“โทนเนอร์”ช่วยในการปรับสภาพผิวให้เหมาะแก่การรับการบำรุงจากครีม
แนะนำ “โทนเนอร์” ไอเท็มเด็ด ทำความสะอาดสิ่งตกค้างบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึก
เครื่องสำอางที่สาวๆ ใช้กันอยู่ทุกวันนั้น เป็นสิ่งที่ใช้ตกแต่งใบหน้าของเราให้สวยงาม แต่หากเราไม่ทำความสะอาดให้ดี เครื่องสำอางเหล่านี้ก็คือศัตรูตัวร้าย ที่ก่อให้เกิดปัญหาบนใบหน้าของสาวๆ ได้ค่ะ ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “โทนเนอร์” หรือ “โลชั่นเช็ดหน้า” ไอเท็มเด็ดที่สาวๆ ที่แต่งหน้าขาดไม่ได้นั่นเองค่ะ
โทนเนอร์ (Toner) เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหลังจากการล้างหน้า ที่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าได้เป็นอย่างล้ำลึก และนอกจากการทำความสะอาดผิวแล้ว โทนเนอร์ยังช่วยในการปรับสภาพผิวให้เหมาะแก่การรับการบำรุงจากครีมและเซรั่มต่างๆ รวมถึงปรับให้ผิวไม่มัน กระชับรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยดำ รอยแดง และลดการเกิดสิวได้อีกด้วย วันนี้เราได้รวบรวม แบรนด์โทนเนอร์ ไอเท็มเด็ดในการทำความสะอาดผิวหลังล้างหน้ามาฝากค่ะ
โทนเนอร์ใช้ตอนไหน
การใช้โทนเนอร์ จะใช้หลังจากการทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งแล้ว โดยใช้ผ้าขนหนูซับหน้าให้แห้ง แล้วทาโทนเนอร์ตาม สามารถใช้ได้ทั้งหลังล้างหน้าตอนเช้า และหลังล้างหน้าตอนเย็น วันละ 2 ครั้ง
1. Round Lab 1025 Dokdo Toner
ใครอยากได้โทนเนอร์เกาหลี แต่ไม่รู้จะเลือกโทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี แนะนำยี่ห้อ Round Lab เพราะได้รับรางวัล #1 Award Winning Toner การันตีจาก Hwahae Skincare App เลยทีเดียว คุณสมบัติเด่นของโทนเนอร์ตัวนี้คือ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว คืนความชุ่มชื้นแก่ผิว และยังลดการระคายเคืองอีกด้วย ไม่มีการใส่น้ำหอม และปราศจากแอลกอฮอล์ ใครที่ผิวบอบบางสามารถใช้โทนเนอร์ตัวนี้ได้
ราคา : 590 บ. (200 ml.), 220 บ. (50 ml.)
2. The Ordinary Glycolic Acid 7% Toning Solution
แบรนด์สกินแคร์สายมินิมอล ที่นอกจากแพ็กเกจจะดูคูลแล้ว แบรนด์นี้ยังเน้นใส่เฉพาะ Active Ingredient เพื่อให้เกิดผลต่อผิว ลดโอกาสการระคายเคืองผิว แล้วตัดส่วนผสมอื่นๆ ออกไป ซึ่งโทนเนอร์ตัวนี้จะเน้นหนักไปที่การผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำ คืนผิวใส แถมยังให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เหมาะกับผิวทุกแบบยกเว้นคนที่ผิวบางแพ้ง่ายอาจจะไม่เหมาะกับตัวนี้ เพราะมีการผลัดเซลล์ผิวค่อนข้างหนัก เพราะมี Glycolic Acid 7%
ราคา : 590 บ. (240 ml.)
3. Tomato Glow Recipe Toner
โทนเนอร์มะเขือเทศสีชมพูน่ารักน่าใช้ เป็นสูตรอ่อนโยน สามารถใช้ได้ 3 วิธี ไม่ว่าจะเช็ดให้ทั่วหน้า ใช้ตบผิวเบาๆ เติมสารบำรุงผิว หรือจะมาสก์หน้าก็ได้ โทนเนอร์ตัวนี้ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน ซิลิโคน และสารอื่นๆ ที่อาจระคายเคืองผิว สารสกัดหลักจะมาจากมะเขือเทศ และยังมีสารอื่นๆ รวมกว่า 12 ชนิด เน้นการต้านอนุมูลอิสระ ลดความหมองคล้ำ กระชับรูขุมขน ลดการอุดตันของผิวได้เป็นอย่างดี
ราคา : 290 บ. (100 ml.)
4. SON&PARK Beauty Water
ตัวนี้เป็นมากกว่าโทนเนอร์ เพราะยังสามารถใช้เช็ดเครื่องสำอาง ใช้เป็นน้ำตบ หรือจะใช้มาสก์หน้าก็ได้ เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย แถมยังเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกแบบธรรมชาติ เจ้าของแบรนด์เป็นช่างแต่งหน้าเบอร์ต้นๆ ของเกาหลีอีกด้วย นอกจากสารสกัดจากพืชธรรมชาติ 4 ชนิดที่ช่วยทำความสะอาดผิวล้ำลึกแล้ว ยังช่วยผลัดเซลล์ผิว และคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้กลับมาฉ่ำน้ำ
ราคา : 250 บ. (60 ml.), 879 บ. (340 ml.), 1,300 บ. (500 ml.)
5. Thayers Witch Hazel Toner
อยากได้โทนเนอร์ออร์แกนิก ต้องซื้อโทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี Thayers Witch Hazel Toner คงเป็นคำตอบแรกๆ ที่หลายคนจะเอ่ยถึง ซึ่งมีแยกออกไปอีกทั้งหมด 4 สูตรคือ Thayers Rose Petal ที่เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวมันขาดน้ำ ช่วยกระชับรูขุมขน เติมน้ำให้ผิว Thayers Cucumber สำหรับผิวแห้งและหมองคล้ำ มีวิตามินซี กรดคาเฟอิก ช่วยลดอาการบวม ลดการระคายเคืองผิว Thayers Lavender เหมาะกับผิวที่แพ้ง่ายหรือเกิดสิวได้ง่าย ช่วยต้านแบคทีเรีย และ Thayers Unscented เหมาะกับผิวแพ้ง่ายและผิวผสม ไม่มีกลิ่น
ราคา : 290 บ. (89 ml.), 690 บ. (355 ml.)
โทนเนอร์ทั้ง 5 แบรนด์ที่ DooDiDo นั้นดีงามทุกๆ แบรนด์เลยค่ะ ไม่ว่าจะใช้แบบไหน อย่าลืมว่าต้องเช็ดหน้าอย่างอ่อนโยนทุกครั้งนะคะ ไม่ต้องเช็ดอย่างหนักหน่วงเพราะกลัวหน้าไม่สะอาดนะคะสาวๆ เพราะนั่นอาจกลายเป็นการทำร้ายผิวโดยไม่ตั้งใจ ให้ค่อยๆ เช็ดเบาๆ เพื่อถนอมใบหน้าสวยๆ ให้อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://shopee.co.th/blog/best-facial-toners-every-skin-type/
