“ไวรัสไข้หวัดใหญ่” โรคติดเชื้อภายในระบบทางเดินหายใจที่ควรระวัง!!

WM

5 เคล็ดลับ ป้องกันไข้หวัดใหญ่และ 10 อาหารที่ช่วยต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้

ในช่วงฤดูฝน อาการก็มักเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวอากาศเย็น ไหนจะต้องเจอกับละอองฝนอีกด้วย ทำให้ใครหลายคนต้องเจอกับ”ไข้หวัดใหญ่” ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล สามารถจำแนกออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่ ชนิดเอ บี และซี โรคไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการเริ่มต้นเหมือนไข้หวัดแต่อาจมีความรุนแรงทำให้เกิดปอดอักเสบ และเสียชีวิตได้ค่ะ

ช่วงอากาศเปลี่ยนร้อนๆ หนาวๆ หรือฤดูกาลเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผู้คนมักจะไม่สบายกันบ่อยด้วยไข้หวัด ไอจาม แต่ก็ต้องระวังเพราะระยะหลัง ไข้หวัดที่ว่าไม่ใช่ไข้ธรรมดา แต่เป็น “ไวรัสไข้หวัดใหญ่” ที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลย เพราะฉะนั้นจึงขอชวนคุณให้ลองมาทำความรู้จักกับไข้หวัดใหญ่ว่าต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร แล้วมีสาเหตุมาจากอะไร และมีอาการอย่างไรบ้าง พร้อมกับแนะนำ 10 อาหารดีที่สุดสำหรับกินช่วงป่วย รับรองว่ากินแล้วหายป่วยไว ใครอยากรู้แล้วไปดูพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/4330009-4330009/

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza) คือ โรคติดเชื้อภายในระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน โดยมีต้นเหตุมาจากไวรัสที่ชื่อว่า Influenza virus ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ Influenza A และ B ซึ่งมีความรุนแรงและอันตรายต่อสุขภาพ ส่วนไวรัสชนิด C นั้นพบได้น้อยกว่าและไม่รุนแรงจึงไม่ถูกรวมอยู่ในกลุ่มของโรคไข้หวัดใหญ่

เมื่อผู้ป่วยติดเชื้อ อาการที่พบมักแสดงออกคล้ายไข้หวัดธรรมดาในระยะแรก นั่นคือ  มีเสมหะ เจ็บคอ ปวดศรีษะ เจ็บคอไอแห้ง คัดจมูก น้ำมูกไหล ซึ่งอาการจะเกิดแบบเฉียบพลันและเป็นนาน 6-10 วัน แต่ที่แตกต่างจากไข้หวัดทั่วไปคือจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อและเป็นไข้สูงร่วมด้วย นอกจากนี้ไวรัสไข้หวัดใหญ่ยังอันตรายกว่าเพราะผู้ป่วยจะเกิดอาการแทรกซ้อนได้ง่าย ซึ่งอาการแทรกซ้อนอาจรุนแรงถึงชีวิตได้เลยนะคะ เช่น อาการปอดบวม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราต้องแยกอาการของไข้หวัดทั่วไปออกจากโรคไข้หวัดใหญ่ค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/nastya_gepp-3773230/

จะพบว่าทั้งสาเหตุและอาการของโรคทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันค่อนข้างมาก ถึงอาการแรกเริ่มอาจจะคล้ายกัน แต่ถ้ามีไข้สูงร่วมกับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียผิดปกติ ไอรุนแรงและเจ็บหน้าอก ก็ให้สงสัยไว้ก่อนได้เลยว่าเป็นอาการของไวรัสไข้หวัดใหญ่ เมื่อรู้ตัวแล้วควรไปตรวจที่โรงพยาบาลทันทีและรักษาตามอาการโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดด้วย

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B สามารถแพร่เชื้อติดต่อกันได้ผ่านลมหายใจ น้ำลายจากการไอจาม และสารคัดหลั่งที่มาจากผู้ติดเชื้อ และมีวัคซีนที่ป้องกันเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ได้เหมือนกัน แต่เชื้อไข้หวัดใหญ่ทั้งสองก็มีความแตกต่างกันอยู่ คือ เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อาจแพร่มาจากสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นที่เป็นตัวแพร่เชื้อก็ได้ ขณะที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B จะแพร่จากคนสู่คนเท่านั้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/geralt-9301/

ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แพร่ระบาดได้เร็วกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แพทย์และผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำว่า หากเริ่มมีอาการไข้หวัดใหญ่ต้องเข้ารับการตรวจรักษา เพื่อประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อยู่รอบข้าง เพราะไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ A หรือ B ก็อันตรายไม่ต่างกันค่ะ

5 เคล็ดลับ ป้องกันไข้หวัดใหญ่

1.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์

2.ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ช้อน แก้วน้ำ เป็นต้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/anestiev-2736923/

3.เมื่อต้องไปยังพื้นที่แออัด โรงพยาบาล หรือเข้าใกล้ผู้ป่วย ต้องสวมหน้ากากอนามัยเสมอ

4.เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารเสริมวิตามินซี  เป็นต้น

5.ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามตารางฉีดวัคซีน โดยเฉพาะคนในกลุ่มเสี่ยง นั่นคือ ผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือนจนถึงวัยรุ่นอายุ 19 ปี นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้ป่วยเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคปอดด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/werbehoch-7285350/

10 อาหารที่ดีที่สุด กินต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้

  1. ซุปไก่
  2. กระเทียม
  3. น้ำมะพร้าว
  4. ชาร้อน
  5. น้ำผึ้ง
  6. ขิง
  7. อาหารเผ็ด
  8. กล้วย
  9. ข้าวโอ๊ต
  10. มะนาว

เมื่อได้รู้จักกับไวรัสไข้หวัดใหญ่กันแล้ว ก็อย่าลืมดูแลตัวเอง และป้องกันตัวเองจากไวรัสตัวร้ายด้วยการทำตามวิธีที่ DooDiDo แนะนำมาข้างต้นนะคะ เพียงรับประทานอาหารทั้ง 10 อย่างนี้คุณก็จะห่างไกลจากไวรัสไข้หวัดใหญ่อย่างแน่นอนค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.shopback.co.th/blog/health-