5 สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ เมื่อลูกเรียนออนไลน์ยุค Covid-19

WM

การเรียนที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่จะต้องเข้ามาบทบาทสำคัญเช่นเดียวกับคุณครู

ในช่วงเวลาที่ไวรัส Covid-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนอย่างมากมาย ทำให้ต่างก็ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน การศึกษายุค Covid-19 ก็เช่นกันทำให้คุณครูและนักเรียนต้องต่างก็ต้องปรับตัวสู่สภาวะการเรียนรู้ที่ไม่คุ้นเคย และยังต้องรับภาระที่เพิ่มมากขึ้นด้วยการเรียนออนไลน์ คุณครูต้องใช้เวลามากขึ้นในการเตรียมการสอน นักเรียนรับการบ้านและต้องเรียนรู้ด้วยตนเองที่มากกว่าเรียนในชั้นเรียนมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

การเรียนผ่านออนไลน์ ย่อมแตกต่างจากการเรียนในห้องเรียน ที่สำคัญการเรียนที่บ้าน พ่อ แม่ จะต้องเข้ามาบทบาทสำคัญเช่นเดียวกับคุณครู ล่าสุดองค์การ WHO ได้แนะนำคุณพ่อคุณแม่ถึงวิธีวางแผนการเรียนออนไลน์ให้ลูก ในช่วงโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพ ไปดูกันเลยค่า การเรียนการสอนของนักเรียนอนุบาล ประถม และ ม.ต้น ศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) 50 นาที ผ่านทีวีหรือเว็บไซต์ และ 10 นาที สื่อสารกับผู้ปกครอง/ นักเรียน ผ่านโทรศัพท์ LINE และอื่นๆ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@thomascpark

สำหรับนักเรียน
– ดูตารางสอนออกอากาศล่วงหน้า 1 วัน
– ศึกษาแฟ้มงานเอกสารประกอบการเรียน
– เข้าเรียนผ่านทีวีและสรุปองค์ความรู้จากบทเรียน
– เข้าระบบเช็คชื่อออนไลน์ที่ ครูออกแบบไว้
– ถามข้อสงสัยสื่อสารกับครูผ่าน LINE กลุ่ม

สำหรับผู้ปกครอง
– เตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์ และสถานที่เรียนที่บ้าน
– ศึกษาความเข้าใจตารางสอนและ แผนการเรียน
– ติดต่อสื่อสารกับครูผ่านโทร ศัพท์และ LINE กลุ่ม

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@stem_t4l

5 สิ่งที่พ่อแม่ควรทำเมื่อลูกเรียนออนไลน์
1. พ่อ แม่ ลูก วางแผนการเรียนแต่ละวันร่วมกัน
WHO แนะนำว่า สิ่งแรกคือการกำหนดตารางเรียนในแต่วันร่วมกัน โดยจัดสรรโปรแกรมการศึกษาต่างๆ ให้เหมาะสมตามวัยของเด็กๆ รวมถึงการแบ่งเวลาสำหรับการ เล่น และการเรียน การอ่าน ควบคู่ไปกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ข้อสำคัญต้องปฏิบัติตามแผนนั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการกำหนดแผนการเรียนเ ป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กและเยาวชน วัยเรียน แต่ควรมีความยืดหยุ่นด้วยใน ระดับหนึ่งด้วยการสลับทำกิจกรรมในบ้าน ขณะเดียวกัน พ่อแม่ควรพยายามติดตามพฤติกรรมการใช้โปรแกรมออนไลน์ที่ เหมาะสมและเลือกโปรแกรมหลากหลายให้กับลูกมากขึ้น

2. เพิ่มการสนทนาระหว่างกัน
พ่อ แม่ควรกระตุ้นให้เกิดการพูดคุยหรือสนทนาถึงบทเรียนต่าง ๆ ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ซึ่งอาจจะมีบ้างที่ลูกๆ อาจมีปฏิกิริยาตอบสนองที่แตกต่างกันไป เช่น อาจเกิดอาการเครียด ดังนั้น พ่อแม่ต้องมีความอดทนและเข้าใจจากนั้นพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ เพื่อดูว่าพวกเขาได้รับความ รู้จากการ เรียนออนไลน์ มากแค่ไหน

รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการคำถามหรือแสดงความรู้สึกต่างๆ ออกมา ขณะเดียวกัน พ่อ แม่ ต้องตั้งใจฟังและให้ความสนใจอย่างเต็มที่เพื่อให้ลูกๆ เห็นว่า พ่อ แม่ให้ความใส่ใจ ตลอดจนการพูดคยกับคุณครูของ พวกเขาด้วยที่สำคัญแม้จะเรียนผ่านออนไลน์ ก็ต้องอย่าลืมดูแลด้านสุขอนามัยต่างๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ

3.จัดสรรเวลา
กำหนดระยะเวลาและแบ่งเวลาสำ หรับการเรียนรู้ให้สั้นลง เช่น 1 บทเรียนทุก 30 หรือ 45 นาที รวมการทำแบบฝึกหัดหรือการบ้านด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@anniespratt

4. ควบคุมดูแลพฤติกรรมการใช้ออนไลน์
แม้ว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลเปิด โอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้มีส่วนร่วมในการเล่นและติดต่อกับเพื่อน ๆ ของพวกเขา แต่การเข้าถึงออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นนำมาซึ่งความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยการป้องกัน แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวของเด็ก พ่อ แม่ ควรดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตกับลูก ๆ ของคุณ ให้อยู่ขอบเขตที่เหมาะสมโดย เฉพาะกับกลุ่มเด็กเล็ก

5. ติดต่อกับสถานศึกษาของบุตรหลาน
ควรติดต่อกับครูหรือโรงเรียนของบุตรหลานของคุณเพื่ออัปเดตข้อมูลต่างๆ รวมถึงการให้และรับฟังคำแนะนำเพิ่มเติม ไปจนถึงการรวมกลุ่มผู้ปกครองเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ทั้ง 5 สิ่งที่ DooDiDo นำมาฝากคุณพ่อคุณแม่วันนี้ เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรทำเป็อย่างยิ่งเมื่อลูกเรียนออนไลน์ค่ะ เพราะถ้าหากพ่อแม่ไม่ได้ให้ความสนใจ ใส่ใจอยู่ใกล้ ๆ จะทำให้ลูกไม่สนใจในการเรียนอย่างต่อเนื่อง ควรจะกระตุ้นลูกด้วยการถามต่อจากที่ลูกเรียน ทบทวนบทเรียนที่ลูกได้เรียนไปในแต่ละวันว่าลูกเรียนเรื่องอะไร เข้าใจสิ่งใดไปบ้าง เพียงเท่านี้การเรียนออนไลน์ของลูกก็จะเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.momster.in.th