โรคหัดในเด็ก ภัยร้ายของลูกน้อยที่พ่อแม่ต้องระวัง!!

WM

“โรคหัด” เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี

เมื่อลูกมีอาการเจ็บป่วย เป็นไข้ พ่ออแม่ทุกคนย่อมจะเกิดความไม่สบายใจ กังวลใจว่าลูกจะเป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งหากลูก ๆ มีอาการเจ็บป่วย มีไข้ หรือมีผื่นแดงขึ้นตามตัว พ่อแม่ต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์กันนะคะ เพราะอาการเหล่านี้อาจเสี่ยงทำให้ลูกเป็น โรคหัด ได้ค่ะ เพราะโรคหัดเป็นโรคติดต่อสามารถระบาดได้มากกับเด็กเล็ก ในบางครั้งมีภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงเช่น ปอดบวมและไข้สมองอักเสบสามารถอันตรายถึงชีวิตได้ พ่อแม่อย่านิ่งนอนใจนะคะ

โรคหัด เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี ซึ่งโรคนี้หากเกิดภาวะแทรกซ้อนก็อาจทำให้ได้รับอันตรายร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่ถึง 6 เท่า โดยการหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในอาการจากการไอ จาม ของผู้ป่วยหรือจากการสัมผัสน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วยโดยตรง ดังนั้นผู้ปกครอบควรหมั่นสังเกตอาการของลูก หากมีอาการน่าสงสัยหรือผิดปกติ ควรพาลูกมาพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาและคลายความกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/user18526052

สาเหตุของโรคหัด
โรคหัด เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Rubeola Virus เป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายโดยการหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในอาการจากการไอ จามของผู้ป่วยหรือจากการสัมผัสน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วยโดยตรง เชื้อไวรัสหัดสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสองชั่วโมงในอากาศ หรือบนพื้นผิวสิ่งของที่มือของผู้ป่วยที่มีเชื้อติดอยู่สัมผัส

อาการของโรคหัด
โรคหัดจะมีอาการคล้ายกับหวัด โดยเริ่มมีอาการประมาณ 10 วัน หลังติดเชื้อจะมีอาการดังต่อไปนี้
– อาการคล้ายหวัด เช่น คัดจมูก ไอ จาม
– ปวดตา ตาแดง น้ำตาไหล
– มีไข้สูง 40 องศาเซลเซียส
– ปวดกล้ามเนื้อ
– เบื่ออาหาร
– เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
– ต่อมน้ำเหลืองโต
– เกิดจุดสีเทาขาวภายในกระพุ้งแก้ม

ภาวะแทรกซ้อนของโรคหัด
โดยส่วนใหญ่แล้วอาการแทรกซ้อนที่พบบ่อย ได้แก่
– หูชั้นกลางอักเสบ
– ปอดอักเสบ
– สมองอักเสบ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/senivpetro

ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
– ทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า6 ปี
– ผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป
– หญิงตั้งครรภ์
– ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว และผู้ติดเชื้อเอชไอวี

การรักษาโรคหัด
เนื่องจากยังไม่มียาต้านไวรัสโรคหัด ดังนั้นหากเด็กเป็นโรคหัด ให้ดูแลเหมือนเป็นไข้หวัด คือ ดูแลประคับประคองตามอาการ เช่น ให้ดื่มน้ำและพักผ่อนมาก ๆ เน้นให้เด็กทานอาหารที่มีโปรตีน หากมีไข้ให้กินยาพาราเซตามอลในปริมาณที่แพทย์แนะนำ และเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ

โรคหัดในเด็กตามที่ ได้นำมาเสนอให้คุณพ่อคุณแม่คอยระวังและสังเกตลูกน้อยอย่างใกล้ชิดแล้ว DooDiDo พ่อแม่ต้องป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย ซึ่งโรคหัดสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน เป็นวัคซีนตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องฉีดให้เด็กทุกคน พ่อแม่ต้องคอยใส่ใจพาลูกไปฉีดตามวัยกันด้วยนะคะ  หากพบอาการผิดปกติกับอาการป่วยของลูกน้อยคุณพ่อคุณแม่อย่านิ่งนอนใจ รีบพาลูกน้อยมาพบแพทย์เพราะเด็กอาจเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นได้นั่นเอง

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.bpksamutprakan.com