8 อาการผิดปกติที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที!!

WM

สัญญาณเตือนภาวะอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในหญิงตั้งครรภ์

ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมาได้ ซึ่งอาการแพ้ท้องที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงมาก แต่ถ้าหากคุณแม่มีอาการแปลก ๆ ที่อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้ทัน และรีบไปพบแพทย์ให้ทันเวลาค่ะ

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงเวลาตั้งครรภ์ร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างจนอาจทำให้เกิดความวิตกกังวัล ถึงความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์ได้วันนี้เรามีคำแนะนำสำหรับคุณแม่เพื่อสังเกตความผิดปกติในระหว่างตั้งครรภ์กับ 8 สัญญาณอันตรายที่คุณแม่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที หากละเลยอาจเป้นอันตรายกับคุณแม่และลูกน้อยไนครรภ์ได้ค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: http://www.bundoo.com/

1. อาการแพ้ท้องรุนแรง
การแพ้ท้องเป็นเรื่องธรรมชาติ โดยอาการแพ้ท้อง อาจแสดงออกมาในหลายรูปแบบ เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน อยากทานอาหารบางชนิดเช่น ของเปรี้ยว อยากทานสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร เหม็นง่าย เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามการแพ้ท้องที่ทำให้รับประทานอาหารไม่ได้ น้ำหนักลดลงมาก เป็นสิ่งที่มีผลต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์ อีกทั้งยังเป็นอาจเป็นอาการแสดงถึงการตั้งครรภ์ที่ไม่ปกติ เช่น ครรภ์ไข่ปลาอุก ครรภ์แฝดได้ จึงความพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และรับยาบรรเทาอาการ (ในบางรายอาจ พิจารณาให้สารน้ำทางหลอดเลือด )

2. เลือดออกจากช่องคลอด
ในไตรมาสแรกเลือดออกจากช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่สำคัญคือเรื่องของภาวะแท้งบุตร และท้องนอกมดลูก หากมีอาการควรพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ และยืนยันสภาวะของทารกในครรภ์
ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ3 ภาวะเลือดออกทางช่องคลอด อาจเกิดจาก รกเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนด เป็นต้น ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายเป็นอย่างมาก ทั้งตัวคุณแม่และทารกในครรภ์ อีกทั้งยังอาจเป็นหนึ่งในอาการเตือนของการคลอดบุตร อีกด้วย

3. อาการปวดท้องน้อย
การปวดท้องน้อยในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ สามารถพบได้เนื่องจากการขยายตัวของมดลูก แต่อย่างไรก็ตามมักไม่ปวดมาก พักหรือเปลี่ยนอิริยาบถ ควรจะทุเลาอาการ หากมีอาการปวดมาก ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/guvo59-9285194/

4. มีไข้สูง
คุณแม่ที่มีไข้สูง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของไข้ ว่ามีการติดเชื้อใด ที่ระบบใด และรับการรักษาอย่างถูกต้อง ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เนื่องจากมียาหลายชนิดที่ไม่สามารถใช้ได้ขณะตั้งครรภ์ การติดเชื้อบางชนิดอาการก่อให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ และการติดเชื้อในบางระบบเช่น ทางเดินปัสสาวะอาจเป็นสาเหตุของการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ เป็นต้น

5. ลูกดิ้นน้อยลง หรือไม่ดิ้น
การนับลูกดิ้นหลังอายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถสังเกตความผิดปกติได้ด้วยตัวเองขณะอยู่บ้าน โดยการนับลูกดิ้นมีหลายแบบแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน โดยคุณแม่มักได้รับคำแนะการนับลูกดิ้นจากแพทย์ที่ได้ทำการฝากครรภ์ หากพบว่าทารกมีการดิ้นลดลง หรือ ไม่ดิ้น ควรรีบพบแพทย์เนื่องจาก อาจเกิดการเสียชีวิตในครรภ์ได้

6. อาการเจ็บครรภ์คลอด
การเจ็บครรภ์คลอด (true labor pain) มักจะมีอาการท้องแข็ง มดลูกหดรัดตัว ปวดร้าวไปที่หลังหรือหน่วงลงช่องคลอดทวารหนัก มีอาการเจ็บสม่ำเสมอ มีความถี่และความแรงของการหดรัดตัวของมดลูกมากขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนอิริยาบถหรือพักไม่ดีขึ้น หากมีอาการดังกล่าวก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ จะมีความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดได้

7. น้ำเดิน หรือถุงน้ำคร่ำแตก
จะมีน้ำใสๆไหลออกจากช่องคลอด คล้ายปัสสาวะราดแต่กลั้นไม่ได้ โดยมักจะออกมาเรื่อยๆ โดยปริมาณอาจไม่แน่นอน อาการของน้ำเดินเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการคลอดบุตร จึงควรมารพ.ทันทีเพื่อเตรียมตัวคลอด

8.ตัวบวม น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว จุกแน่นลิ้นปี ตาพร่ามัว ปวดศีรษะมาก
อาการดังกล่าวเป็นอาการของภาวะครรภ์เป็นพิษ (Pre-ecclampsia) ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายมากต่อทั้งแม่และเด็ก โดยหากมีอาการดังกล่าวหรือสงสัยให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/bokskapet-7322944/

อาการผิดปกติอื่น ที่ควรแจ้งให้แพทย์ที่ฝากครรภ์ทราบเพื่อทำการรักษาได้ทันท่วงที
– ปัสสาวะแสบขัด ไม่สุด ปวดท้องน้อยเวลาปัสสาวะ
– ตกขาวมีกลิ่น หรือสีที่ผิดปกติ
– มีอาการคันช่องคลอด
– นอนไม่หลับ
– ท้องผูก หรือถ่ายปนเลือด
– ปวดหลังมาก
– เป็นตะคริว
– มีอาการชาปลายมือปลายเท้า
– จุกแสบลิ้นปี่ หรือมีอาการแสบร้อนที่อกหรือลำคอหลังรับประทานอาการหรือเวลานอน

ทั้งหมดที่ DooDiDo นำมาฝากนี้คืออาการที่เป็นสัญญาณอันตรายขณะตั้งครรภ์ที่คุณแม่ต้องระวังค่ะ คุณแม่ต้องคอยหมั่นสังเกตอาการเหล่านี้ดูนะคะ หากมีอาการไหนที่รู้สึกว่าผิดปกติ ให้คุณแม่รีบไปพบแพทย์ทันที อย่าละเลยเด็ดขาดนะคะ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.bccgroup-thailand.com