5 ข้อควรรู้ก่อน “ดูดไขมัน” จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ

WM

เราควรเช็กอะไรบ้าง ก่อนดูดไขมัน?

สำหรับสาวๆ หลายๆ คนแล้วก็จะมีรูปร่างหรือหุ่นที่อยากมีกันอยู่ในใจแล้วใช่มั้ยล่ะคะ ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วก็ตามทีว่าการออกกำลังกายแล้วคุมอาหารนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่งในการที่จะมีหุ่นที่ดี “แต่วิธีนั้นมันไม่ทันใจอ่ะ” แล้วสาวๆบางคนเองก็อาจจะไม่สะดวกที่จะออกกำลังกายขนาดนั้นด้วย ดังนั้น “การดูดไขมัน” จึงสามารถตอบโจทย์สาวๆได้เลยล่ะค่ะ

ส่วนข้อดีของการดูดไขมันก็คือสามารถกำจัดไขมันออกไปได้แบบเห็นด้วยตาเปล่า ค่อนข้างปลอดภัยถ้าทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้เจ็บน้อย ผิวกระชับได้ด้วย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจดูดไขมัน วันนี้เรามีคำแนะนำจากแพทย์หญิง ณัฐชญา ไมตรีเวช มาฝากกัน ว่าเราควรเช็กอะไรบ้าง ก่อนดูดไขมันและผลข้างเคียงจากการดูดไขมันมีอะไรบ้างถ้าอยากรู้ ตามมาเลย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/@adrienn-638530

1. เราเหมาะสมกับการดูดไขมันหรือไม่ เริ่มด้วยการสำรวจตัวเองว่าเป็นคนที่กินไม่ยั้ง ไม่ควบคุมอาหารและหวังว่าการดูดไขมันเป็นทางเลือกสุดท้าย แบบนี้ไม่ควรดูดไขมันนะคะ เพราะถ้าเราดูดไขมันแต่มีพฤติกรรมการกินแบบเดิม จะทำให้ไขมันไปสะสมบริเวณที่ไม่ได้ดูด เช่น ในช่องท้องซึ่งไขมันที่สะสมตรงนั้น ก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าไขมันที่สะสมบริเวณชั้นใต้ผิวหนัง การดูดไขมัน ช่วยให้รูปร่างดีขึ้น สัดส่วนสวยขึ้น แต่ไม่ช่วยในการลดน้ำหนัก

2. ส่วนไหนในร่างกายที่สามารถดูดได้ หากเรามีความตั้งใจที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายไปด้วย สัดส่วนจะสวยขึ้นอยู่แล้ว แต่มันจะมีบางส่วน ที่ออกกำลังกายยังไง ไขมันก็คงอยู่ ตรงนี้เป็นผลของกรรมพันธ์และฮอร์โมนค่ะ เราสามารถใช้การดูดไขมันเพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลรูปร่างได้ แต่ต้องเช็คก่อนว่า เป็นไขมัน กระดูก หรือกล้ามเนื้อค่ะ ดูดแล้วมีโอกาสที่จะสัดส่วนดีขึ้นแค่ไหน

3. ตรวจเช็คประวัติแพทย์ที่ทำการรักษา โดยสามารถนำชื่อ-นามสกุลของคุณหมอเช็คดูสถานที่ทำงาน ความเชี่ยวชาญได้ที่เว็บแพทย์สภา หากเป็นศัลยแพทย์แล้วควรเช็คเคสรีวิวที่คุณหมอท่านนั้นๆ เคยทำและยิ่งหากมีเพื่อน/คนรู้จักแล้วยิ่งดี สร้างความมั่นใจให้เราได้ด้วย เพราะสมัยนี้ มีทั้งซื้อและขโมยรีวิว ถามเพื่อนที่สนิทและมีประสบการณ์ดีที่สุดค่ะ ถ้าเพื่อนไม่สนิทก็อาจจะเป็นเอเจนซี่ หรือรับค่าคอมคลินิกก็ได้นะคะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/orzalaga-77630/

4. สถานที่บริการ เพราะการดูดไขมันเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างใหญ่ เป็นหัตการที่ต้องทำกับร่างกายเป็นบริเวณก้าง สถานที่ผ่าตัดจึงต้องมีความสะอาด ปลอดภัยและพร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย มีการตรวจวัด monitor ระหว่างที่ทำ ความสวยจำเป็นแต่ความปลอดภัยสำคัญที่สุดนะคะ

5. ปรึกษาคุณหมออย่างใกล้ชิด โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินว่าการดูดไขมันต้องทำอย่างไร ใช้เทคนิคไหน ต้องกระชับผิวด้วยหรือไม่ ทำส่วนไหนได้บ้าง รวมถึงการประเมินเกี่ยวกับโรคประจำตัว เช่น เป็นเบาหวาน ต้องตรวจเลือด น้ำตาลก่อน มิฉะนั้นจะมีผลเกี่ยวกับการหายของแผล รวมไปถึงการดูแลรักษาตัวเองหลังดูดไขมันเพื่อความปลอดภัยและผลการรักษาที่ดีที่สุด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@bill_oxford

แน่นอนว่าการดูดไขมันเป็นการผ่าตัดค่อนข้างใหญ่และอยู่ใกล้กับชั้นผิวหนัง ย่อมมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นอาการที่พบได้ เช่น  อาการชา เพราะเส้นประสาทเล็กๆ บริเวณที่อยู่ในชั้นไขมันถูกทำลาย โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 6-12 เดือนก็จะกลับมาเป็นปกติ และการดูดไขมันด้วยเครื่องมือบางอย่างอาจจะทำให้ผิวบริเวณนั้นๆ แห้งได้ เพราะคลื่นความร้อนของเครื่องมือไปลดการสร้างไขมันของบริเวณผิวหนัง ดังนั้นเราควรทาออยหรือครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดก้อนอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง โดยก้อนพวกนี้อาจจะเกิดได้จากร่างกายเราสร้างสารน้ำออกมาแทนที่ช่องว่าง โดยปกติจะหายไปเองประมาณ 6-12 เดือน แต่ถ้าเกิดเป็นลักษณะก้อนผิวขรุขระซึ่งเกิดจากการดูดไม่สม่ำเสมอ พวกนี้สามารถแก้ไขด้วยด้วยการดูดซ้ำแก้ได้ค่ะ

รู้อย่างนี้แล้วล่ะก็สาวๆ คนไหนที่สนใจอยากจะดูดไขมันแล้วล่ะก็ บทความนี้ DooDiDo คิดว่าจะสามารถช่วยคุณตัดสินใจได้ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าวิธีการนี้จะรวดเร็วทันใจสำหรับสาวๆ แล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นวิธีที่ดีที่สุดนะคะ เพราะถ้าหากสาวๆ เผลอไปเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานแล้วล่ะก็จะเป็นอันตรายต่อสาวๆ ได้เลยล่ะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com