7 พฤติกรรมควรเลี่ยงที่เสี่ยงต่อการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

WM

มาดู!! พฤติกรรมใดบ้างที่อาจทำลายภูมิคุ้มกันของคุณอยู่

สำหรับคนที่อยากดูแลสุขภาพอยู่แล้วอาจจะรู้วิธีมากมายที่จะเพิ่มระบบภูมิคุ้มในร่างกาย แล้วคุณได้รู้ถึงสิ่งที่จะทำลายระบบภูมิคุ้มกันมั้ยคะ ถึงแม้ว่าจะดูแลสุขภาพมากแค่ไหนแต่ถ้ามี 7 พฤติกรรมเหล่านี้แล้วก็ไม่รับประกันนะคะว่าภูมิคุ้มกันของคุณนั้นยังแข็งแรงดีอยู่หรือเปล่า โดยเฉพาะช่วงนี้การมีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแรงจึงสำคัญอย่างมากที่จะช่วยต่อสู้กับเชื้อโรค เพราะหากภูมิต้านทานของเราลดต่ำลงแล้วล่ะก็ จะทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายและรักษาให้หายยาก

เพื่อที่จะปกป้องร่างกายของเราให้แข็งแรงนั้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราก็ทำงานอยู่แล้ว ยิ่งเราเจอมลภาวะหรือสิ่งสกปรกมากมายที่เราต้องพบเจอในทุกๆ วันแล้วล่ะก็ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีเป็นเรื่องที่สำคัญสุดๆ เลยค่ะ แต่ถ้าหากคุณเลี่ยงพฤติกรรมทั้ง 7 สิ่งเหล่านี้แล้วล่ะก็ ภูมิคุ้มกันที่อยู่ตัวเราก็ยังอยู่ปกป้องตัวเราไปอีกได้ค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/jillwellington-334088/
  1. รับประทานน้ำตาลมากเกินไป

คริสตี้ ฮาร์เวลล์ นักโภชนาการให้คำแนะนำว่า น้ำตาลเป็นคู่แข่งสำคัญของวิตามินซีในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เนื่องจากทั้งสองสิ่งนี้มีโครงสร้างทางเคมีที่คล้ายกัน จึงหมายความว่ายิ่งมีน้ำตาลในระบบภูมิคุ้มกันมากขึ้นเท่าไร ก็จะทำให้วิตามินซีเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดขาวน้อยลงเท่านั้น ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลงด้วย

อีกแหล่งข้อมูล นักวิจัยพบว่าการกินหวานจะส่งผลต่อการกดภูมิต้านทาน โดยไปกดการทำงานของเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า T lymphocyte ยกตัวอย่าง ถ้ากินขนมหวานชิ้นใหญ่ซัก 1 ชิ้น ความหวานจะกดการทำงานของเม็ดเลือดขาวประมาณ 50-94 เปอร์เซนต์ นาน 5 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง น้ำตาลจะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ได้ง่ายขึ้น และมากขึ้นภายในหลอดเลือด และอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็จะทำลายผนังหลอดเลือดทั่วไปหมด และทำลายทุกอย่างที่เลือดวิ่งไปถึงทุกเซลล์ของร่างกาย

  1. ความเครียดสะสม

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดควรทำให้เกิดความสบายทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อช่วยลดระดับความเครียดลง เนื่องจากความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ มีการศึกษาในปี 2012 ที่เผยแพร่ใน Proceeding of the National Academy of Science พบว่าความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อ Glucocorticoid Receptor Resistance (GCR) ซึ่ง Glucocorticoid เป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญน้ำตาลกลูโคสและโปรตีน ผลที่ตามมาคือความสามารถในการต่อสู้ไวรัสของระบบภูมิคุ้มกันลดลง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@a_d_s_w
  1. พักผ่อนไม่เพียงพอ

การศึกษาที่เผยแพร่ในวารสาร Sleep ปี 2017 ระบุว่า ได้มีการวิจัยเรื่องรูปแบบการนอนของคู่ฝาแฝด ซึ่งพบว่าคนที่มีพฤติกรรมนอนหลับไม่เพียงพอ จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่า หากใครที่กำลังสงสัยว่าควรใช้เวลาในการนอนหลับกี่ชั่วโมงถึงจะดี คำตอบอยู่ที่ 7-9 ชั่วโมง อย่างที่เราทราบๆ กัน

นิเคต ซันพาล แพทย์ด้านทางเดินอาหารในนิวยอร์ก อธิบายถึงประเด็นนี้ว่า การพักผ่อนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันสะสมไปเป็นนาน ๆ จะยิ่งทำให้ร่างกายมีฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกัน เสี่ยงต่ออาการอักเสบและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

  1. ดื่มแอลกอฮอล์

หากเป็นการดื่มเพียงแค่แก้วหรือสองแก้ว ก็อาจจะไม่ส่งผลต่อร่างกายมากนัก จากการศึกษาหลายชิ้นพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อในร่างกายได้ง่ายขึ้น เรียกว่าเป็นภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจากแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยอื่นๆ เช่น โรคตับ อาการแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง โรคปวดบวม วัณโรค ภาวะโลหิตเป็นพิษ เป็นต้น

  1. ดื่มน้ำน้อยเกินไป

ตรงข้ามกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวันช่วยสร้างประโยชน์มากมายในด้านสุขภาพ ดังนั้นการดื่มน้ำเปล่าปริมาณน้อยก็ิอาจส่งผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามด้วย

เอดูอาร์โด ดอลฮัน นักกายภาพบำบัดและผู้เขียน DripDrop ได้บอกว่า การขาดน้ำส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อระบบภูมิคุ้มกัน โดยทำให้ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายสิ่งที่เป็นพิษออกจากได้ร่างกายได้เร็วตามปกติ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/frankundfrei-638998/
  1. ไม่ยอมออกกำลังกาย

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสีjยงของการติดเชื้อ ผลการศึกษาที่เผยแพร่ใน American Journal of Preventive Medicine ปี 2012 รายงานว่าการนั่งเฉยๆ ตลอดเวลา ส่งผลต่อความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับไวรัสลดลง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันมีความอ่อนแอลง

  1. ออกกำลังกายมากเกินไป

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว แม้การออกกำลังกายจะเป็นสิ่งสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่การออกกำลังกายมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อภูมิคุ้มกันได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายเจ็บป่วย ผู้เชี่ยวชาญจาก WebMD บอกว่า การทำกิจกรรมที่มีความหนักหน่วงสูงเป็นเวลานาน จะลดการการทำงานของภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดการอักเสบและเกิดปฏิริยาอ๊อกซิเดชั่นมากเกินไป จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ต่อสู้กับเชื้อโรคในร่างกายลดลง และในเวลาเดียวกันนั้นฮอร์โมนแห่งความเครียด หรือ คอร์ติซอล อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะไปรบกวนความสามารถของเซลล์ที่คุ้มกันร่างกายไม่ให้ทำงานได้ตามปกติ

เป็นยังไงกันบ้างค่ะ เพียงแค่คุณรู้ถึงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำลายระบบภูมิคุ้มกันแล้ว DooDiDo แนะนำว่าเราก็ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้นได้ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีแล้วล่ะค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้ก็จะช่วยลดอัตราการไปพบคุณหมอของคุณได้ และไม่ต้องเสียเงินเพิ่มค่ายารักษาสุขภาพของคุณเลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://bestlifeonline.com