Apple Watch Series 5 สมาร์ทวอซยุคใหม่

Apple Watch Series5

ภาพจาก : Apple แบรนด์ : Apple

​สมาร์ทวอซของ Apple ที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 Apple Watch Series 5

นาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Apple ที่เปิดตัวเมื่อเดือน กันยายน 2019 นี่จะเป็นรุ่นที่ 5 ที่ทำการเปิดตัวในงาน Apple Special Event, September 2019 เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่ Steve Jobs Theater ใน Apple Park เมือง ซาน โฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Doodido จะนำมาเสนอในบทความครั้งนี้

ในตัวเครื่องรุ่นที่ 5 นี้ จะมีฟีเจอร์สำคัญ และ ถือเป็นสิ่งที่น่าจับตามองของ Apple Watch Series 5 คือ การเลือกใช้หน้าจอใหม่ นั่นก็คือ LTPO และ display driver ซึ่งเป็นแบบใหม่ที่สามารถรีเฟรชหน้าจอได้ตั้งแต่ 1-60Hz การใช้หน้าจอใหม่ไม่ได้มีความสามารถเพียงเท่านี้มันยังสามารถปรับรีเฟรชหน้าจอได้ตามความเหมาะสม และยังมาพร้อมกับโหมดที่สามารถหรี่แสงหน้าจอเมื่อไม่ได้ทำการใช้งานเป็นเวลานานได้อีกด้วย แต่ตัวเครื่องไม่ได้ทำการดับจอแต่อย่างใด ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ตัวหน้าจอนาฬิกา Apple Watch ติไฟสว่างอยู่ได้ตลอดเวลาโดยที่จะมีระยะเวลาการใช้งานได้ตลอดทั้งวันอยู่ที่ 18 ชั่วโมงเหมือนกับตัวรุ่นอื่น ๆ

จุดประสงค์หลักของการพัฒนาตัว Apple Watch ขึ้นมานั้น มีอยู่สามอย่างหลัก ๆ คือ Connectivity การเชื่อมต่อตลอดเวลา Activity การทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คนหันมาทำกิจกรรม พร้อมกับการดูแลสุขภาพ และ ออกกำลังมากยิ่งขึ้น

โดย Apple ได้ออกแบบแอปสำหรับการออกกำลังกาย รวมทั้งแอปจากนักพัฒนารายอื่น ๆ, การติดตามกิจกรรมไม่ว่าจะเป็น การเดิน, การยืน, การหายใจ ฯลฯ และ สุดท้าย คือ Health ที่จะคอยเจาะจงไปที่การรักษาสุขภาพของผู้ใช้งาน

ไม่ว่าจะเป็นการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ, การตรวจจับความผิดปกติของคลื่นหัวใจ (ECG), การตรวจจับการล้ม, การแจ้งเตือนในเรื่องความดังของเสียง, การติดตามรอบของประจำเดือน ฯลฯ ในอนาคต Apple อาจจะมีการพัฒนาฟังก์ชั่น หรือ ระบบที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตามความสามารถของ Apple Watch 5 นี้ไม่ได้มีเพียงแค่ 3 อย่างหลัก ๆ แต่เพียงเท่านี้ ความสามารถของมันยังคงมีอีกมากมาย เช่น การที่ Apple เลือกใส่เข็มทิศลงมาใน Apple Watch เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับแผนที่นำทาง หรือ ไม่ว่าจะเป็นแอปดูดาวก็ตาม ซึ่งความสามารถในการดูทิศทางก็ไม่ได้ต่างไปจากใน iPhone เลย

Apple ยังคงไม่ละเลยการใส่ฟังก์ชั่นหลักที่มีมาแต่เดิมนั่นก็คือ ความสามารถในการโทรศัพท์เพื่อติดต่อในกรณีฉุกเฉินอยู่แล้ว แต่ด้วยฟีเจอร์ใหม่ International Emergency Calling ทำให้ตัว Apple Watch สามารถใช้ระบบโทรศัพท์ฉุกเฉินได้ทั่วโลก

ซึ่งทาง Apple ออกมาการันตีว่าสามารถใช้งานได้ถึง 150 ประเทศ ถึงแม้ว่าตัว iPhone จะไม่ได้อยู่ติดกับตัวเจ้าของเองก็ตาม

ระบบปฏิบัติการของ Apple Watch รุ่นที่ 5 นี้มีชื่อเรียกว่า watchOS 6 ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแอพที่มาจากผู้พัฒนาอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น แอป Noise ที่สามารถตรวจวัดค่าความดังของเสียงที่อยู่รอบตัวเครื่องว่ามีความเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานหรือไม่ และ ทำการเก็บสถิติการฟังเสียงของผู้ใช้งานด้วย

อีกหนึ่งแอปที่มีความน่าสนใจ และ บอกได้เลยว่ามันเกิดมาเพื่อเหล่าผู้หญิงเลยล่ะนั่นก็คือ แอปสำหรับติดตามประจำเดือนที่ทำขึ้นมาเพื่อสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นการลงบันทึกการเกิดประจำเดือน และ ยังสามารถวิเคราะห์ได้อีกด้วยว่าประจำเดือนในรอบหน้าจะมาเมื่อไหร่ ปกติ หรือ ไม่ปกติ

ประสิทธิภาพของแบตเตอร์รี่นั้นจะมีการเพิ่มจากรุ่นที่ 4 มาเพียงแค่ 1.4% เท่านั้น แต่หากได้ทดลองใช้จริงแล้วล่ะก็อาจจะไม่ได้พบความแตกต่างของการใช้งานได้นานเลยก็ว่าได้

โดยการใช้งานทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2 วันหากไม่ได้ใช้ในการออกกำลังกาย ถึงแม้ว่ารุ่นที่ 5 นี้จะทำการเปิดหน้าจอไว้เสมอก็ตาม ความสามารถในการประมวลผลจะมาพร้อมกับชิป S5 อันใหม่ที่มีความจุเป็น 32GB ในขณะที่รุ่นที่ 4 มีเพียงแค่ 16GB เท่านั้น ในตัวของ CPU และ GPU จะเป็นตัวเดิมที่ใช้งานใน Apple Watch Series 4 ซึ่งมีความลื่นไหลดีอยู่พอสมควรแล้ว

ตัวเรือนของ Apple Watch Series 5 นี้จะมีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน และ ความแตกต่างของแต่ละรุ่นจะอยู่ที่วัสดุอุปกรณ์ โดยทั้ง 4 รุ่นนี้จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน ได้แก่ Apple Watch ตัวเรือนมี 2 ชนิด คือ อะลูมิเนียมและสแตนเลสสตีล, มีให้เลือกทั้งรุ่น GPS อย่างเดียว และ GPS + Cellular, Apple Watch Nike ตัวเรือนมีชนิดเดียว คือ อะลูมิเนียม, มีให้เลือกทั้งรุ่น GPS อย่างเดียวและ GPS + Cellular, Apple Watch Edition ตัวเรือนมี 2 ชนิด คือ ไทเทเนียม และ เซรามิกและจะมีเฉพาะรุ่น GPS + Cellular สุดท้ายจะเป็น Apple Watch Hermès ตัวเรือนแบบเดียว คือ สแตนเลสสตีลและใช้สายหนังแท้ของ Hermès และมีเฉพาะรุ่น GPS + Cellular เท่านั้น

gadget
ภาพจาก : Apple
แบรนด์ : Apple

SA Game ขอบอกว่าราคาของตัวสมาร์ทวอซรุ่นที่ 5 นี้จะเริ่มต้นที่ 13,400 บาท ไปจนถึง 40,900 บาท ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ โดยในประเทศสามารถหาซื้อได้ที่ Apple Watch Studio หรือ จะสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บของ Apple Store Online ก็สามารถทำได้เช่นกัน

 

แหล่งที่มา : macthai.com / iphonemod.net