4 วิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถลดปริมาณน้ำตาลจากการบริโภคอาหารได้

ปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง ยิ่งหวานมากยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย

ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่าปัญหาสุขภาพต่างๆ นาๆ ที่ทั้งคนใกล้และไกลตัวเป็นกันอยู่บ่อยๆ นั้นหลายๆ โรคนั้นต่างก็เกิดมาจากปัญหาในเรื่องของการบริโภคอาหารนี่แหล่ะค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าอาหารที่เราทานกันอยู่ทุกวันนี้นั้นให้ประโยชน์และโทษอย่างไรบ้างหลายๆ คนก็พอจะรู้แต่ก็ละเลยกันใช่มั้ยล่ะคะ เพราะแน่นอนว่าเรื่องแบบนี้สามารถแก้ได้ง่ายๆเพียงแค่มีเวลาซักหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอๆ นั่นจึงทำให้เป็นเหตุผลหลักๆ เลยที่ทำให้หลายๆ คนจะต้องพบเจอกับโรคร้ายต่างๆ ค่ะ

อาหารหลายๆ ชนิดในปัจจุบันมีรสชาติหวาน เพราะอุดมไปด้วยน้ำตาล ทั้งขนมหวานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนมไทย ขนมเค้ก ไอศกรีม น้ำหวาน น้ำอัดลม กาแฟ ชาเขียวรสหวาน แม้แต่ในอาหารที่ดูเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่าง นมเปรี้ยว โยเกิร์ต หรือนมที่มีรสหวานทั้งหลาย ก็ล้วนแล้วแต่มีปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง ซึ่งยิ่งหวานมากยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งทำร้ายสุขภาพ เป็นต้นเหตุของโรคร้าย ทั้งเบาหวาน ความดัน หัวใจ แถมยังทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น กลายเป็นคนอ้วนแบบไม่รู้ตัว วันนี้เราจึงมีวิธีที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถลดปริมาณน้ำตาลจากการบริโภคอาหาร ลดหวานเพื่อสุขภาพที่ดีมาฝากกันดังนี้

1.หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน

อาจเป็นวิธีที่ดูง่ายๆ แต่ก็ได้ผลชัดเจนที่สุด ลองสำรวจดูว่าในแต่ละวันเราได้รับน้ำตาลจากการทานอะไรบ้าง แล้วมีอะไรที่เราสามารถงดได้บ้าง เช่น กาแฟเย็นที่ทานเป็นประจำทุกวัน ก็เปลี่ยนเป็นกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล น้ำหวาน น้ำอัดลม ที่ดื่มประจำ ลองลดลงแล้วเลือกดื่มน้ำเปล่าแทน นมหรือโยเกิร์ตรสหวานที่ทานก่อนนอน ก็เลือกเป็นแบบรสจืดหรือสูตรน้ำตาลน้อย

2.เลือกทานอาหารสูตรหวานน้อย

เพราะเดี๋ยวนี้ผู้คนหันมาให้ความสนใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตอาหารหลายชนิดเริ่มมีสูตรไม่มีน้ำตาลหรือสูตรหวานน้อยมาเป็นตัวเลือกให้กับคนรักสุขภาพ ซึ่งก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าแม้จะเป็นสูตรหวานน้อยแต่ก็ยังมีน้ำตาลอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ยังต้องเลือกทานแต่พอดี เหมาะต่อความต้องการของร่างกาย

3.ลดการเติมน้ำตาล ในเมนูอาหารต่างๆ

เช่น ก๊วยเตี๋ยว ชา กาแฟ นอกจากนี้ในนมข้นหวาน น้ำหวาน น้ำเชื่อม ก็ล้วนแล้วแต่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ถ้าลดการเติมความหวานในอาหารลงได้ ก็สามารถลดความเสี่ยงที่ร่างกายของเราจะได้น้ำตาลเกินความจำเป็นลงไปได้เยอะ โดยปกติใน 1 วัน เราควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา

4.เลือกผลไม้ที่มีรสหวานน้อย

ผลไม้หลายชนิดมีรสหวานมาก เช่น มะม่วงสุก องุ่น ลิ้นจี่ ฯลฯ ต้องพยายามเลือกทานแต่พอดี แล้วลองปรับเปลี่ยนเป็นอาหารที่น้ำตาลไม่สูงมาก เช่น ฝรั่ง กีวี แอปเปิ้ล ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ฯลฯ ผลไม้ดีต่อร่างกายให้ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ แถมยังมีกากใยอาหารช่วยในการขับถ่าย

พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสมของคนในยุคปัจจุบัน ถือเป็นต้นเหตุหลักที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ การบริโภคอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด หรือมีไขมันสูง ส่งผลให้หลายคนเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอย่างโรคอ้วน โคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต ฯลฯ ดังนั้นใครที่อยากจะมีสุขภาพดี ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ สิ่งแรกที่ต้องทำคือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินโดยการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่หวานจัด เค็มจัด เป็นสิ่งที่คนที่อยากมีสุขภาพดีทุกคนควรทำ เพราะนอกจากห่างไกลจากโรคได้แล้ว ยังทำให้ไม่อ้วนอีกด้วย

แต่ก็อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้นว่าในยุคปัจจุบันนี้ หลายๆ คนมักจะไม่ค่อยได้เลือกรับประทานอาหารซักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะรู้ถึงความสำคัญในการเลือกทานอาหารที่ดีแล้วก็ตามที แต่เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าถึงแม้ว่าเงินจะสำคัญต่อการใช้ชีวิตยังไงแต่การที่ทุกคนจะมีสุขภาพที่ดีนั้น DooDiDo ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า เพื่อที่สุดท้ายแล้วทุกคนจะได้ไม่ต้องนำเงินที่เก็บออกมาใช้เพื่อรักษาสุขภาพของตัวเองในตอนที่โหมงานหนักจนเกินไป ก็ควรที่จะนำเงินมาซื้ออาหารที่ดี มีประโยชน์ก็น่าจะดีกว่าค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com