ไม่อยากเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ ต้องทาน 5 อาหารช่วยบำรุงสมอง!!

WM

การเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ได้

อาการขี้หลงขี้ลืมก็มีกันอยู่ทุกคนค่ะ แต่ส่วนใหญ่สาเหตุจะมาจากการที่เราไม่มีสมาธิกับการทำสิ่งนั้นๆ จึงไม่ได้สนใจจดจำ หรือคิดทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน ทำให้สมาธิในการจดจำสั้นลง และนำไปสู่โรคความจำเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม 60-70% ของกรณีภาวะสมองเสื่อม โรคเกี่ยวกับระบบประสาทเรื้อรังนี้มักจะเริ่มต้นอย่างช้า ๆ แลแย่ลงตามกาลเวลา อาการเริ่มแรกอาจรวมถึงการสูญเสียความจำและมีปัญหาเกี่ยวกับความคิด อาการของโรค เมื่อหนักเข้าอาจรวมถึงปัญหาเกี่ยวกับสภาวะอารมณ์ ภาษา การสูญเสียของแรงจูงใจ ไม่จัดการดูแลตนเองของคนและปัญหาพฤติกรรม

ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ไม่เป็นที่รู้จัก อย่างไรก็ตามประมาณร้อยละ 70 ของกรณีที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุของการบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึมเศร้าหรือความดันโลหิตสูง หากคุณเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงของความทุกข์ทรมานจากอาการสมองเสื่อม, การเลือกบริโภคอาหารที่สำคัญบางอย่างที่สามารถช่วยได้มาก ในความเป็นจริงอาหารหลายชนิดสามารถปรับปรุงสุขภาพองค์ความรู้ของคุณและลดความเสี่ยงของโรค

5 อาหาร ป้องกันความเสี่ยงจากโรคอัลไซเมอร์

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/couleur-1195798/

1. บลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่จะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งสามารถป้องกันสมองจากความเสียหายขั้นรุนแรง บลูเบอร์รี่ยังปกป้องร่างกายจากสารเหล็กที่เป็นอันตรายที่สามารถก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับความเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ เส้นโลหิตตีบ และพาร์กินสัน

นอกจากนี้สารอาหารจากพืช, anthocyanins และ proanthocyanidins ในบลูเบอร์รี่ยังมีประโยชน์สูงต่อประสาท

มีการศึกษา ในปี 2016 นำโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซินซินเนติ รายงานว่าบลูเบอร์รี่อาจจะเป็นอาวุธที่ใช้ต่อสู้ในสงครามกับโรคอัลไซเมอร์เป็นอย่างดี การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระในผลเบอร์รี่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบของภาวะสมองเสื่อม
คุณสามารถรับประทานผลเบอร์รี่สด หรือจะนำมาทำเป็นสมูธตี้หรือใส่ในสลัดจานโปรดก็ได้

2. ผักคะน้าและผักใบเขียวอื่น ๆ
ผักใบเขียว เช่น ผักคะน้าและผักใบเขียวอื่นๆมีคุณสมบัติอย่างดีในการป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ คะน้าเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับการบำรุงสมอง

การศึกษาในปี 2013 ของ National Academy of Sciences แสดงให้เห็นถึง การเพิ่มวิตามิน B สามารถที่จะชะลอการหดตัวของสมองที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ได้ นอกจากนี้วิตามิน Kในผักคะน้าและผักใบเขียวอื่น ๆ จะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพดีขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@ninjason

3. ชาเขียว
เครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และบำรุงสมอง ชาเขียวคือเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับการเพิ่มสารอาหารเหล่านี้ ชาเขียวนั้นมีคุณสมบัติและสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ที่ดีต่อสุขภาพหลอดเลือดในสมองเพื่อที่จะสามารถทำงานอย่างถูกต้อง นอกจากนี้การดื่มชาเขียวช่วยหยุดการเจริญเติบโตของคราบจุลินทรีย์ในสมองที่เกี่ยวข้องกับอาการสมองเสื่อมและพาร์กินสันทั้งสองความผิดปกติทางระบบประสาทที่พบบ่อยที่สุด

โพลีฟีนในชาเขียวช่วยในการลดริ้วรอยและโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ในความเป็นจริง catechins ในชาเขียวยังทำงานเป็น modulators ของการส่งสัญญาณภายในเซลล์ประสาทและการอยู่รอดของเซลล์ ปัจจัยทั้งหมดนี้ช่วยปกป้องกลไกสมอง ลดริ้วรอยและลดการเกิดของภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์
ดื่มชาเขียว 2-3 ถ้วย เป็นประจำทุกวันเพื่อปกป้องสุขภาพในระยะยาวของสมองของคุณ

4. อบเชย
หนึ่งในเครื่องเทศที่นิยมที่สามารถช่วยสลายคราบจุลินทรีย์ในสมองและลดการอักเสบของสมองที่อาจทำให้เกิดปัญหาหน่วยความจำ

อบเชยมีประสิทธิภาพในการป้องกัน การเกิดผลกระทบจากโรคทางสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ การไหลเวียนของโลหิตที่ดีขึ้นไปยังสมอง

แม้แต่การสูดดมกลิ่นหอมของมันยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยการทำงานเกี่ยวกับสมองได้อีกด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@carolineattwood

5. ปลาแซลมอน
กรดโอเมก้า 3 กรดไขมันที่พบในปลาแซลมอนมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการเสื่อมและรูปแบบอื่น ๆ ของภาวะสมองเสื่อม กรด docosahexaenoic (DHA) ประเภทของโอเมก้า 3 กรดไขมันที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการพัฒนาของโรคสมองเสื่อม มันจะชะลอการเจริญเติบโตของการเสื่อมของโรคในสมอง

เพราะในปัจจุบันพบว่าเพราะความเครียด มลพิษ ปัญหาต่าง ๆ ที่เร่งเร้า และอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรากลายเป็นคนขี้ลืม  หรืออัลไซเมอร์ได้ ฉะนั้น DooDiDo คิดว่าอย่าชะล่าใจไปนะคะ ว่าการลืมของเราเป็นเพียงอาการเล็กน้อย เพราะความเครียดหรือความไม่ใส่ใจ เพราะจริง ๆ มันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่ร้ายแรงกว่านั้นก็ได้เพื่อให้คุณๆ ตั้งตัวรับโรคนี้ได้ทันอย่าลืมที่จะสำรวจตัวเองและคนรอบข้างกันด้วยนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: http://beautyclubthailand.com