แนะนำ4 วิธีการดูแลตัวเองด้วยการเริ่มต้นอย่างถูกต้องและปลอดภัย

WM

มาลองเสริมความมั่นใจ และเป็นตัวเองในแบบที่ดูดีขึ้นด้วยวิธี 4 Mindset ดีๆ 

ถ้าย้อนกลับไปในยุคหลายพันปีแล้วล่ะก็ค่านิยมความงามนั้นก็มีแตกต่างกันไปใช่มั้ยล่ะคะ อย่างในช่วง ก่อน ค.ศ 500 ในกรีกโบราณนั้นจะชอบผู้หญิงแบบอวบๆ ผิวขาวหรือ 206 ปีก่อนคริสตกาล ราชวงศ์ฮั่น ก็จะมีค่านิยมความสวยคือ เอ็วบางๆ ผิวซีด ตาโต มือเท้าเล็ก และแน่นอนว่าในแต่ละยุคสมัย พื้นที่ แต่ล่ะที่นั้นก็จะมีค่านิยมแตกต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่าคำว่ารสนิยมสำหรับบางคนที่ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ก็มีปฏิกิริยาต่อต้านขึ้นมาหากว่า เรามีรสนิยมที่ไม่เป็นไปตามส่วนใหญ่ หรือก็คือการเหยียดนั่นเอง

และแน่นอนการเหยียดที่เกิดจากคำพูดแย่ๆ กับคนรอบตัวนั้นทำให้หลายๆ คนสูญเสียความมั่นใจ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าดารา ศิลปิน คนดังหรือเซเลบริตี้ก็มักจะมีปัญหาข้อกังวลใจเกี่ยวกับความงามหรือความดูดีของตัวเองอยู่ไม่น้อย เพราะด้วยอาชีพที่ต้องอยู่หน้ากล้อง อยู่ท่ามกลางคนดูดี และต้องอยู่ในสายตาของสาธารณชนอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ต้องใส่ใจดูแลตัวเองเป็นพิเศษ สำหรับบางรายอาจรู้สึกถึงความกดดันคิดว่าเป็นความรับผิดชอบว่าจะต้องดูดีอยู่เสมออย่างเรื่องของใบหน้าซึ่งเป็นส่วนที่คนทั่วไปสามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งเมื่อไหร่ที่เจอกับความเครียด การโหมทำงานหนัก พักผ่อนน้อยอย่างต่อเนื่อง

ความเจ็บป่วยอยู่ในสภาวะจิตใจอ่อนไหว หรือด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้นเหล่านี้ล้วนมีความสัมพันธ์ต่อสภาพทางร่างกายทันที ทั้งริ้วรอย ผิวที่โทรมหมองคล้ำ หรือใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาก็เป็นปัญหาที่จะตามมาทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นจุดเริ่มให้เกิดความกังวลซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อความมั่นใจที่ลดลงได้ วันนี้เราจึงขอหยิบยกข้อคิดและคำแนะนำเรื่องการจัดการความคิด ความเครียด และปรับทัศนคติในการใช้ชีวิต การดูแลสุขภาพใจ กาย ไปจนถึงความงาม เพื่อส่งเสริมความมั่นใจสำหรับทุกคน มาฝากกันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/jerzygorecki-2233926/
  1. เข้าใจตัวเอง

สิ่งแรกก่อนที่ทุกคนจะมั่นใจในตัวเองได้ และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำความรู้จักและต้องเข้าใจตัวเองให้มากที่สุดรู้ว่าตัวเราเป็นอย่างไร จุดเด่นจุดด้อยคืออะไร และมองให้เห็นปัญหาเพื่อที่จะสามารถปรับแก้หรือหาวิธีดูแลในส่วนที่ขาดความมั่นใจได้อย่างตรงจุดโดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองให้สวยตามมาตรฐานความงาม (Beauty Standard) ซึ่งตรงกับคำบอกเล่าของ หมอป้อ – พันตรี นพ. อุกฤษ จิรภัทรสุนทร แห่ง B Well Clinic at BTS อารีย์ “ปัจจุบันผู้รับบริการไม่ได้มาด้วย

โจทย์ว่าต้องการสวยหล่อแบบเพอร์เฟค แต่มาด้วยโจทย์ที่ว่า ต้องการปรับจุดด้อย เน้นจุดเด่นบนใบหน้าและยังคงความเป็นตัวเอง ที่ให้ผลลัพธ์แบบ Effortless Beauty หรือสวยหล่อแบบเป็นตัวเอง โดยไม่ต้องพยายามปรุงแต่ง”

  1. มองหาความดูดีในตัวเอง

สิ่งที่สามารถเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองได้ คือ การที่เราโฟกัสและมองในส่วนที่ดูดี หรือส่วนที่เราภูมิใจ เป็นการสะกดจิตตัวเองอย่างหนึ่ง โดยจะทำได้หลังจากการทำความเข้าใจตัวเองและรู้ถึงจุดเด่นจุดด้อยของตัวเองอย่างแน่ชัดแล้ว ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกดีและเพิ่มความมั่นใจในตัวเองได้มากยิ่งขึ้น ตามที่ นพ. วาสนภ วชิรมน สาขาวิชาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่จะทำให้เราน่ามองและดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น และมนุษย์ทุกคนควรมี คือ “Confidence to be…” หรือ ความมั่นใจในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งความมั่นใจนี้ ไม่ได้เกิดจากความรู้ แต่เกิดจากความพร้อม ในที่นี้คือ ความพร้อมที่มาจากจิตใจ และต้องมีความพร้อมด้านร่างกายมาประกอบด้วย ซึ่งความพร้อมนี้แหละที่จะทำให้เราเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ และรับมือได้อย่างมั่นใจ และเมื่อเรามีความมั่นใจ ก็จะก่อให้เกิดเป็นรากฐานที่สร้างความมั่นใจในระดับต่อไปได้ดียิ่งขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pourquoipas-257574/
  1. ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง

อีกหนึ่งความคิดที่สำคัญ คือ การยอมรับว่า ความสมบูรณ์แบบหรือความเพอร์เฟคนั้นไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ ทุกคนล้วนเกิดมามีสิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีสิ่งใดที่สามารถมาวัดมาตรฐานว่าแบบไหนคือสิ่งที่สมบูรณ์ได้อย่างแท้จริง ​ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมองและทัศนคติของแต่ละบุคคล ดังนั้นจึงไม่ควรยึดติดมากเกินไป เมื่อเราเข้าใจในพอยท์นี้ได้แล้ว จะทำให้เรามองในสิ่งที่เป็นเราและพัฒนาในสิ่งที่มี ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้นพร้อมกับความมั่นใจซึ่งจะทำให้เราดูมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจ หมอโอ๊ค – นายแพทย์ สมิทธิ์ อารยะสกุล แห่ง Smith Prive’ Aesthetique Clinic เคยให้คำแนะนำที่สนับสนุนแนวคิดไว้ว่า “ผมเชื่อว่า ความมั่นใจคือพลังในการขับเคลื่อนหลายๆ อย่างในชีวิต ความงามก็เช่นเดียวกัน ความหมายของคำว่า Confidence to be… คือ ความพึงพอใจในตัวเอง ที่จะช่วยให้เราไม่หลงไหลไปตามกระแส ซึ่งการที่เราจะก้าวไปสู่ความสมบูรณ์แบบในแบบฉบับของตัวเองได้ ต้องเริ่มจากความเข้าใจตัวเอง รู้ว่าเรามีจุดเด่นหรือจุดด้อยอะไร และต้องยอมรับว่าความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ (perfection) นั้นไม่มีอยู่จริง ไม่มีใครบอกว่าดีที่สุดคืออะไร แต่คุณต้องรู้ว่า ดีที่สุดสำหรับคุณคืออะไร” ความดูดีเริ่มต้นได้จากการเข้าใจตัวเอง และยอมรับในจุดเด่นจุดด้อยเพื่อลดความกังวลเรื่องรูปลักษณ์ที่ไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ (imperfection) และเสริมความมั่นใจได้ถูกจุด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@olly
  1. ดูแลตัวเองด้วยการเริ่มต้นอย่างถูกต้องและปลอดภัย เสริมความมั่นใจและเป็นตัวเองในแบบที่ดูดีขึ้น

หลายคนเมื่อเจอปัญหาและอยากเร่งรีบแก้ไขเพื่อเสริมความมั่นใจบนใบหน้า ถึงตอนนั้นต้องไม่ลืมที่จะศึกษาและหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องของการเสริมความงาม เพราะหากเราเริ่มต้นได้ถูกต้องและมีความปลอดภัย อย่างการยกกระชับหน้าด้วยเครื่องอัลเทอราปีแท้ ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ หรือ การเลือกใช้สารลดเลือนริ้วรอยโบบริสุทธิ์ ที่จะทำให้ไม่มีการดื้อโบและทำได้อย่างต่อเนื่อง ก็จะยิ่งส่งเสริมความดูดีในแบบที่เป็นตัวเองได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น รศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา ภาควิชาตจวิทยา (ผิวหนัง) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้คำแนะนำไว้สำหรับทุกคนที่อยากเริ่มต้นดูแลผิวพรรณที่คลีนิกเสริมความงามคือ “1) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการเป็นแพทย์จริงหรือไม่ โดยเช็คได้จากจากเว็บไซต์ของแพทยสภาหรือสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย 2) ‘ตรวจสอบคลินิก’ ว่าได้รับอนุญาตจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือไม่ และ 3) หาข้อมูลของสารที่จะใช้ให้แน่นอนเสียก่อน” ดังนั้น เพียงทำตามข้อแนะนำเหล่านี้จึงทำให้วิธีการดูแลความสวยหรือเสริมความหล่อของเราถูกต้องและปลอดภัย

คำว่าสวยหรือหล่อนั้นก็เป็นสิ่งที่เราจับต้องไม่ได้ การที่จะคนหนึ่งกลุ่มที่บอกว่าคุณไม่สวยไม่หล่อ นั้นก็เป็นเรื่องปกติ เพราะแน่นอนว่ายังไงก็ต้องมีคนอีกหลายๆ กลุ่มที่รู้สึกว่าตัวคุณนั้นสวยและดูดีอยู่เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นแล้วในบทความนี้ DooDiDo นั้นอยากที่จะให้ทุกๆ คนมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เลิกเอามารตฐานความสวย หรือคำพูด คำวิจารย์แย่ๆของคนอื่น มาบดบังความสวยงามที่ตัวคุณมีได้แล้วล่ะค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้ตัวคุณมีแต่ความคิดแย่ๆกับตัวเองแล้วก็ยังเป็นเรื่องยากที่เราจะค้นพบความสุขในตัวเองด้วย

 ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com