4 หลักคิดที่เป็นศิลปะการแก้ปัญหาของคนทำงาน ให้แก้ปัญหาง่ายขึ้น

WM

คนทำงานกับปัญหาในการทำงานเป็นของคู่กัน ไม่มีใครที่ทำงานแล้วไม่เคยประสบปัญหา

เชื่อว่าคนที่ทำงานมักจะรู้กันดี ว่าทุกงานที่ทำนั้นมักจะมีปัญหาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของตัวงาน หรือปัญหาที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมงาน ในการทำงานแต่ละวันที่เราต้องติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นนั้น ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ เกิดการเข้าใจผิดกันไปบ้าง เหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่จะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อให้แก้ปัญหาได้ดีขึ้น วันนี้เรามีคำตอบมาฝากค่ะ

คนทำงาน กับปัญหาในการทำงานเป็นของคู่กัน ไม่มีใครที่ทำงานแล้วไม่เคยประสบปัญหา และก็ไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จคนไหนที่ไม่เคยผ่านปัญหามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในการประสานงานกับลูกค้า กับเพื่อนร่วมงาน กับนายจ้าง หรือปัญหาจากการทำงานของตนเอง ในการแก้ปัญหาแต่ละเรื่องมีวิธีที่แตกต่างกันไป เราไม่อาจใช้วิธีแบบเดียวกันกับทุกปัญหาได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เราจะต้องคิดใหม่ คิดใหม่ ไปเสียทุกครั้ง เพียงเรามีหลักคิดที่เรียกว่า ศิลปะการแก้ปัญหา ก็ช่วยให้การแก้ปัญหานั้นง่ายขึ้นได้

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://unsplash.com/@austindistel

1.คิดแบบยืดหยุ่น
สิ่งที่อันตรายที่สุดเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ไม่ได้อยู่ที่ปัญหานั้นรุนแรงแค่ไหน แต่อยู่ที่เราคิดแก้ปัญหานั้นอย่างไร หลายคนที่คิดแก้ปัญหาด้วยวิธีการเพียงแบบเดียว และพยายามจะให้วิธีการนั้นใช้ได้ผลกับทุกปัญหา ซึ่งไม่อาจเป็นไปได้ และเราก็ยังคงเสียเวลาวนเวียนอยู่กับวิธีเดิม ๆ แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้เข้าใจปัญหานั้นอย่างแท้จริง ไม่ได้ใช้เวลามากพอที่จะหาทางออกที่สร้างสรรค์และดีพอ แล้วเราจะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างไร ทางออกคือ เราจำเป็นต้องคิดแบบยืดหยุ่น คิดให้หลุดออกจากกรอบเดิม ๆ ที่ครอบเราไว้ จึงจะพบวิธีการใหม่ ๆ ในแก้ปัญหา ซึ่งอาจจะดีกว่าวิธีเดิม ๆ ที่เราใช้อยู่

2.ทุกอย่างอยู่ที่ใจ
ร่างกายกับจิตใจนั้นเชื่อมโยงกัน ถ้าร่างกายเราถูกใช้งานหนัก จนเกินไป เคร่งเครียดกับงานจน ไม่มีเวลาพักผ่อน จิตใจก็ไม่ได้พักผ่อนไปด้วย ควรให้เวลากับการผ่อนคลายจิตใจเสียบ้าง เช่น ออกไปเดินเล่น ฟังเพลง ดูหนัง ว่ายน้ำ หรือทำงานอดิเรกอื่น ๆ ที่เราชอบ เพื่อที่จิตใจเราจะได้ว่าง และเปิดกว้างพอที่จะคิดสิ่งใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์ รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://unsplash.com/@brucemars

3.ทำไมสิ่งนี้จึงเป็นปัญหา
ให้ถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่า ทำไมสิ่งนี้จึงเป็นปัญหา สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาอะไร จดรายการสมมติฐานที่ได้ทั้งหมดแล้วค่อย ๆ ตัดออกทีละข้อ ให้เหลือแต่ข้อที่เรามั่นใจ เพื่อที่เราจะได้มุ่งคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

4.คิดแก้ปัญหาจากหลายมุมมอง
คุณอาจถามความเห็นในการแก้ปัญหาจากคนหลาย ๆ คน หลาย ๆ วัย เช่น คุณพ่อคุณแม่ของคุณ เพื่อนสนิท หรือจากลูกสาวตัวน้อยของคุณก็ได้ จะทำให้คุณได้รับคำตอบจากมุมมองที่แตกต่างกัน บ่อยครั้งที่จินตนาการแบบเด็ก ๆ การคิดแบบไร้ขอบเขต นำไปสู่วิธีการแก้ปัญหาที่คุณต้องการ

ทั้ง 4 ข้อที่ DooDiDo นำมาฝากคนทำงานในวันนี้ เป็นวิธีการแก้ปัญหาหรือจะเรียกว่าเป็นศิละการแก้ปัญหาของคนทำงาน ช่วยให้การแก้ปัญหานั้นง่ายขึ้น เพื่อช่วยให้คุณนั้นได้พบกับทางออกได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องจมกับความคิดเดิม ๆ อีกต่อไป เพียงเท่านี้ปัญหาที่คุณต้องเจอก็เป็นเพียงอุปสรรคเล็กน้อยให้คุณได้พบเจอเท่านั้นค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://th.jobsdb.com