5 เคล็ดลับให้ลูกเลิกขวดนมได้อย่างเห็นผล ที่คุณแม่ห้ามพลาด!!

WM

เด็กอายุตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไปต้องเลิกดูดนมจากขวดได้แล้ว 

อีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความลำบากใจให้คุณแม่คือการที่ต้องให้ลูกน้อยเลิกดูดขวดนมนั่นเองค่ะ เพราะการที่เด็กติดขวดนม ในช่วงอายุมากกว่า 1 ปี เป็นต้นไปนั้นส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้หลายด้านเลยค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นด้วยวิธีใด ที่จะทำให้ลูกน้อยเลิกดูดขวดนมได้ วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการทำให้ลูกน้อยของคุณเลิกดูดขวดนมได้ค่ะ

คุณแม่ลูกวัยหัดเดิน หรือเมื่อลูกเริ่มเข้าวัย 2 ขวบ คุณคงอยากให้ลูกเลิกขวดนมแล้วด้วยเหตุผลอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่น การดูดจุกนมอาจทำให้ฟันของลูกมีปัญหา และยิ่งเป็นเด็กที่กำลังเริ่มเข้าวัยอนุบาลหรือกำลังจะอายุ 3 ขวบแล้วยิ่งควรให้ลูกเลิกขวดนมได้แล้วค่ะ ถ้าลูกยังไม่ยอมเลิกขวดนม สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ได้ค่ะ

5 วิธีนี้ ลูกเลิกขวดนม ได้แน่นอน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/jairojehuel-173776/

1.ตัดการดูดขวดนมโดยสิ้นเชิง:
วิธีนี้เป็นวิธีที่แข็งสุด ๆ คุณแม่ต้องใจแข็งวิธีนี้จะทำให้ลูกเลิกขวดนมเร็วที่สุด ประมาณ 3 วันลูกจะเลิกดูดขวดนมแน่นอนค่ะ

2.ดึงความสนใจให้ไปที่สิ่งอื่น:
ถ้าลูกเริ่มอยากดูดขวดนม ให้ลองใช้อย่างอื่นมาดึงความสนใจของลูกเพื่อให้ลูกผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ คุณก็สามารถปล่อยให้ลูกร้องไห้ได้ อย่างน้อยประมาณ 10 นาที ลูกจะค่อย ๆ สงบลงได้ค่ะ

3.ลดปริมาณทีละนิด:
วิธีที่นุ่มนวลที่สุด ในการให้ลูกเลิกดูดขวดนม คือการลดปริมาณการดูดของลูกให้น้อยลง อาจจะให้ลูกดูดนมจากขวดในตอนกลางคืนที่จะนอนเท่านั้น ก็ได้ค่ะ

4.ให้รางวัล หรือสิ่งที่ลูกอยากได้เป็นของหลอกล่อ:
เมื่อลูกเริ่มหยุดกินนมจากขวดได้ซัก 1-2 มื้อก็ควรให้รางวัลลูก หรือ สิ่งของ ที่ลูกอยากได้เพื่อให้ลูกมีกำลังใจในการเลิกกินมื้อต่อไป จนกว่าจะเลิกได้สำเร็จค่ะ

5.ไม่ให้ลูกเห็นขวดนมอีกเลย:
คุณแม่ควรนำขวดนมไปทิ้งหรือไปซ่อนไว้ในที่ ๆ ลูกมองไม่เห็น หรือบอกลูกว่ามันเสียแล้ว ใช้งานไม่ได้แล้ว ในวันแรกลูกอาจจะร้องไห้หนักเป็นชั่วโมง แต่วันต่อมาลูกจะเข้าใจว่าขวดนมหายไปแล้ว ขวดนมพังแล้วค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/congerdesign-509903/

เด็กติดขวดนม ส่งผลกระทบต่อลูกอย่างไรบ้าง
เมื่อเด็ก ๆ อายุเข้าเดือนที่ 6 เป็นต้นไป พ่อแม่อาจเริ่มหาอุปกรณ์ช่วยฝึกลูกน้อยในการดื่มจากแก้ว เช่น แก้วหัดดื่ม หรือ ถ้วยหัดดูดต่าง ๆ มาเป็นตัวช่วยเพื่อที่จะค่อย ๆ ลดการใช้ขวดนมลง เนื่องจากกุมารแพทย์แนะนำว่าเด็กอายุตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป ถึงเวลาที่จะต้องเลิกดูดนมจากขวดได้แล้ว เพราะการที่เด็กติดขวดนมสามารถส่งผลเสียต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

– เด็กที่ติดขวดนมมักพบปัญหาฟันผุ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่มักหลับไปพร้อมกับการดูดขวด ทำให้คราบน้ำนม รวมทั้งน้ำตาล ตกค้างอยู่ในช่องปาก กลายเป็นแหล่งอาหารของเชื้อรา และแบคทีเรีย

– ปัญหาฟันยื่น ฟันเหยิน เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบเจอใน เด็กที่ติดขวดนม รวมถึงจุกหลอก หรือ จุกเสมือนนมแม่ ไปจนอายุ 2-3 ปี เนื่องจากลักษณะของการใช้หรือการดูดอุปกรณ์เหล่านี้ส่งผลต่อการเจริญของขากรรไกรบน เพิ่มความเสี่ยงต่อการทำให้ฟันผิดปกติ ส่งผลให้เด็กที่ติดขวดนมนั้นมีฟันยื่น ฟันเหยิน ไม่สวยงาม

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/tookapic-1386459/

– การที่เด็กติดขวดนมนั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน เนื่องจากมีผลการวิจัยพบว่าเด็กที่ดูดนมจากขวดมักกินได้ในปริมาณที่มากกว่าเด็กที่ดูดเต้า

– ลูกที่ติดขวดนม จะมีอาการกินยาก เพราะติดขวด อยากดูดแค่นม ปฏิเสธอาหารเสริมอื่น ๆ แม้อยู่ในวัยที่ต้องการสารอาหารอื่น ๆ เข้ามาเสริมสร้างพัฒนาการก็ตาม

– การที่ลูกติดขวดนมจะทำให้มีพัฒนาการช้า เนื่องจากหมกมุ่นอยู่แต่กับขวดนม ไม่ได้รับการฝึกฝนทักษะอื่น ๆ เช่น การยกแก้วกระดกไม่ให้เลอะเทอะ ซึ่งประกอบไปด้วยการเรียนรู้ และการใช้อวัยวะหลาย ๆ ส่วนพร้อม ๆ กันด้วย

ทั้งหมดที่ DooDiDo นำมาฝากวันนี้ เป็นวิธีให้คุณพ่อคุณแม่ได้นำไปใช้เพื่อให้ลูกเลิกดูดขวดนมค่ะ เพราะถ้าหากลูกน้อยมีอายุครบ 1 ปีขึ้นไปแล้วยังไม่เลิกดูดขวดนม จะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกได้ค่ะ ซึ่งการให้ลูกเลิกดูดขวดนมต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่มีความอดทน ใจแข็งสักนิด จะส่งผลดีในระยะยาวต่อลูกค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://kidminute.com, www.maerakluke.com