อ
  • วิธีการที่สร้างสรรค์ เช่น การวาดรูป หรือทำอาหาร ถือเป็นวิธีการที่ดีเพื่อที่จะช่วยให้ลูกรู้จักทำบางสิ่งให้ผู้อื่นบ้าง และลืมความรู้สึกที่ไม่ดีไป
  • วิธีการสงบใจด้วยตนเอง เช่น การกอด การดื่มน้ำ หรือการอาบน้ำอุ่น จะช่วยให้ลูกรู้สึกสบายตัวและชะล้างอารมณ์ที่ไม่ดีออกไปได้
  • การดูภาพยนตร์หรืออ่านเรื่องตลก ก็เป็นวิธีการช่วยจัดการได้ดีอีกวิธีหนึ่ง
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/shelleywiart-13492988/

4. ช่วยลูกค้นพบตัวเอง
ลูกของคุณอาจรู้สึกผิดหวัง เมื่อพวกเขามีความมั่นใจในตัวเองน้อย หรือเมื่อถูกเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ คุณควรช่วยเขาหาสิ่งที่โดดเด่นในตัวเอง ซึ่งเด็กแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกัน ควรสนับสนุนให้ลูกทำในสิ่งที่เขาสามารถทำได้ดี เพื่อช่วยให้ลูกมีความมั่นใจในตนเองเพิ่มมากขึ้น

5. เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับจัดการกับความรู้สึกครั้งต่อไป
การสอนให้ลูกรู้จักรับมือกับความผิดหวังในสถานการณ์ในอนาคตเป็นสิ่งที่ดี คุณพ่คุณแม่ควรสนับสนุนให้ลูกพยายามทำและจัดการกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นด้วยตัวเขาเองก่อน และควรให้พวกเขารู้และมั่นใจว่า พวกเขาสามารถเข้ามาขอความช่วยเหลือจากคุณได้เสมอ

ถ้าพ่อแม่เห็นใจความเศร้า ผิดหวังของลูก พ่อแม่จะไม่พูดว่า “อะไรแค่นี้ต้องเศร้าด้วย” “เรื่องเล็กแค่นี้ร้องไห้ด้วยเหรอ” หรือ “แค่นี้ยังเศร้าถ้าเจอเรื่องหนักกว่านี้จะไหวเหรอ” สิ่งสำคัญคือต้องไม่มองความเศร้าของลูกว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ หรือเป็นเรื่องเล็กน้อย สุดท้ายคือ DooDiDo คิดว่าประสบการณ์ที่ทำผิดพลาด เรื่องเศร้า ไม่ประสบความสำเร็จ ความผิดหวังนั้นๆ ก็จะกลายเป็นอีกประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้ลูกแข็งแกร่งมากขึ้น และพร้อมที่จะพบกับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตต่อไปได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://hellokhunmor.com