9 สัญญาณของการตั้งครรภ์ และอาการของคนท้องไตรมาสแรก

WM

วิธีสังเกตอาการคนท้องมาฝากว่าที่แม่ๆ ให้ลองไปสังเกตตัวเองกัน

ถึงแม้ว่าการทดสอบการตั้งครรภ์และการอัลตราซาวนด์จะเป็นวิธีที่ทำให้เรารู้ได้ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ แต่อย่างไรเราก็ควรที่จะต้องคอยสังเกตอาการหรือสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ให้ดีค่ะ ซึ่งสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าเรากำลังตั้งครรภ์ และเป็นอาการที่บอกว่าเราคือว่าที่คุณแม่คนต่อไป มีดังนี้

สาวๆ ที่กำลังลุ้นว่าเบบี๋จะมาเมื่อไหร่ คงกำลังใจจดใจจ่อกับการนับประจำเดือนว่าจะมาหรือจะขาด เพราะอาการขาดประจำเดือนนั้นมักเป็นอาการแรกๆ ที่บ่งบอกถึงว่าเรากำลังตั้งครรภ์ แต่นอกเหนือจากการที่ประจำเดือนขาด ว่าที่คุณแม่ยังต้องเผชิญกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้อีก บางอาการก็เกิดขึ้นกับบางคน วันนี้เรามีวิธีสังเกต อาการคนท้อง มาฝากว่าที่แม่ๆ ให้ลองไปสังเกตสังเกตตัวเองกันดูค่ะว่าตั้งครรภ์แล้วรึยัง เพื่อที่จะได้เตรียมดูแลตัวเองและลูกน้อยให้แข็งแรงตั้งแต่เนิ่นๆ ค่ะ

 9 อาการของคนท้องไตรมาสแรก

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@seralexphoto
  1. มีเลือดออกกะปริบกะปรอย 

     ในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์อาจมีเลือดออกจากช่องคลอด คล้ายกับเวลาใกล้หมดประจำเดือน สาเหตุเกิดจากการปฏิสนธิ โดยสีของเลือดที่ออกอาจจะมีสีสีชมพู สีแดง หรือสีน้ำตาล รวมถึงอาจมีอาการปวดท้องแต่จะไม่มากไปกว่าการปวดตอนมีรอบเดือนปกติค่ะ

  1. อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น

     อาจมีอาการเหมือนคล้ายจะเป็นไข้ โดยจะมีอาการรู้สึกตัวร้อนรุม ๆ ซึ่งอาการนี้มีสาเหตุจากร่างกายมีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น

  1. คลื่นไส้ อาเจียน 

     อาการคลื่นไส้และอาเจียนมักเกิดขึ้นภายใน 1 เดือนแรก อาการนี้เป็นอาการแพ้ท้องที่พบได้บ่อยเกือบร้อยละ 50 แต่ในบางรายก็พบอาการนี้หลังจากตั้งครรภ์แล้ว 3 – 4 เดือน หรือในบางรายอาจไม่มีอาการดังกล่าว

  1. อ่อนเพลียระหว่างตั้งครรภ์

     อาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดระยะเวลาของการตั้งครรภ์ แต่อาการนี้ก็พบได้บ่อยในการตั้งครรภ์ระยะแรก โดยเกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้น ทำให้เรารู้สึกง่วงและอ่อนเพลีย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/klaushausmann-1332067/
  1. เต้านมมีการเปลี่ยนแปลง 

     คุณแม่อาจรู้สึกคัดตึงเต้านมคล้าย ๆ ช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือน หรืออาจรู้สึกเสียวจี๊ด ๆ บริเวณหัวนม เต้านมมีอาการบวมเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเต้านมนี้อาจเกิดขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่ 4 ถึง 6 หรือหลังจากที่ประจำเดือนเริ่มขาดไปประมาณ 1 สัปดาห์

  1. อารมณ์แปรปรวน

     ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนของคุณแม่จะสูงในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งการเปลี่ยนของฮอร์โมนนี้อาจส่งผลต่ออารมณ์และทำให้คุณแม่มีอารมณ์หรือมีปฏิกิริยามากกว่าปกติ อารมณ์แปรปรวนมากขึ้นทั้งซึมเศร้า หงุดหงิด วิตกกังวล รวมไปถึงอารมณ์ด้านดีก็อาจจะมีมากขึ้นด้วยค่ะ

  1. กลั้นปัสสาวะไม่อยู่

     ในระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายจะเพิ่มปริมาณเลือดที่สูบฉีดให้มากขึ้น ส่งผลทำให้ไตขับของเหลวออกมามากกว่าปกติ และจะทำให้มีของเหลวในกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น ส่งผลให้คุณแม่ปัสาวะมากและอาจกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้

  1. ท้องอืดและท้องผูก

     อาการท้องอืดอาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับอาการของรอบเดือน โดยเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ระบบย่อยอาหารของคุณแม่ช้าลงจนอาจรู้สึกท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องผูกและขับถ่ายลำบากได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/leohoho-16235524/
  1. ไวต่อกลิ่น

     คุณแม่อาจรู้สึกจมูกไวมากขึ้น โดยอาจจะรับรู้กลิ่นได้ไวกว่าคนทั่วไปหรือในบางครั้งคุณแม่อาจรู้สึกว่ามีกลิ่นตัว ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเอนโตรเจนที่เพิ่มขึ้น

สำหรับว่าที่คุณแม่มือใหม่ เตรียมดูแลตัวเองถือเป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพราะหากคุณแม่แข็งแรงแล้ว เบบี๋ตัวน้อยในครรภ์ของเราก็จะแข็งแรงตามไปด้วย หากว่าที่คุณแม่ลองเช็คทั้ง 9 อาการคนท้อง ที่เรา DooDiDo รวบรวมมาให้แล้วยังไม่มั่นใจว่าจะท้องจริงหรือเปล่า ลองหาซื้อที่ตรวจครรภ์หรือถ้าอยากจะให้ชัวร์ก็สามารถเข้าไปปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการตรวจให้เรียบร้อยไปเลยจะดีกว่าค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://women.trueid.net