แนะวิธีช่วยอาการแก้ผดผื่น คัน ตามร่างกายในช่วงฤดูร้อนนี้!!

WM

วิธีดูแล “โรคผดผื่น” ที่มาพร้อมกับอากาศร้อน
“โรคผดผื่น” ที่จะมาเป็นคู่ประจำหน้าร้อนสำหรับบ้านเราที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรรับความร้อนจากดวงอาทิตย์ในฤดูกาลนี้ไม่ต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสในทุกๆ วัน ซึ่งโรคนี้เกิดได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนมากจะพบบริเวณจุดข้อพับแขน ขา คอ รักแร้ เอว ใต้ราวนมที่เสียดสี เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนส่งผลให้ร่างกายขับเหงื่อออกมากเป็นพิเศษทำให้เกิดการอักเสบของรูขุมขน

โรคที่มากับอากาศร้อนบางครั้งเราก้ไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้และยิ่งปัจจุบันสภาวะอากาศร้อนมากยิ่งขึ้นเมื่อรูขุมขนของเราที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อถูกทำให้เกิดการระคายเคืองก็จะเกิดเป็นตุ่มเม็ดเล็กๆ แดงๆ เป็นพรืด โดยวิธีป้องกันเบื้องต้นเราสามารถทำได้ดังนี้ และวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ที่ได้จากพืชผัก สมุนไพรในการช่วยแก้ผดผื่นคัน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/ka_re-14461006/

1. แตงกวา ที่สรรพคุณเป็นผักประเภทเย็น จึงสามารถใช้บรรเทาอาการคันจากผดผื่น ลดการลุกลาม ลดความแสบร้อนของผิวหนัง โดยการสไลด์บางๆ มาแปะบริเวณที่เกิดอาการ
2. มะนาว เนื่องจากลดความมันส่วนเกินออกจากผิวหนัง นอกจากบำรุงผิวพรรณให้แลดูกระชับเต็งตึง ซึ่งในเรื่องทำให้ลดอาการผื่นแดงที่เกิดจากการระคายเคืองได้อีกด้วย
3. ขมิ้นชัน สมุนไพรที่ขึ้นชื่อเรื่องผิวพรรณและรักษาโรคผิวหนังแทบทุกอาการ ซึ่งวิธีการแก้ผดผืน เพียงแค่เราตำเหง้าของขมิ้นให้แตกจนเกิดมีน้ำไหลซึมออกมาจากนั้นเอามาทา ซึ่งขมิ้นชันยังเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกิดอาการคันแล้วเกาจนเป็นแผล เนื่องจากขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยสมานแผลตามร่างกายให้หายเร็วยิ่งขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/rosina-sch-9903492/

4. ว่านหางจระเข้ อีกหนึ่งสมุนไพรที่ให้ผลแบบเดียวกับขมิ้นชัน โดยเราต้องฝานเปลือกออกให้เหลือแต่วุ้นแล้วนำมาทาหรือแปะบริเวณที่เกิดอาการผดผืนคัด (นอกจากนี้วุ้นของว่านหางจระเข้ยังเราสามารถแช่เย็นเก็บไว้ใช้เมื่อยามจำเป็นได้อีกด้วย)
ใบและเปลือก สะเดา
เป็นอีกหนึ่งที่ช่วยอาการของโรคนี้ได้อย่างชะงัด เพราะมีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส อาการแพ้ของผิว ลดอาการคัน
5. กล้วย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ให้ฤทธิ์เย็นเช่นเดียวกับแตงกวา ดังนั้นกล้วยจึงสามารถบรรเทาอาการผื่นคัดอันเนื่องมากจากผดแพ้ โดยใช้เปลือกกล้วยด้านในมาประคบสักระยะอาการก็จะทุเลาลง

นอกจากนี้ยังมี “เบคกิ้งโซดา” ใช้ผสม2-3ช้อนโต๊ะได้ทั้งทาและอาบ “ฟ้าทะลายโจร” นำใบมาคั้นแล้วทาบริเวณที่เกิดอาการคัน และท้ายที่สุด “ใบพลู” สมุนไพรโบราณที่มีฤทธิ์ช่วยลดอาการผดผื่นหรือการแก้ทางผิวหนัง แต่ต้องผสมกับเหล้าซึ่งตามภูมิปัญญาชาวบ้านนิยมเหล้าขาว โดยการตำแล้วคั้นเอาน้ำผมหรือชุบใบพลูให้ชุ่มแล้วทา อาการผดผื่นก็จะเบาบางลง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/hans-2/

เนื่องจากอาการแพ้ของผิวหนังหรือการเกิดผดผื่นธรรมดานั้น มีลักษณะคล้ายๆ อาการทั้ง ลมพิษ การแพ้เครื่องสำอาง หรือแพ้ยา เราจึงมีเกร็ดวิธีสังเกตเบื้องต้นเพื่อรักษาอาการได้อย่างถูกวิธี เพราะถ้าเกิดปล่อยในระยเวลานานและรักษาผิดโรคอาจเกิดผลค้างเคียงจนเสียงชีวิตได้
1. ลักษณะของผื่นลมพิษ จะมีอาการเป็นตุ่มแดงๆ หรือตุ่มใสๆ และอาการคัน เช่นเดียวกับผดผื่นธรรมดา แต่จะรู้สึกร้อนบริเวณตุ่มเหล่านี้และขนาดจะเพิ่มและขยายหนาขึ้น
2. ลักษณะของผื่นที่แพ้จากเครื่องสำอางหรือสารเคมี เราจะสังเกตได้จากหลังใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะเกิดอาการผื่นแดงคันขึ้นบริเวณนั้นๆ ในเวลาไม่นานและจะแสดงฤทธิ์อาการนานเป็นวันหรือสัปดาห์
3. ลักษณะของผื่นที่เกิดจากแพ้ยา เกิดอาการผดผื่นแดงหรือตุ่มใสๆ รวมทั้งขุ่นๆ ในบางราย โดยเมื่อมีอาการจะแห่ขึ้นทั้งตัวเหมือนหัดและมีอาการปวดแสบปวดร้อนคล้ายน้ำร้อนลวก

หากคุณลองทำตามวิธีเหล่านี้ DooDiDo เชื่อว่าอาการผดผืนก็จะหายไปในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ถ้ายังมีอาการอยู่หรือต้องการบรรเทาอาการคัน เราสามารถใช้สมนุไพรรักษาด้วยตัวเองง่ายๆ แทนยารักษาอาการคัน แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ทันที และการดูแลตัวเองทำร่างกายให้เหงื่อออกน้อยที่สุดจะอาบน้ำบ่อยขึ้นหรือหาผ้าสะอาดชุบน้ำซับเบาๆ บริเวรที่เหงื่อออก หลีกเลี่ยงอาการร้อนอบอ้าวอยู่ในที่ลมสามารถโกรก งดใส่สร้อยหรือเครื่องประดับที่รัดจนก่อให้เกิดการอับของผิวหนังด้วยนะค่ะ

ขอบคุณภาพจาก: https://mgronline.com