“ไขมันพอกตับ” ภัยสุขภาพของคนอ้วน รักษาได้ด้วยสมุนไพร

WM

มาดู !! สมุนไพรที่เป็นตัวช่วยรักษา “ไขมันพอกตับ”

สำหรับโรค “ไขมันพอกตับ” นั้นหลายคนอาจคิดว่าโรคนี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว โรคไขมันพอกตับ สาเหตุหนึ่งที่สำคัญมากที่ทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับคือ ความอ้วน และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม

แนวทางในการรักษาหลัก ก็คือการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม การลดน้ำหนักที่เหมาะสม ควรจะเป็นการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารร่วมกับการออกกำลังกายจะช่วยลดปริมาณไขมันที่พอกตับลงได้ และอีกหนึ่งตัวช่วยในการรักษานั่นก็คือสมุนไพรค่ะ มาดูกันค่ะว่าสมุนไพรตัวไหนบ้างที่ช่วยรักษาโรคไขมันพอกตับนี้ได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: http://oknation.nationtv.tv

โรคไขมันพอกตับ แบ่งได้เป็น 4 ระยะคือ

ระยะที่ 1: เป็นระยะมีไขมันก่อตัวอยู่ในเนื้อตับซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดผลใดๆ

ระยะที่ 2: เป็นระยะที่เริ่มมีอาการอักเสบของตับ ในระยะนี้หากไม่ควบคุมดูแลให้ดี และปล่อยให้การอักเสบดำเนินไปเรื่อยๆ เกินกว่า 6 เดือน จะกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง

ระยะที่ 3: เป็นระยะที่มีการอักเสบรุนแรง ก่อให้เกิดพังผืดในตับ เซลล์ตับค่อยๆ ถูกทำลายลง

ระยะที่ 4: เป็นระยะที่เซลล์ตับถูกทำลายไปมาก ตับไม่อาจทำงานได้ตามปกติอีกต่อไป ตับแข็ง และอาจกลายเป็นมะเร็งตับ

ปัจจุบัน มีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยโรคไขมันพอกตับนี้แทบจะไม่แสดงอาการ หรืออาจแสดงอาการเพียงเล็กน้อย เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ มีอาการตึงๆ บริเวณใต้ชายโครงขวา แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะพบโรคนี้ด้วยความบังเอิญเมื่อมารับการตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจอัลตรา ซาวด์เพื่อรักษาโรคอื่น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/jarmoluk-143740/

โรคไขมันพอกตับ หรือไขมันเกาะตับ หรือไขมันจุกตับ (Fatty liver) คือโรคที่มีไขมันเข้าไปอยู่ในเซลล์ตับเกินปกติ คือ ประมาณ 5-10 % ของตับโดยน้ำหนัก โดยทั่วไปมักเป็นไขมันชนิดไตรกลีเซรายด์(Triglyceride) ซึ่งจะพบใน 75% ในคนที่เป็นโรคอ้วน, 50.1% ของผู้ป่วยเบาหวาน และ 57.7% ของผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ โดยวินิจฉัยได้จากการตรวอัลตราซาวน์ และตรวจเลือดดูค่าตับ หากไม่ได้รับการรักษา จะนำไปสู่โรคตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้ในที่สุด

รักษาอย่างไรดี

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/couleur-1195798/

1. แนวทางการรักษา คือ การลดละเลิกเหล้า แอลกอฮอล์ ควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก เลิกกินขนมจุกจิก ขนมขบเคี้ยว ลดแป้ง ลดหวาน ลดการรับประทานเนื้อแดงจากสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว งดดื่มน้ำอัดลมและน้ำผลไม้ปรุงแต่ง บริโภคอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ ผัก และควรออกกำลังกายเป็นประจำ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/sarahisaghost-4499024/

2. สำหรับ สมุนไพรทางเลือกบำรุงตับ และสามารถใช้ในภาวะไขมันพอกตับได้ ได้แก่ ขมิ้นชัน โดยรับประทานครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหาร 3 มื้อ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/sarangib-37542/

3. มะขามป้อม หรือ ตรีผลา (สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม) รับประทานครั้งละ 1 แก้ว 3 มื้อ โดยให้รับประทานต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป

4. ลูกใต้ใบ ให้ต้มดื่มครั้งละ 1 แก้ว ก่อนอาหารเช้า เย็น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://sites.google.com/site/kriengten

5. รางจืด ให้รับประทาน 2 แคปซูล ก่อนอาหาร 3 มื้อ โดยรับประทาน 7 วัน เว้น 4 วัน และหากรับประทานร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ต้องรับประทานห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

และก็คือแนวทางการใช้สมุนไพรรักษาโรคไขมันพอกตับ สิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่ DooDiDo อยากจะแนะนำ ก็คือการไปพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ และติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกัน ไขมันพอกตับค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://goodlifeupdate.com/healthy-body/187388.html