8 สัญญาณที่บอกว่าคุณอาจเป็นเนื้องอกในมดลูกได้!!

เนื้องอกในมดลูก คือก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อที่ปูดนูนขึ้นในโพรงมดลูก

หลังจากที่คุณแม่ผ่านการตั้งครรภ์มาแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำก็คือ การตรวจเช็คร่างกายหลังคลอด แต่คุณแม่ต้องคอยระวังและสังเกตอาการต่าง ๆ ของตัวเองให้ดีนะคะ ว่ามีอาการปวดท้อง หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับประจำเดือนหรือไม่ เพราะหากมีความผิดปกติอาจเสี่ยงเป็น เนื้องอกในโพรงมดลูกได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์นั่นเองค่ะ

เนื้องอกในมดลูก คือก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อที่ปูดนูนขึ้นในโพรงมดลูก โดยพบได้บ่อยในผู้หญิงที่อยู่ในวัยมีประจำเดือน โดยเฉพาะในช่วงวัยอายุ 30-40 ปี ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเนื้องอกในโพรงมดลูกนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่อาจมีปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคนี้ได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนเพศหญิง ที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เนื้องอกมีขนาดโตขึ้นได้ รวมทั้งคนที่อยู่ในภาวะอ้วนก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เนื่องจากไขมันที่ใต้ผิวหนังสามารถเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงไปกระตุ้นทำให้โพรงมดลูกหนาขึ้นนั่นเอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/freepik

1.ประจำเดือนมานานเกิน 1 สัปดาห์
ปกติแล้วผู้หญิงจะมีประจำเดือนนานไม่เกิน 7 วัน หากเกินจกนี้ถือว่ามามากกว่าปกติ ซึ่งการมีประจำเดือนมากและหลายวันเกินไป อาจส่งผลทำให้เกิดโรคโลหิตจางได้ โดยทำให้มีอาการต่างๆ ตามมาด้วย เช่น เพลีย เหนื่อยง่าย มีเสียงในหู ใจสั่น เป็นต้น

2.ประจำเดือนออกมาก
อาการประจำเดือนมามาก จนทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง หรือต้องลุกมากเปลี่ยนขณะนอนหลับ อาจมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่ทำงานผิดปกติ ที่ส่งผลให้เกิดการสร้างเยื่อบุมดลูกที่มากเกินไป และลอกตัวออกมาเป็นเลือดประจำเดือนจำนวนมาก และนอกจากนี้ความผิดปกติที่เกิดขึ้นที่มดลูกก็ส่งผลทำให้มีเลือดประจำเดือนออกมากได้เช่นกัน เช่น เนื้องอกในโพรงมดลูก มะเร็งมดลูก เป็นต้น

3.ประจำเดือนมีลิ่มเลือด
ลิ่มเลือดที่ออกมากับประจำเดือนนั้น เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถขับออกมาได้ทัน แต่กลับคั่งค้างอยู่ในช่องคลอดแทน ซึ่งการมีประจำเดือนมามากกว่าปกติ และทำให้ประจำเดือนออกมาเป็นลิ่มเลือดนั้น มีสาเหตุมาจากการมีเนื้องอกในมดลูกนั่นเอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/rawpixel-com

4.ปวดท้องน้อย
หลายคนมีอาการปวดท้องน้อยเมื่อใกล้มีประจำเดือน หรือระหว่างมีประจำเดือน โดยอาการปวดท้องน้อย หรือปวดท้องประจำเดือน เนื่องมาจากมดลูกกำลังขับประจำเดือนออกมา ซึ่งถ้าพบว่ามีอาการปวดมากกว่าปกติ ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจมีสาเหตุมาจากอาการ เนื้องอกมดลูกได้

5.ท้องผูกผิดปกติ
ผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ อาจตรวจพบว่ามีก้อนเนื้องอกในมดลูกขนาดใหญ่ จนไปกดทับอวัยวะข้างเคียง เช่นลำไส้ตรง และทวารหนัก จนส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก รวมทั้งอาการ เนื้องอกมดลูกอาจมีอาการเจ็บขณะถ่ายอุจจาระ เนื่องจากมีเนื้องอกโตขึ้น จนไปทับลำไส้ใหญ่นั่นเอง

6.ปัสสาวะบ่อย
เนื่องจากเนื้องอกที่เกิดขึ้นยื่นไปทางด้านหน้า หรืออาจโตเบียดมดลูกมาทางหน้าท้องทำให้ไปกดกระเพาะปัสสาวะ จึงส่งผลให้ต้องปัสสาวะบ่อย หรืออาจปัสสาวะได้ไม่สุด ทำให้ต้องเข้าห้องน้ำหลายครั้ง

7.เจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
ถ้าก้อนเนื้องอกโตขึ้นแล้วยื่นออกไปในช่องคลอด หรือบริเวณปากมดลูกอาจส่งผลทำให้เกิดความเจ็บปวด ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/stefamerpik

8.ท้องน้อยโต และบวม
ก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง รวมทั้งอาจสังเกตเห็นท้องโตบริเวณท้องน้อยและอุ้งเชิงกราน คล้ายคนตั้งครรภ์ และเมื่อคลำดูก็จะพบก้อนที่ท้องน้อยด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนของโรคเนื้องอกในโพรงมดลูกด้วยนั่นเอง

คุณแม่สามารถสังเกตอาการผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการสังเกตสัญญาณเตือนทั้ง 8 ข้อที่ DooDiDo นำมาบอกกล่าวนี้ เพื่อที่จะได้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัย และทำการรักษาอย่างทันท่วงที หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการตรวจและรักษาจะทำให้โรคเกิดลุกลาม จนเกิดอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง ซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อชีวิตได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://konthong.com